ซานต้าคลอสแรลลี่พลวัต 2016

หากไม่นับช่วงเวลาที่ผ่านมาปลายปีก่อน-ต้นปีนี้ซึ่งเป็นช่วงผิดปกติที่สุด มีสถิติที่นักวิเคราะห์และนักลงทุนเก๋าเกมทั้งหลายสามารถประมวลมาสรุปจากตลาดหุ้นสำคัญทั่วโลก (รวมทั้งไทยด้วย) ว่า 3 สัปดาห์ระหว่างข้ามปีก่อนวันคริสต์มาสถึงวันที่ 8 มกราคมว่าเป็นช่วงเวลาที่ขาขึ้นดีที่สุดของตลาดหุ้น


หากไม่นับช่วงเวลาที่ผ่านมาปลายปีก่อน-ต้นปีนี้ซึ่งเป็นช่วงผิดปกติที่สุด  มีสถิติที่นักวิเคราะห์และนักลงทุนเก๋าเกมทั้งหลายสามารถประมวลมาสรุปจากตลาดหุ้นสำคัญทั่วโลก (รวมทั้งไทยด้วย) ว่า 3 สัปดาห์ระหว่างข้ามปีก่อนวันคริสต์มาสถึงวันที่ 8 มกราคมว่าเป็นช่วงเวลาที่ขาขึ้นดีที่สุดของตลาดหุ้น

สถิติดังกล่าวเป็นที่มาของคำนิยามในตลาดหุ้นอเมริกาและยุโรปหลายชื่อแต่ความหมายล้วนเป็นเชิงบวกทำนองเดียวกันเพียงแต่รายละเอียดแตกต่างกัน

– ซานต้าคลอสแรลลี่หมายถึงช่วงเวลาของการวิ่งขึ้นของราคาและดัชนีหุ้นระหว่างวันคริสต์มาสจนถึงช่วงสัปดาห์สุดท้ายของปี โดยมีคำอธิบายสำคัญเกี่ยวกับการพุ่งขึ้นของแรงซื้อเพื่อการให้ของขวัญกันและกันการแจกโบนัสพนักงานการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยมาตรการลดภาษีสินค้าบริโภคและการซื้อหุ้นเก็งกำไรข้ามปีในเดือนมกราคมที่จะมาถึง

-คริสต์มาสแรลลี่เป็นช่วงเวลาที่ยาวนานกว่าซานต้าคลอสแรลลี่คือระหว่างก่อนคริสต์มาสถึง 10 มกราคมปีถัดไปกินเวลาไม่เกิน 3 สัปดาห์ด้วยความหมายเช่นเดียวกัน

– January Effect หมายถึงการกลับมาของจังหวะขาขึ้นในช่วงหลังหยุดยาวส่งท้ายปี ก่อนต้อนรับปีใหม่ที่นักลงทุนจะกลับมาซื้อระลอกใหม่ยาวนานจนเกือบสิ้นเดือนมกราคมเพราะช่วงเวลาพักยาวทำให้เปิดมุมมองใหม่ต่อการลงทุนได้และอารมณ์โดยทั่วไปแจ่มใสกว่าเดือนธันวาคมชัดเจนโดยเฉพาะแรงซื้อจะมุ่งไปที่หุ้นขนาดเล็กที่เคยถูกมองข้ามมาในเดือนก่อนหน้าเป็นสำคัญเพราะผลการดำเนินการหุ้นขนาดเล็กจะเหนือกว่าหุ้นอื่นเสมอแม้ว่าอาจจะมีผลต่อดัชนีรวมไม่เยอะแต่ก็ทำให้มูลค่าซื้อขายคึกคักขึ้นด้วยอย่างมีนัยสำคัญ

– December Effect ปรากฏการณ์ของความผันผวนราคาหุ้นที่ต่างกันระหว่างต้นเดือนและปลายเดือนธันวาคมทำให้เป็นเดือนที่พิเศษน่าจับตามองโดยครึ่งแรกของเดือนจะเป็นจังหวะพักฐานจากแรงเทขายก่อนปิดเทศกาลส่งท้ายปีเก่าที่ขาใหญ่และผู้จัดการกองทุนจะไปพักยาวทำให้ดัชนีหุ้นขึ้นยากแต่ครึ่งหลังของเดือนรายย่อยจะฉกฉวยโอกาสตอนมูลค่าซื้อขายต่ำพากันเข้าซื้อหุ้นเก็บข้ามปีเพื่อเก็งกำไรและหากมีบรรยากาศที่ดีก็จะกำไรมากจากแรงส่งของการคาดเดางบงวดสิ้นปีของบริษัทพื้นฐานดีที่จะทยอยประกาศในเดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นไปแล้วอาจจะมีเรื่องการจ่ายปันผลควบคู่ไปด้วย

ปรากฏการณ์ที่ว่ามาทั้งหมดนี้ไม่ใช่สูตรสำเร็จเพราะเป็นแค่สถิติที่หยาบและยังไม่ได้รับการทดสอบอย่างเป็นระบบที่สำคัญในบางปีที่วนเวียนกลับก็ไม่เกิดขึ้นและอาจจะทำให้นักลงทุนขาดทุนได้ง่าย 

ทำนองเดียวกันกับสูตรประหลาดที่มีคนพยายามเสนอว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยในปีที่ลงเอยด้วยเลข 0 หรือทุกๆ 10 ปีจะมีวิกฤตเกิดขึ้นซึ่งไม่จริงเสมอไปเช่นกัน

ดังนั้นการคาดเดาปรากฏการณ์ล่วงหน้าว่าจะมีซานต้าคลอสแรลลี่จึงตั้ังบนสมมติฐานเปราะบางพอสมควรเหตุผลสำคัญคือสถานการณ์ปัจจุบันกับในอดีตที่คำนิยามนี้เกิดขึ้นมาเมื่อ 50 ปีเศษ  แตกต่างกันทั้งในแง่ของกติกากรรมวิธีเก็งกำไรและตัวสินค้า

สถานการณ์ระยะกลางที่ผ่านมาจะเห็นว่านับจากชัยชนะผิดคาดของโดนัลด์ทรัมป์ในการเลือกตั้งสหรัฐจนถึงมติเอกฉันท์เหนือคาดของโอเปกในการลดกำลังการผลิตน้ำมันด้วยแรงส่งของรัสเซียมาจนถึงปัจจัยที่รอข้างหน้าคือการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดเพื่อสกัดเงินเฟ้อล้วนมีผลสะเทือนต่ออารมณ์ในการลงทุนที่ต้องมีกติกา 

ภาวะทางลบที่เกิดขึ้นมากกว่าแค่ปัจัยทั้งทางตรงและอ้อมอื่นๆ ทำให้โอกาสที่ดัชนีในช่วงต้นเดือนธันวาคม ทำให้หุ้นธนาคารและไฟแนนซ์ถูกขายทำกำไร ในขณะที่การคาดเดาว่าโอกาสเต็มร้อยของการขึ้นดอกเบี้ยสกัดเงินเฟ้อกลางเดือนนี้ของเฟดต้องเกิดขึ้น ทำให้ดัชนีตลาดหุ้นนิวยอร์กแกว่งตัวแคบจนขาดนัยสำคัญ ในยามที่สัญญาณเทคนิคระบุถึงการพักฐานสั้นๆ ในสัปดาห์หน้า เป็นความท้าทายต่อแรงซื้อด้วยศรัทธา

แรงขายจากความวิตกถึงผลสะเทือนของเฟด ด้านหนึ่งคือโอกาสซื้อของถูกที่มีความเสี่ยงเจือปนอยู่ด้วย 

ความเสี่ยงดังกล่าวเป็นเรื่องปกติของตลาด เพื่อพิสูจน์ปรากฏการณ์เดือนธันวาคมปีนี้ว่าด้วย “ซานต้า คลอส แรลลี่” หรือ “คริสต์มาส แรลลี่” อันคุ้นเคยกันดี ว่าจะมีหรือไม่ และแรงแค่ไหน

แน่นอนว่าในระยะครึ่งแรกของเดือน ตัวเลขจากกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานตัวเลขที่ดีเกินคาด ว่าตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 178,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. ขณะที่อัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 4.6% จาก 4.9% ในเดือนต.ค. โดยที่ภาคเอกชนมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 156,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. ขณะที่ภาครัฐจ้างงานเพิ่มขึ้น 22,000 ตำแหน่ง ตอกย้ำถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐได้ดี ว่าหากจะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ก็ไม่มีผลรุนแรงต่อสหรัฐ

ดังนั้น การพักฐานของวอลล์สตรีทในขณะที่ค่าดอลลาร์เริ่มทรงตัวชั่วคราวในไม่กี่วันข้างหน้าจึงเป็นปรากฏการณ์ชั่วคราวแต่ก็ถือเป็นโอกาสที่ทำให้มุมมองใหม่ที่เพิ่มความหวังสำหรับการลงทุนว่าตลาดจะเป็นขาขึ้นในช่วงครึ่งหลังของเดือนธันวาคมเพราะตลาดรอการเปลี่ยนแปลงที่ดีกว่าปีนี้เพราะภาวะเงินฝืดหรือเงินเฟ้อติดลบ 

ความโน้มเอียงจะเกิดซานต้าคลอสแรลลี่จึงถือเป็นอารมณ์ที่ส่งผลบวกต่อการลงทุนอย่างแท้จริง 

สำหรับตลาดหุ้นไทยหากไม่นับความยากลำบากทางด้านผลประกอบการของหุ้นกลุ่มสื่อโทรทัศน์และสื่อสารแล้วทิศทางขาขึ้นของหุ้นหลักอย่างธนาคารค้าปลีกพลังงานและบริการเป็นสิ่งที่สัมผัสได้

 

Back to top button