สถานการณ์เดิมๆโมนิก้าและทีมงาน

*ประเด็นที่ทำให้ “โมนิก้า” รู้สึกหงุดหงิดทุกครั้งที่เห็นดัชนีปรับตัวขึ้นแรง และวันถัดมาทำท่าจะไปต่ออีกวัน มันคือท่าทีของผู้คนที่พยายามขุดข่าวดีมาเล่าให้แมงเม่าฟังครั้งแล้วครั้งเล่า แถมเป็นประเด็นเดิมๆ ที่ผู้คนต่างรับรู้กันอย่างหมดไส้หมดพุง จึงอยากให้แฟนคลับ “ข่าวหุ้น” เข้าใจถึงนโยบายโลกสวยเริ่มปรากฏให้เห็นอีกครั้ง ย่อมเป็นตัวเร่งการเล่นเก็งกำไรสั้นๆ จะเกิดขึ้นถี่นะจะบอกให้


*ประเด็นที่ทำให้ “โมนิก้า” รู้สึกหงุดหงิดทุกครั้งที่เห็นดัชนีปรับตัวขึ้นแรง และวันถัดมาทำท่าจะไปต่ออีกวัน มันคือท่าทีของผู้คนที่พยายามขุดข่าวดีมาเล่าให้แมงเม่าฟังครั้งแล้วครั้งเล่า แถมเป็นประเด็นเดิมๆ ที่ผู้คนต่างรับรู้กันอย่างหมดไส้หมดพุง จึงอยากให้แฟนคลับ “ข่าวหุ้น” เข้าใจถึงนโยบายโลกสวยเริ่มปรากฏให้เห็นอีกครั้ง ย่อมเป็นตัวเร่งการเล่นเก็งกำไรสั้นๆ จะเกิดขึ้นถี่นะจะบอกให้

*เนื่องจากเที่ยวนี้เป็นการประลองกำลังระหว่างกองทุนกับฝรั่งตาน้ำข้าว โดยการใช้แมงเม่าเป็นตัวเดินเกมทั้งหมดนั้น มันเป็นเกมที่เคยเห็นมาแล้วหลายรอบด้วยกัน “โมนิก้า” ถึงไม่แปลกใจที่วันนี้มีคำแนะนำให้เล่นหุ้นที่ได้รับอานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะเป็นมุกเดียวที่ยังใช้ได้อยู่ในเวลานี้ และยังทำให้ผู้คนทั่วไปรู้สึกฮึกเหิมอย่างผิดหูผิดตาไงล่ะค่ะ

*หากให้เดาจากรูปการณ์ที่เกิดขึ้นเที่ยวนี้ มีความเป็นไปได้ที่ดัชนีจะทะยานขึ้นไปปิดแก๊ปที่เปิดไว้บริเวณ 1,365 จุด และหากมีแรงซื้อมากพอก็จะดันดัชนีขึ้นไปปิดแก๊ปที่เปิดไว้ที่ 1,400 จุดอีกทีหนึ่ง แต่ทันทีที่ “โมนิก้า” ได้ยินคำพูดหลุดจากปากคุณพี่ “อภิศักดิ์”  รมว.คลัง ซึ่งโพนทะนาอย่างมั่นใจว่า GDP ไม่ใช่ประเด็นหลัก แต่ประเด็นอยู่ที่มาตรการช่วยประชาชน!..อุ๊แม่เจ้า..ไม่น่าเชื่อว่า มันสมองระดับประเทศจะออกทะเลไปได้ไกลขนาดนี้ เพราะคำพูดดังกล่าวไม่ได้ช่วยให้ผู้คนมีความมั่นใจมากขึ้นเลยเจ้าค่ะ

*ด้วยเหตุนี้กระมั้ง! ถึงทำให้ดัชนีในช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้าย ทรุดตัวจากแดนบวกลงสู่แดนลบอย่างรวดเร็ว ก่อนจะมาปิดที่ระดับ 1,320.08 จุด ลบไป 3.80 จุด ด้วยมูลค่า 4.58 หมื่นล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นสถานการณ์เดิมๆ ที่ทุกคนเตรียมใจมาเป็นอย่างดีแล้ว จึงไม่ต้องถามหาเหตุผลในการเข้าลงทุนแต่ละวัน เพราะทุกคนมีแนวความคิดในการซื้อหุ้นไม่เหมือนกันพะยะค่ะ

*บวกกับข้อมูลชุดล่าสุดที่ชี้ชัดว่า กองทุนเข้ามาเก็บหุ้นตั้ง 5.40 พันล้านบาท ทำไมดัชนีไม่ทะยานขึ้นไปอย่างร้อนแรง? เดี๊ยนขอสวนกลับอย่างทันควันว่า ก็เขากำลังอยู่ในช่วงเก็บของถูกเข้าพอร์ต จึงไม่จำเป็นต้องไปไล่หุ้นให้มีราคาสูงขึ้น ขนาดวานนี้ฝรั่งตาน้ำข้าวสาดหุ้นออกมา 4.40 พันล้านบาท และปอบผีฟ้าทิ้งออกมาอีก 1.26 พันล้านบาท ดัชนียังลบไปแค่เล็กน้อย..มันฟ้องว่า กองทุนคุมเกมได้หมดแล้วนะจ๊ะ

*เหมือนกับการเคลื่อนตัวของหุ้นกลุ่มแบงก์ KTB  KBANK  SCB ทั้งหลายทั้งมวลมาจากแนวทางของกองทุน ช่วงไหนโปรฯหุ้นตัวไหนเป็นพิเศษ ช่วงนั้นมักเห็นหุ้นทะยานขึ้นผิดหูผิดตา “โมนิก้า” ถึงค่อนข้างชินกับการแกว่งตัวไปคนละทิศคนละทาง และไม่เคยคาดหวังจะได้รับผลตอบแทนเป็นกอบเป็นกำ เพราะหุ้นเหล่านี้ยังไม่หลุดพ้นจากแรงเทขายต่างชาตินะซี

*เมื่อสถานการณ์หลายอย่างยังไม่เข้าที่เข้าทาง ทางเลือกเดียวที่จะทำได้ในเวลานี้คือ “ช่วยตัวเอง”(อย่าคิดลึก ถ้าคิดลึก ผลลัพธ์จะเป็นอีกแบบ) และหุ้นที่ทำได้ดีสุดในยามนี้คือ CPF ประกาศโครงการซื้อหุ้นคืน (Treasury Stock) จำนวน 400 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 5.17% ในวงเงิน 10,000 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นการแก้เกมที่เข้ากับสถานการณ์สุดๆ วานนี้ถึงเห็นหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 18.70 บาท บวกไป 1.20 บาท หรือขึ้นไป 6.90% ด้วยมูลค่า 1.20 พันล้านบาท พร้อมกับเปิดโอกาสให้หุ้นวิ่งต่อแบบนี้ กลายเป็นพระเอกในทันทีเลยนะจ๊ะ

*ส่วนคนตกที่นั่งลำบากในคราวนี้กลายเป็น AQ จู่ๆ เกิดรายการไม่คาดฝันขึ้น ย่อมกระทบกระเทือนราคาหุ้นในกระดานเป็นธรรมดา และดูเหมือนว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเที่ยวนี้ทำให้คนที่ถือหุ้นช็อกไปตามกัน ราคาหุ้นถึงดิ่งลงมาปิดที่ 0.29 บาท ลบไป 0.12 บาท หรือลงไป 29.27% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 975 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นอีกหนึ่งรายละเอียดที่ต้องรอให้ผู้บริหารออกมาชี้แจงให้สังคมได้รับรู้..หากชี้แจงเคลียร์ และบอกเล่าผลกระทบมีแค่ไหน หุ้นรีบาวด์แรงแน่นอน..หากชี้แจงไม่เคลียร์ ได้เห็นอีกหลายฟลอร์เช่นกันเจ้าค่ะ

*แม้หลายคนจะออกอาการเป๋ไม่เป็นท่า แต่สำหรับเจ้าโปรเจ็กต์อย่าง SUPER กลับสามารถสวนกระแสได้อย่างแข็งแกร่ง พร้อมกับมีข่าวดีๆ ออกมาให้มิตรรักแฟนเพลงได้เห็นเป็นระยะ และวานนี้ก็เป็นอีกวันที่หุ้นทะยานขึ้นมาปิดที่ 1.79 บาท บวกไป 0.06 บาท หรือขึ้นไป 3.50% ด้วยมูลค่า 470 ล้านบาท จึงกลายเป็นตัวเลือกที่ขาลุยเข้ามาเล่นกันอย่างคึกคักไงล่ะค่ะ

*เหมือนกับในรายของ CPR หากมองในมุมของกิมมิคที่มีออกมาเป็นระลอก “โมนิก้า” ถือเป็นสถานการณ์ที่ขาปั่นน่องเหล็กรับรู้กันอย่างกว้างขวางว่า รอบนี้น่าจะจบลงแถว 7 บาท ขณะที่วานนี้หุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 6.40 บาท บวกไป 1.44 บาท หรือขึ้นไป 29% ด้วยมูลค่า 870 ล้านบาท มันเป็นภาพสะท้อนความกระเหี้ยนกระหือรือของเหล่านักเล่นในตัวของมันเองอยู่แล้ว ไปต่อหรือไม่ ขึ้นอยู่กับเจ้ามือจะเอาอย่างไร?

*ที่สำคัญคือ วันนี้รูปแบบการเล่นในช่วงตลาดหุ้นผันผวนยังไม่มีอะไรแปลกใหม่ จึงไม่มีความจำเป็นต้องทุ่มเงินหมดหน้าตักไปกับหุ้นตัวใดตัวหนึ่งนะจ๊ะ

 

Back to top button