(เซียน)นเรศลูบคมตลาดทุน

อาทิตย์ก่อนหน้านี้ได้สนทนาเรื่องหุ้นกับเซียนหุ้นพันล้าน “นเรศ งามอภิชน” นักลงทุนรายใหญ่ในตลาดหุ้นไทย


ธนะชัย ณ นคร

 

อาทิตย์ก่อนหน้านี้ได้สนทนาเรื่องหุ้นกับเซียนหุ้นพันล้าน “นเรศ งามอภิชน” นักลงทุนรายใหญ่ในตลาดหุ้นไทย

เดิมนั้น ก็ตั้งใจว่าจะเขียนลงเลย

แต่กลับมีประเด็นร้อนๆ เกี่ยวกับหุ้น JAS และเรื่อง 4G ก็เลยต้องเม้าท์ไปก่อนหลายวัน

คุณนเรศ เป็นนักลงทุนรายใหญ่อีกคนที่คนในวงการหุ้นให้ความสนใจ และคอยติดตาม เพราะพอร์ตหุ้นนั้นระดับหลายพันล้านบาท

ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานักลงทุนรายใหญ่หลายๆ คนต่างมีแฟนคลับ (นักลงทุน) กันเยอะแยะ

เวลามีข่าวเชิงลบเกี่ยวกับนักลงทุนรายใหญ่ และเมื่อมีการนำมาโพสต์ลงเฟซบุ๊ค ก็จะมีแฟนคลับเข้ามาให้กำลังใจ

ส่วนแฟนคลับคุณนเรศ มีมากน้อยแค่ไหน ผมไม่ทราบจริงๆ

กับคุณนเรศส่วนใหญ่ก็โทรศัพท์คุยกัน และมีพบทานข้าวกันบ้าง ขอความเห็นเรื่องตลาดหุ้น และก็นำมาเล่าสู่กันฟังให้กับลงทุน

ส่วนการตัดสินใจในข้อมูลว่าเป็นอย่างไร ก็ขึ้นอยู่กับนักลงทุนแต่ละคน

คุณนเรศ บอกกับผมว่า จำได้ไหม ในช่วงปลายปี 2558 หลายคนบอกว่า ตลาดหุ้นไทยปี 2559 น่าจะแย่ ส่วนตัวเขานั้นมองว่า “ดี” และหุ้นหลายตัวน่าซื้อ เพราะราคาลงมาต่ำเกินไป

และหากมีโอกาสซื้อหุ้นในปีนี้ (2559) ก็จะซื้อ

สำหรับดัชนีตลาดหุ้นไทยจากปลายปี 2558 มาถึงช่วงนี้ ดัชนีขึ้นมาแล้ว 7-8%

ต่อจากนั้น ก็เข้ามาที่หุ้นรายตัวที่คุณนเรศบอกเป็นนัยว่า เหตุผลใดเขาจึงซื้อ โดยดูจาก 1.มูลค่าราคาหุ้นลงมาต่ำเกินไป และ 2. มีโอกาสที่ราคาจะขึ้นไป 100%

TPIPL เป็นหุ้นตัวที่คุณนเรศบอกว่า ราคาลงมาถูก เมื่อเทียบกับพื้นฐาน

พร้อมกับบอกด้วยว่า อย่างโรงไฟฟ้าขยะ ที่ TPIPL ดำเนินการมาแล้วกว่า 8 ปี และในปี 2558 ก็เริ่ม COD (ผลิตและจำหน่ายเชิงพาณิชย์) แล้ว

ปีแรกๆ อาจจะรับรู้ได้น้อย คุณนเรศ ว่าอย่างนั้นครับ

แต่หลังจากนั้น ก็จะเข้ามาช่วยสร้างรายได้เพิ่มให้กับ TPIPL ได้เยอะ

มาถึงตรงนี้ ผมเลยเข้าไปดูบทวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์เกี่ยวกับ TPIPL

บล.กรุงศรี ระบุว่า TPIPL มีโรงไฟฟ้าขยะสามแห่ง (ใบอนุญาตผลิตไฟฟ้ารวม 143 MW) โดยสองโครงการแรก (รวม 73 MW) เซ็นสัญญา PPA ไปแล้ว และเริ่มการผลิตเชิงพาณิชย์ในปลายปี 2558

ขณะที่โครงการที่สาม (70  MW) ได้รับการอนุมัติ  LOI  แล้วและการก่อสร้างเดินหน้าแล้ว 30%

ทั้งสามจะช่วยหนุนให้กำไรของ  TIPPL เพิ่มขึ้นถึง  3.8  พันล้านบาทหรือเท่ากับ 26 ล้านบาท/MW

ขณะที่คุณนเรศบอกว่า โรงไฟฟ้าขยะจะช่วยสร้างกำไรให้ TPIPL ได้ไม่ต่ำกว่า 2 พันล้านบาท

ส่วนธุรกิจปูนซีเมนต์ ที่มีกำลังการผลิต 13.5 ล้านตัน ก็ถือว่าใกล้เคียงกับปูนกลาง(ปูนซีเมนต์นครหลวง) แต่ที่ผ่านมารายได้ไม่มากนัก เพราะทุ่มขยายตลาดมากเกินไป ทำให้ราคา(ขาย)ต่ำ

แต่เมื่อนำปัจจัยพื้นฐานมารวมๆ กันแล้ว มูลค่าหลักทรัพย์(ปี 2559)ก็ไม่ควรต่ำกว่า 1 แสนล้านบาทครับ คุณนเรศ เขามีมุมมองแบบนี้ครับ

สำหรับหุ้น TPIPL ราคาปรับขึ้นจากปลายปี 2558 มาถึงวานนี้แล้ว 27-28%

หุ้นอีกตัวที่คุณนเรศบอกถึงเหตุผลว่าทำไมเขาเข้ามาลงทุน นั่นคือ VGI หรือ บริษัท วี จี ไอ โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน)

VGI เป็นหุ้นที่ในมุมมองของคุณนเรศบอกว่า “มีอนาคต”

เพราะมีการปรับกลยุทธ์การทำธุรกิจ ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น สร้างโอกาสให้กับตัวเองด้วยการหาธุรกิจใหม่ๆ

เช่น การเข้าซื้อหุ้นใน MACO ที่ช่วยเพิ่มช่องทางรายได้ให้กับ VGI จากเดิมให้บริการสื่อหลักในกรุงเทพฯ หรือโมเดิร์นเทรด ก็จะขยายช่องทางรายได้ไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น

ราคาหุ้น VGI ขยับขึ้นมาจากปี 2558 กว่า 28% แล้วเช่นกัน

คุณนเรศบอกทิ้งท้ายด้วยครับ

หุ้นที่เขาลงทุนจะมองยาวๆ ไม่ได้เล่นสั้นๆ

Back to top button