หัวทองจัดเต็มโมนิก้าและทีมงาน

 *หากไล่ดูข้อมูลตั้งแต่ต้นปี 59 จนถึงเดือน กรกฎาคม จะเห็นว่า ฝรั่งหัวทองเข้ามาซื้อหุ้นไทยไปกว่า 4.60 หมื่นล้านบาท และถ้านับเฉพาะเดือน กรกฎาคม ก็ซื้อไปทั้งสิ้น 9.58 พันล้านบาท ขณะที่ยอดซื้อล่าสุดวานนี้โผล่ขึ้นมา 3.25 พันล้านบาท พร้อมกับทำให้ดัชนีวิ่งขึ้นมาปิดที่ 1,474.92 จุด บวกไป 6.53 จุด ด้วยมูลค่า 6.83 หมื่นล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นความตั้งใจซื้อของนักลงทุนต่างชาติล้วนๆ และหากการซื้อยังดำเนินต่อไปเรื่อยๆ ก็คงดันดัชนีขึ้นไปยืน 1,500 จุดอีกรอบพะยะค่ะ

*จบลงไปแล้วสำหรับการประมูลรถเมล์ NGV จำนวน 489 คัน พร้อมกับศูนย์ซ่อมในวงเงิน 4 พันล้านบาท ซึ่งผู้ชนะในเที่ยวนี้กลายเป็น “เบสท์ริน กรุ๊ปฯ” ที่กดราคาลงไปอยู่ที่ระดับ 3.40 พันล้านบาท ขณะที่การประมูลรอบก่อนหน้านี้ CHO ชนะการประมูลไปด้วยราคา 4.02 พันล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นความแตกต่างที่มาพร้อมกับเรื่องที่สังคมต้องฉุกคิดนิดหนึ่งนะคะ

*เนื่องจากของมันเห็นกันอยู่แล้วว่า ราคาประมูลของเที่ยวนี้ต่ำกว่ารอบที่แล้วถึง 600 ล้านบาท ซึ่งมันตีความได้ทันทีว่า บริษัทนี้จงใจดั๊มพ์ราคาเพื่อเอาชนะลูกเดียว! เพราะเมื่อนำไปเปรียบเทียบกับสิ่งที่ “เสี่ยจิง” เคยบอกไว้ว่า โครงการดังกล่าวมีกำไรเนื้อๆ เน้นๆ แค่ระดับ 7% จากยอดประมูล ซึ่งเท่าเป็นการบอกให้สังคมรู้ว่า กำไรที่บริษัทของเสี่ยสามารถรับรู้มีแค่ 280 ล้านบาทนะจะบอกให้

*เมื่อสาวน้อยผู้สดใสเอาตัวเลข 4 พันล้านบาท มาหักกำไรสุทธิ 280 ล้านบาท ก็จะพบว่า ต้นทุนทั้งหมดในการประมูลรถเมล์ NGV อยู่ที่ระดับ 3.70 พันล้านบาท “โมนิก้า”ถึงอยากให้สังคมลองไปขบคิดกันเอาเองว่า “ถูกและดี..มีจริงเหรอ?” และเรื่องนี้กระมั้งที่ทำให้ สตง. ลุกขึ้นมาทักท้วง ขสมก. เกี่ยวกับการทิ้งงานในปีที่ 3 ปีที่ 4 เรื่อยไปจนถึงปีที่ 10  เป็นไปได้เหรอ? บริษัทดังกล่าวสามารถทำงานในราคาที่ต่ำกว่าต้นทุนที่แท้จริงมากถึง 300 ล้านบาทแบบนี้ ผู้ชนะประมูลก็เจ๊งยับ!..งานนี้ผู้บริหาร ขสมก. ต้องออกมาอธิบายให้สิ้นสงสัยแล้วนะคะ

 *เหมือนกับกรณีของพ่อพระมาโปรดอย่าง “ดร.ประสิทธิ์” เดินสายทำงานบุญไม่ว่างเว้น ทั้งขึ้นเหนือ ล่องใต้ แถมตะวันออก ตะวันตกก็ไปมาหมดทุกที่ สุดท้ายดันมาเจอข่าวลือเกี่ยวกับการปล่อยทิ้งบริษัทที่ตนเองฟูมฟักอย่าง บล.แอปเปิ้ล ขึ้นมาแบบนี้! “โมนิก้า” ขอสันนิษฐานว่า มันเกิดจากเรื่องปล่อยปลาดุกเป็นจำนวนมากแน่ๆ ทำให้ผู้คนในตลาดหุ้นคิดว่า ดอกเตอร์ กำลังเบนเข็มไปทำฟาร์มปลาน่ะสิ

*ประเด็นดังกล่าวทำให้เจ้าชายนักแสวงบุญต้องออกมาชี้แจงข้อมูลข่าวสารกับเพื่อนพ้องน้องพี่กันยกใหญ่ พร้อมกับให้คำมั่นสัญญาว่า ยังดูแลธุรกิจโบรกเกอร์เหมือนเดิมทุกอย่าง และยังเตรียมเข้าตลาดหุ้นตามกำหนด “โมนิก้า” จึงขออนุโมทนาสาธุ..สาธุ..สาธุ ขอให้ผลบุญที่คุณน้องสั่งสมมาเป็นเวลานาน ช่วยปัดเป่าเคราะห์กรรมแล้วกัน!..สุดท้ายนี้ช่วยเป็นเจ้าภาพผ้าป่าสักกองได้ไหม..อิอิอิ

*ไหนๆ เม้าท์ถึงเรื่องที่มีความสุขขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ขอเอ่ยถึงหุ้นสุดรักอย่าง EA เพื่อป้องปากเม้าท์การเปลี่ยนแปลงที่มีนัยสำคัญสักเล็กน้อย เพื่อทำให้แฟนคลับขาประจำได้รู้ว่า วงรอบของหุ้นเที่ยวนี้ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน! จึงต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิดว่า กำลังซุ่มทำดีลอะไรบางอย่างหรือเปล่า? หุ้นถึงขยับขึ้นมาปิดที่ 21.50 บาท บวกไป 0.30 บาท ด้วยมูลค่า 209 ล้านบาท งานนี้รู้ข้อมูลกันแบบพอหอมปากหอมคอแล้ว ก็อย่านำความไปบอกคนอื่นอีกนะจ๊ะ..จุ๊..จุ๊!

*ส่วนรายที่บอกให้ชาวบ้านชาวเมืองได้รู้กันอย่างเต็มที่ “โมนิก้า” ขอโฟกัสไปที่หุ้น ILINK ของพ่อหนุ่มไฟแรงอย่าง “ณัฐนัย” อย่างรวดเร็วเลยแล้วกัน เพราะช่วงหลังมีข่าวดีรายเดือนออกมาไม่ขาดสาย จนกลายเป็นหุ้นอีกหนึ่งตัวที่เดี๊ยนต้องทำหน้าที่รายงานความเคลื่อนไหวตลอดเวลา ล่าสุดเห็นหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 20.70 บาท บวกไป 1.70 บาท หรือขึ้นไป 9% ด้วยมูลค่า 770 ล้านบาท น้องโมบอกได้แค่ว่า พ่อหนุ่มคนนี้จะโฟนอินเข้ามาในรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” ทางคลื่น FM 98.50 เวลา 10.40 น. เพื่อเล่าถึงพัฒนาการในช่วงถัดไปนะคะ

*สำหรับในรายของ GL กลายเป็นหุ้นเว่อร์วังชนิดที่ใครก็เอาไม่อยู่ แถมค่า P/E ตอนนี้ก็พุ่งขึ้นไปยืนอยู่ที่ระดับ 81 เท่า โดยที่ราคาหุ้นในกระดานยังเดินหน้าขึ้นมาปิดที่ 40 บาท บวกไป 2.75 บาท หรือขึ้นไป 7.40% ด้วยมูลค่า 530 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นจังหวะที่ต้องเตรียมการทำอะไรสักอย่าง เพื่อไม่ให้เจอกับอาการ hard landing จึงเรียนมาเพื่อให้ทราบโดยทั่วกัน เดี๋ยวจะหาว่า คนสวยไม่เตือนเจ้าค่ะ

*เฉกเช่นเดียวกับในรายของ IVL กระชากขึ้นมาปิดที่ 31 บาท บวกไป 1.25 บาท หรือขึ้นไป 4.20% ด้วยมูลค่า 2.80 พันล้านบาท “โมนิก้า” บอกได้แค่ว่า มันเป็นเกมของนักลงทุนสถาบัน ซึ่งกำลังเล่นเกมงัดข้อกันอย่างสุดชีวิต ซึ่งไม่รู้ว่า กลุ่มคนดังกล่าวไปเหยียบเท้ากันอีตอนไหน! แต่ดูเหมือนว่า สถานการณ์ดังกล่าวจะดีขึ้นเป็นลำดับ แรงซื้อถึงไหลกลับเข้ามาอีกครั้ง จนมีโอกาสขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 35 บาทอีกรอบไงล่ะค่ะ

*ส่วนที่แหล่มสุดๆ โดยไม่ได้นัดหมายอย่าง LH ถือเป็นมิติใหม่ของการลงทุน เพราะหุ้นเคลื่อนตัวออกด้านข้างในกรอบราคา 8.20-9.20 บาท นับตั้งเดือน ต.ค. ปี 58 ขณะที่วานนี้หุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 9.80 บาท บวกไป 0.60 บาท หรือขึ้นไป 6.50% ด้วยมูลค่า 590 ล้านบาท ซึ่งเป็นการทะลุกรอบราคาหุ้นอย่างร้อนแรง จึงทำให้เชื่อว่า หุ้นจะขึ้นไปสร้างฐานราคาใหม่บริเวณ 10 บาท ต่อจากนั้นจะไต่ระดับขึ้นไปทดสอบ high เดิมที่ระดับ 12 บาทนะจ๊ะ