SET บ่ายผันผวน จับตาประกาศงบฯ-ปันผลแนะซื้อ BJC ชูเป้า 50 บ. ปัจจัยหนุนเพียบ

SET บ่ายผันผวน แนะติดตามประกาศงบฯ-ปันผล อาจจะมีการเก็งกำไร รวมถึงการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญวันที่ 7 ส.ค.นี้ พร้อมให้แนวรับ 1,512 แนวต้าน 1,530 จุด โบรกฯแนะซื้อ BJC ชูเป้า 50 บาท ปัจจัยหนุนเพียบ


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงานตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ภาคเช้า (29 ก.ค.) ผันผวนในกรอบจำกัด ขณะที่ตลาดภูมิภาคส่วนใหญ่ติดลบ หลัง BOJ มีมติคงวงเงินในการทำ QE ที่ 80 ล้านล้านเยนซึ่งไม่เป็นไปตามคาด แนะติดตามประกาศงบฯ-ปันผล อาจจะมีการเก็งกำไร รวมถึงการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญวันที่ 7 ส.ค.นี้ บ่ายคาดตลาดฯผันผวนอิงทางลง ให้แนวรับ 1,512 แนวต้าน 1,530 จุด

 

น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ผันผวนในกรอบจำกัด ขณะที่ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่จะอิงไปในทางลบ แต่ตลาดในกลุ่ม TIP ทั้งไทยและอินโดนีเซียยังยืนในแดนบวกได้ ภายหลังรับรู้ผลการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยและวงเงินการทำ QE ที่ 80 ล้านล้านเยน ขณะที่ขยายวงเงินในโครงการซื้อกองทุน ETFs เป็น 6 ล้านล้านเยน ส่งผลให้หลายตลาดในภูมิภาคอ่อนตัวลง เนื่องจากก่อนหน้านี้ตลาดฯคาดหวังว่า BOJ จะเพิ่มวงเงิน QE

ทั้งนี้ การย่อตัวลงของตลาดฯมองว่าเป็นการขายทำกำไร หลังจากนี้ก็ให้ติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งเท่าที่ออกมาก็มีหลายตัวที่ออกมาดีกว่าคาด ส่งผลให้เกิดการเล่นเก็งกำไรตามงบฯ และหุ้นที่จ่ายปันผล นอกจากนี้ยังต้องติดตามการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญในวันที่ 7 ส.ค.นี้ด้วย

แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ ตลาดฯคงจะผันผวนอิงในทางลง พร้อมให้แนวรับ 1,512 จุด ส่วนแนวต้าน 1,530 จุด

 

บล.ธนชาตระบุในบทวิเคราะห์ (29 ก.ค.) ว่า  SET ผิดหวัง BOJ ไม่ลดดอกเบี้ย แต่เป็นจังหวะ “ซื้อ” ตลาดหุ้นในภูมิภาค ถูกกดดัน หลัง BOJ คงอัตราดอกเบี้ยที่ -0.1% ผิดจากที่นักลงทุนคาดว่า BOJ จะลดอัตราดอกเบี้ยมาที่ -0.2% ถึง -0.3% และขยายวงเงินซื้อ ETF จาก 3.3 ล้านล้านเยน มาที่ 6 ล้านล้านเยน ใกล้เคียงคาด อย่างไรก็ดี ด้วยสภาพคล่องในตลาดเงิน-ทุนโลกและสภาพคล่องในประเทศที่สูง เศรษฐกิจไทยที่จะฟื้นตัว แนะนำการอ่อนตัวของ SET เป็นจังหวะ “ซื้อ” แนะนำ BJC ต่อเนื่องด้วยเป้าหมายพื้นฐาน 50 บาท

ในขณะเดียวกันแนะนำ“ซื้อ” BJC ต่อเนื่อง ด้วยเป้าหมายพื้นฐาน 50 บาท จาก 1) การซื้อหุ้น BIGC ทำให้ Value-Chain ครบตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ 2) เกิด Synergy ในการเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้น เนื่องจากสามารถเพิ่ม Utilization Rate ของกระบวนการผลิตของ BJC ได้ 3) BJC จะขยายสาขาเร็วขึ้น ในปี 61-63 พร้อมเปิดโอกาสทำ model ขายทรัพย์สินเข้าสู่กอง REITs 4) D/E ที่ 1.2x หลังเพิ่มทุนยังต่ำ สามารถสนับสนุนการเติบโตในอนาคตได้ 5) BJC มีสิทธิ์เข้าลงทุนใน Metro เวียดนามที่ต้นทุนไม่แพง หากว่า Metro เวียดนามสามารถทำกำไรได้ 6) หลัง BJC เพิ่มทุนจะมี Market Cap ใหญ่ติดอันดับ 20 ของตลาด และกำไรมีเสถียรภาพมากขึ้นหลังรวมกำไร BIGC จะเป็นเป้าหมายการเข้าซื้อของนักลงทุนสถาบันทั้งในประเทศ และต่างประเทศ รวมไปถึงมีโอกาสถูกเพิ่มใน SET50 และ MSCI ในอนาคต และ 6) ถ้าพิจารณาในทางเทคนิคมีรูปแบบ Cup with Handle เป้าหมาย 48-49 บาท

 

สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า  

BEM    มูลค่าการซื้อขาย 2,499.20 ล้านบาท ปิดที่   8.35 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท

ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,945.07 ล้านบาท ปิดที่ 179.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท

KBANK  มูลค่าการซื้อขาย 1,493.53 ล้านบาท ปิดที่ 197.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท

SCB    มูลค่าการซื้อขาย 1,386.52 ล้านบาท ปิดที่ 159.00 บาท ลดลง  0.50 บาท

TRUE   มูลค่าการซื้อขาย 1,318.46 ล้านบาท ปิดที่   9.05 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท

Back to top button