MAX มีเนื้อใหม่ในกระดอง แฉทุกวัน ทันเกมหุ้น

แล้วในที่สุด.... ของที่สุด ก็ได้เวลาที่ บริษัท แมกซ์ เมทัล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MAX ซึ่งมีสภาพเป็นบริษัทที่มีแต่เงินสด หรือ cash company มานานกว่า 2 ปี ก็ได้ลงมือกระทำการในสิ่งที่ผู้ถือหุ้นรอคอยกันเสียที


แล้วในที่สุด…. ของที่สุด ก็ได้เวลาที่ บริษัท แมกซ์ เมทัล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MAX ซึ่งมีสภาพเป็นบริษัทที่มีแต่เงินสด หรือ cash company มานานกว่า 2 ปี ก็ได้ลงมือกระทำการในสิ่งที่ผู้ถือหุ้นรอคอยกันเสียที

ถือเป็นการเปิดตัวที่สวยหรูสำหรับ ซีอีโอและกรรมการคนล่าสุดอย่าง นายอิทธิชัย อรุณศรีแสงไชย อดีตอาจารย์วิศวกรรมที่ลงมานั่งบริหารธุรกิจในฐานะมืออาชีพ รับตำแหน่งต่อจากนายขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ อดีตผู้ถือหุ้นใหญ่ และซีอีโอคนก่อนหน้า ที่ตัดสินใจล้างภาพลักษณ์อันเน่าเฟะ ด้วยการหาคนที่มีบาดแผลน้อยกว่ามากลบเกลื่อนความล้มเหลวที่จะเทิร์นอะราวด์  MAX  หลังจากที่เข้าเทกโอเวอร์ทางประตูหลัง มาได้ 2 ปีเศษ ด้วยราคาหุ้นที่ซื้อมาแค่ 0.05 บาท โดยไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน นอกจากฝันลมๆ แล้งๆ ที่ไม่เคยเป็นจริง

วันนี้ นายขจรศิษฐ์ยังมีชื่อในฐานะผู้ถือหุ้นรายใหญ่อยู่ ด้วยสัดส่วนการถือครองหุ้นเหลือเพียงแค่ 26.45% หลังจากที่ทยอยขายออกไปจากมือหลายครั้ง….ทุกครั้ง จะบอกว่า จะเป็นการขายครั้งสุดท้าย ไม่มีการขายออกอีกแล้ว

วันนี้ ภายใต้กรรมการชุดใหม่ที่ไม่มีนายขจรศิษฐ์ และนายชำนิ จันทร์ฉาย อีกต่อไป ได้มีมติของที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) ครั้งที่ 7/2559  เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2559 ที่ผ่านมาว่า MAX ได้ตัดสินใจลงทุนซื้อสินทรัพย์ 2 รายการเข้ามา เพื่อเริ่มต้นยุคใหม่ ที่ไม่มีการค้าเหล็ก เล็กๆ น้อยๆ ฆ่าเวลาเล่นเพราะยังหาอนาคตไม่เจอเหมือน 2 ปีที่ผ่านมา…อีกต่อไป

ปิดฉากตำนานเก่าหลายยุค นับแต่ครั้ง สิงห์คะนองนา จนถึงค้าเหล็ก อย่างเป็นทางการ

คณะกรรมการมีมติอนุมัติการลงทุน 2 รายการ มูลค่ารวม 450 ล้านบาท ที่ไม่เกี่ยวข้องทางธุรกิจกันเลย คือ รายการแรกซื้อหุ้นโรงไฟฟ้า รายการหลัง ซื้อหุ้นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ ทำสนามกอล์ฟ

รายการแรก MAX ใช้เงิน 190 ล้านบาท เข้าซื้อหุ้นสามัญในสัดส่วน 20% ในราคาหุ้นละ 19.00 บาท จากราคาพาร์ 10.00 บาท ของบริษัท ราชบุรี-อีอีพี  รีนิวเอเบิ้ล เอนเนอจี้ จำกัด (R-EEP) จากบริษัทเอ บี พี  ไฮเพาเวอร์ จำกัด

เหตุผลสวยหรูมีว่า MAX แม้จะเป็นผู้ถือหุ้นบางส่วน แต่จะได้รับประโยชน์จากเข้าไปลงทุนซื้อหุ้น R-EEP ซึ่งเป็นผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กจากขยะสดชุมชนให้เป็นเชื้อเพลิงแห้ง (RDF) ขนาด 9.9 เมกะวัตต์ ที่ จ.สมุทรปราการ โดยได้มีการสั่งซื้อเครื่องจักรคาดว่าจะ3 กำลังการผลิตสูงสุด 9.9 เมกะวัตต์ (MW) และได้รับสัญญาขายไฟฟ้าให้แก่การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) หรือ PPA แล้วขนาด 8 เมกะวัตต์ ซึ่งปัจจุบันการก่อสร้างอยู่ในระหว่างติดตั้งเครื่องจักรในช่วงไตรมาส 3 นี้ และคาดสามารถเริ่มขายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์หรือ COD ได้ภายในเดือนธ.ค. 2559

R-EEP นั้นแม้จะมีชื่อราชบุรี แต่บริษัทลูกของบมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรีจำกัด หรือ RATCH ไม่ได้ถือหุ้นเลย หลังจากที่ถอนตัวจากการเจรจาก่อนหน้านี้ ด้วยเงื่อนไขไม่เปิดเผย

จุดเด่นที่ผู้บริหารและกรรมการของ MAX อ้างถึงการตัดสินใจว่าการลงทุนนี้ จะทำให้บริษัทได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนทั้งในรูปของรายได้ และกระแสเงินสดในระยะเวลาที่รวดเร็วและสม่ำเสมอ  สามารถช่วยส่งเสริมการเติบโตของรายได้ของบริษัทให้มั่นคงได้ในอนาคต  และช่วยสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทในระยะยาว…. ก็เป็นเหตุผลที่ต้องติดตาม เพราะคงไม่มีใครบอกเหตุผลแย่ๆ ออกมาหรอก

หากตรวจสอบข้อมูลจะพบว่า R-EEP หรือ บริษัท ราชบุรี อีสเทิร์น เอเนอร์จี้ พลัส จำกัด ยังก่อสร้างโครงการไม่แล้วเสร็จ มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นมาหลายครั้งในสองปีมานี้  โดยหลังจากที่ MAX ถือหุ้นแล้ว จะมีโครงสร้างผู้ถือหุ้นประกอบด้วย บริษัท อีสเทิร์น เอเนอร์จี้ พลัส จำกัด (EEP) ถือหั้นและบริหารโครงการ 51%  บริษัท นอร์ทเทิร์น รีนิวเอเบิ้ล เอนเนอร์ยี่ (NRE) ถือหุ้น 9% และ เอ.บี.พี. 20% และ MAX 20%

รายการที่สอง ใช้เงินมากกว่ารายการแรก โดยจะลงทุน 260 ล้านบาท ถือหุ้น 80% หรือ 20.80 ล้านหุ้น ในบริษัท เดอะ มาเจสติค ครีก คันทรีคลับ จำกัด (MJC) ซึ่งประกอบธุรกิจเกี่ยวกับสนามกอล์ฟ โดยเป็นการซื้อหุ้นจากบริษัท หัวหินพัฒนา จำกัด

เรียกว่าเป็นการเทกโอเวอร์กิจการฉันมิตรเลยก็ว่าได้ มีเหตุผลอธิบายว่า เพื่อขยายฐานหรือการเพิ่มขอบเขตในการดำเนินธุรกิจไปสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์  ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายหลักของบริษัท คือ ในระยะอันสั้นบริษัทจะมีรายได้กำไรที่แน่นอนและต่อเนื่องในระยะยาวต่อไป

มีข้อสังเกตเล็ก ที่อาจจะไม่มีสาระสำคัญอะไรเลย…. หรืออาจจะสำคัญมากในอนาคต…. ก็คือ บริษัทหัวหินพัฒนานั้น ผู้ถือหุ้นใหญ่คือ นายธนาชัย ธีรพัฒนวงศ์ อดีตประธานกรรมการบริษัท เนชั่น มัลติ มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ NMG  ที่เพิ่งรีเทิร์นกลับคืนสู่วงการสื่ออีกครั้ง ในฐานะประธานบริษัท สปริงนิวส์ เมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมา นั่นเอง

ถึงเวลาที่กระดองเต่าแห้งๆ ที่ร้างราเนื้อเต่ามายาวนาน 3 ปี ได้มีเนื้อเพื่อเดินหน้าเสียที

ส่วนการลงทุนนี้ จะทำให้ MAX มีฐานะใหม่กลายเป็นบริษัทโฮลดิ้ง ที่มีการขยายธุรกิจแนวระนาบอย่างอสังหาริมทรัพย์ และไฟฟ้าขยะ เพื่อมาทำกำไรครั้งใหม่ หรือตรงกันข้าม…. กลายเป็นเนื้อร้ายที่มีโอกาสเป็นโรคฮิตฮอตแห่งปี คือ… ติดเชื้อในกระแสโลหิต

หวังว่าพ้นจากยุคของนายขจรศิษฐ์-ชำนิ ไปแล้ว MAX จะไม่เป็นอย่างหลัง

เพราะกว่าจะมาถึงวันนี้ …. ยาวนานเหลือเกิน

หุ้น MAX ที่ราคายามนี้ 0.15-0.17 บาท จะได้วิ่งไปยืนเหนือ 1.00 บาทเสียที

อิ อิ อิ

Back to top button