“ปิยะ” ลั่น! ATP30 ครึ่งปีหลังโตกระฉูดหายห่วง
"ปิยะ" ลั่น! ATP30 ครึ่งปีหลังโตกระฉูดหายห่วง
นายปิยะ เตชากูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอทีพี 30 จำกัด (มหาชน) หรือ ATP30 เปิดเผยผ่านรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด ออนเรดิโอ” ทาง FM 98.5 MHz สถานีข่าวจริง สปริงเรดิโอ ช่วงเวลา 9.30-11.00 น.ว่า ผลการดำเนินงานในงวดไตรมาส 2/59 มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น มาที่ 7.20 ลบ. หรือเพิ่มขึ้น 206.38% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรอยู่เพียง 2.35 ลบ. มีสาเหตุมาจากลูกค้าที่เพิ่มขึ้น, ต้นทุนทางการเงินลดและต้นทุนในการบริหารงานที่ลดลง
ไตรมาส 2/59 มีกำไรเติบโตขึ้นอย่างโดดเด่น ตรงนี้เป็นผลมาจากการบริหารจัดการต้นทุนได้ดีขึ้นหรือลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ?
“ประกอบด้วยทั้ง 2 ส่วนครับ ถ้าดูในส่วนของด้านรายได้ก็คือเรามีลูกค้าเพิ่มขึ้นครับ ซึ่งเราก็มีลูกค้าเพิ่มขึ้นจริงในช่วงไตรมาส 1/59 และไตรมาส 2/59 แต่ว่าตัวสำคัญคือหลังจากที่เราเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียน เราก็ได้มีการลงทุนทั้งบุคลากรและระบบ เพื่อที่เราจะได้ควบคุมค่าใช้จ่ายต่างๆ ให้มีระบบระเบียบมากขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องของค่าน้ำมัน และค่าซ่อมบำรุง ทั้งที่ราคาน้ำมันในปีนี้เฉลี่ยสูงกว่าปีที่แล้ว แต่เป็นเรื่องของต้นทุนทางการเงินครับ”
พอเข้าตลาดมาอัตราดอกเบี้ยจ่ายลดลงไปถึง 23-24% ตรงนี้เป็นยังไง?
“มีส่วนนึงที่เป็นเงินกู้ในส่วนที่ไม่เกี่ยวกับลิสซิ่ง เราก็นำเงินจาก IPO ไปชะระหนี้ส่วนนี้ทั้งหมด ส่วนที่ 2 ก็คือในเรื่องของลิสซิ่งที่เป็นการลงทุนที่ผ่านมาเราก็ยังคงชำระค่างวดรถไปเรื่อยๆ แต่ว่าการลงทุนใหม่ที่เข้ามาทางบริษัทลิสซิ่งก็ให้ความเชื่อถือกับเครดิตของบริษัทมากขึ้นทำให้อัตราดอกเบี้ยในการลงทุนล็อตใหม่ก็ต่ำลงอย่างมีนัยสำคัญครับ”
ในแง่ของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น สัญญาที่เซ็นกับลูกค้ามีระยะยาวนานแค่ไหน ?
“สัญญาระยะหลังทั้งหมดนี้เราขอเซ็นสัญญากับลูกค้า 5 ปีขึ้นไปครับ เป็นลูกค้านิคมอุตสาหกรรมในภาคตะวันออก”
แนวโน้มสำหรับปีนี้มีการเซ็นสัญญาเพิ่มขึ้นอีกไหม ?
“มีเรื่อยๆครับ เนื่องจากว่าลูกค้าให้ความเชื่อถือเรามากขึ้น เพราฉะนั้นในไตรมาส 2/59 ซึ่งเราก็เซ็นในระหว่างไตรมาสแล้วก็ให้บริการ การรับรู้รายได้ก็จะเป็นส่วนนึงของไตรมาส 2/59 ซึ่งก็จะเป็นตัวเลขชัดเจนขึ้นในไตรมาส 3/59 ครับ และในไตรมาส 3/59,ไตรมาส 4/59 มีการเจรจากับลูกค้าอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากว่ามาร์เก็ตแชร์ของเราค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับตลาดครับ”
มาร์เก็ตแชร์ต่ำมาจากสาเหตุอะไร ?
“เนื่องจากว่าตลาดค่อนข้างใหญ่มาก และยังไม่มีผู้ประกอบการไหนที่มีมาร์เก็ตแชร์ในปริมาณค่อนข้างมาก เพราะส่วนมากธุรกิจนี้ผู้ประกอบการจะเป็นผู้ประกอบการในระดับท้องถิ่นมากกว่าครับ”
ลูกค้าที่เพิ่มขึ้นตัวเลขจะไปสอดคล้องกับต้นทุนทางการเงินด้วยเพราะว่าเกี่ยวข้องกับตัวรถที่จะต้องออกมาเพิ่ม ?
“ใช่ครับ จึงบาลานซ์กับรถที่เราผ่อนหมดแล้วก็เลยใช้งานต่อไปกับรถใหม่ และการนำเงิน IPO มาชะรำหนี้ในบางส่วนได้ก็คือเป็นการลดต้นทุนทางการเงิน
ครับ”
ใน 6 เดือนแรกกำไรโตขึ้นมาประมาณ 160% แล้ว 6 เดือนหลังช่วงที่เหลือของปีนี้ แนวโน้มการเติบโตจะยังดีเหมือนเดิมไหม ?
“มั่นใจว่าดีขึ้นครับ เมื่อตอนไตรมาส 3/58 และไตรมาส 4/58 เรามีค่าใช้จ่ายพิเศษในเรื่องของการเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียน แต่ว่าในปีนี้เราไม่ได้มีค่าใช้จ่ายพิเศษเหล่านั้นครับ ถ้าไม่มีอะไรที่เราคาดไม่ถึงผมคิดว่าตัวเลขของฐานไตรมาส 2/59 ก็น่าจะเป็นฐานให้กับไตรมาส 3/59 และไตรมาส 4/59 เป็นต้นไปครับ”
ในเรื่องของ Shuttle bus ตอนนี้ความคืบหน้าเป็นยังไงบ้าง ?
“ตรงนี้เป็นโมเดลใหม่ที่เราทดลองขึ้นมา เราก็พยายามจะตั้งสมมุติฐานว่ามีความเป็นไปได้ไหม มีความต้องการจริงไหม ก็คือ 1.มีความต้องการใช้จริง เนื่องจากว่าจำนวนผู้โดยสารต่อวันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และ2. สามารถทดแทนในเรื่องของค่าใช้จ่ายเก่าที่ทางผู้โดยสารเขาต้องจ่ายอยู่แล้ว ซึ่งเราก็พบว่าค่าใช้จ่ายมันลดลง 3. ก็ดูว่าโมเดลควรจะเป็นยังไงเราจะวาง Position ยังไงซึ่งถ้าเราได้ภาพตรงนั้น ผมคิดว่าเราน่าจะขยายต่อไปได้ครับ”
ดูจากไตรมาส 2/59 ได้สัญญาใหม่ 3 สัญญา และในไตรมาส 3/59 จะมีการเซ็นสัญญาได้พอๆ กับไตรมาส 2/59 ไหม ?
“ไตรมาส 3/59 ในแง่ของการเซ็นสัญญาใหม่ก็ยังอยู่ในระหว่างการตัดสินใจของลูกค้าครับ แต่ว่าก็มีบางสัญญาที่เป็นในช่วงปลายไตรมาส 2/59 ก็คงจะเริ่มให้บริการในไตรมาส 3/59 ก็มี เพราะฉะนั้นในการรับรู้รายได้ก็จะเห็นขึ้นมาครับ”
กำไรในไตรมาส 2/59 ดีแล้ว ในไตรมาส 3/59 จะดีกว่าไตรมาส 2/59 ได้ไหม ?
“เราเชื่อมั่นว่าในแง่ของตัวเลขน่าจะเป็นแบบนั้นครับ เพราะเซ็นสัญญาในปลายไตรมาส 2/59 อาจจะรับรู้รายได้ได้ใน ไตรมาส 3/59 หรือไตรมาส 4/59 ครับ”
ท้ายที่สุดนายปิยะมั่นใจว่าผลประกอบ H2/59 จะมีการเติบโตอย่างโดดเด่น