PREB คาด Q2/59 กำไรทำนิวไฮ! เลื่อนนำ “บิลท์แลนด์” เข้าตลาดหุ้นไปเป็นปี 60

PREB คาด Q2/59 กำไรทำนิวไฮ หลังทยอยโอนคอนโดฯหนุน เผยเลื่อนนำ "บิลท์แลนด์" เข้าตลาดหุ้นไปเป็นปี 60 จากเดิมปีนี้


นายชัยรัตน์ ธรรมพีร กรรมการ บริษัท พรีบิลท์ จำกัด (มหาชน) หรือ PREB ระบุว่า บริษัทคาดว่าผลการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาส 2/59 จะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปีนี้ทั้งรายได้และกำไรสุทธิ โดยมีโอกาสที่กำไรจะทำสถิติสูงสุดใหม่ จากการทยอยโอนคอนโดมิเนียม The Tempo Grand ที่คาดว่าจะมีการโอนเข้ามาในปีนี้ราว 1.5 พันล้านบาท ซึ่งเป็นปัจจัยหลักในการผลักดันผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/59 และช่วงที่เหลือของปีนี้

โดยบริษัทยังคงเป้าหมายรายได้ของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ปีนี้อยู่ที่ 1.8 พันล้านบาท และรายได้จากธุรกิจรับเหมาก่อสร้างในปีนี้อยู่ที่ 4 พันล้านบาท โดยปัจจุบันมีงานในมือ ของธุรกิจรับเหมาก่อสร้างราว 9 พันล้านบาท จะรับรู้รายได้เข้ามาในปีนี้ 30% และส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้รายได้ในปี 60 และ ปี 61 ในสัดส่วน 50% และ 20% ตามลำดับ ส่วนยอดขายรอโอน  ของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบันมีอยู่ราว 1 พันล้านบาท จะทยอยโอนในช่วงที่เหลือของปีนี้ทั้งหมด

ทั้งนี้ บริษัทได้ตั้งงบซื้อที่ดินในปีนี้อยู่ที่ 1 พันล้านบาท โดยครึ่งปีแรกใช้ไปเพียง 100 ล้านบาท และปัจจุบันอยู่ระหว่างการมองหาซื้อที่ดินเพิ่มเติมเข้ามาอีก โดยจะเน้นทำเลที่ใกล้กับรถไฟฟ้าทั้งในย่านธุรกิจ (CBD) หรือรอบนอก เพื่อที่จะนำมาพัฒนาเป็นโครงการคอนโดมิเนียม ซึ่งให้มาร์จิ้นที่สูงกว่าโครงการแนวราบ ซึ่งที่ผ่านมามีผู้เข้ามาเจรจาขายที่ดินให้กับบริษัทเป็นจำนวนมาก แต่ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน

ส่วนการนำบมจ.บิลท์แลนด์  เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯนั้นคาดว่าจะต้องเลื่อนไปเป็นช่วงปี 60 จากเดิมที่คาดว่าจะสามารถเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯภายในปีนี้ เนื่องจากปัจจุบันแบบแสดงข้อมูลการขอเสนอขายหลักทรัพย์ (ไฟลิ่ง) ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ ทำให้ยังไม่สามารถยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) ได้

โดยบริษัทอยู่ระหว่างการหาซื้อที่ดินเพิ่มเข้ามาในบมจ.บิลท์แลนด์ เพื่อนำข้อมูลดังกล่าวไปจัดทำลงในไฟลิ่งเพื่อเสนอต่อก.ล.ต. ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีที่ดินเปล่าที่อยู่ระหว่างรอการพัฒนาจำนวน 2 แปลง ได้แก่ ที่ดินในทำเล อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี ที่บริษัทเพิ่งซื้อที่ดินเข้ามาในช่วงไตรมาส 2/59 เนื้อที่ 200 ไร่ คาดว่าจะพัฒนาเป็นโครงการแนวราบภายใน 3-4 ปีข้างหน้า เนื่องจากรอการคมนาคมที่สะดวกเข้าถึงทำเลดังกล่าวออกมาอย่างเป็นรูปธรรมก่อน และที่ดินอีก 1 แปลง เป็นที่ดินที่ตรงข้ามมหาวิทยาลัยศรีปทุม ซึ่งอยู่ระหว่างการรอการอนุมัติรายงานผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม (EIA) เพื่อเตรียมพัฒนาเป็นโครงการคอนโดมิเนียม 8 ชั้น จำนวน 1 อาคาร มูลค่าโครงการ 570 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดขายในช่วงไตรมาส 3/59 หรือไตรมาส 4/59

Back to top button