เช็คลิสต์เมนูร้อน 11 หุ้นแกร่ง 7 เดือนราคากระฉูดเกิน 100%

“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจราคาหุ้นของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในช่วง 7 เดือนแรก โดยเทียบราคาปิด ณ วันที่ 30 ธ.ค.58 - 29 ก.ค.59 โดยการสำรวจครั้งนี้พบว่ามีหุ้นที่น่าสนใจ 11 ตัว ซึ่งราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิน 100% ดังข้อมูลต่อไปนี้


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์ ได้ทำการสำรวจราคาหุ้นของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในช่วง 7 เดือนแรก โดยเทียบราคาปิด ณ วันที่ 30 ธ.ค.58 – 29 ก.ค.59 โดยการสำรวจครั้งนี้พบว่ามีหุ้นที่น่าสนใจ 11 ตัว ซึ่งราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิน 100% ดังข้อมูลต่อไปนี้

ตารางแสดงการปรับขึ้นของราคาหุ้น ณ วันที่ 30 ธ.ค.58 -29 ก.ค.59

หลักทรัพย์ 29-ก.ค.-59 30-ธ.ค.-58 เปลี่ยนแปลง
บาท %
BIG 4.96 1.55 3.41 220.00
THAI 25.25 9.20 16.05 174.46
MALEE 69.25 28.50 40.75 142.98
GL 43.00 18.20 24.80 136.26
TKN 19.40 8.55 10.85 126.90
COM7 11.60 5.15 6.45 125.24
PTG 28.00 13.00 15.00 115.38
TFG 3.30 1.54 1.76 114.29
BWG 2.52 1.21 1.31 108.26
PTL 13.00 6.35 6.65 104.72
BSBM 1.38 0.69 0.69 100.00

 

อันดับ 1 บริษัท บิ๊ก คาเมร่า คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BIG ราคาช่วง 7 เดือนแรก ปรับตัวเพิ่มขึ้น 220.00% โดยบล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 5.50 บาท

ทั้งนี้ มองว่าธุรกิจกล้องจะช่วยผลักดันผลประกอบการให้เติบโตสูง โดยคาดการณ์กำไรหลักไตรมาส 2/59 จะออกมาแข็งแกร่ง เพิ่มขึ้น 164% มาที่ 183 ล้านบาท จากปีก่อน นอกจากนี้ คาดว่าสัดส่วนกำไรในครึ่งหลังปีนี้จะอยู่ที่ 54% มากกว่าครึ่งปีแรกที่อยู่ที่ 46% เนื่องจากมีงาน fairs ขนาดใหญ่ถึง 2 งาน คาดการณ์อัตราผลตอบแทนปันผลปีนี้ 2.7% และปี 60 ที่ 3.0%

 

อันดับที่ 2 บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI ราคาช่วง 7 เดือนแรก ปรับตัวเพิ่มขึ้น 174.46% โดยบล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 28 บาท

ทั้งนี้ มองว่าไตรมาส 2/59 บริษัทจะขาดทุนน้อยกว่าหลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากบริษัทมีต้นทุนดำเนินงานที่ลดลง หลังผ่านการปรับโครงสร้างภายในมาแล้วในระดับหนึ่ง รวมทั้งปิดเส้นทางการบินที่ไม่ทำกำไร และที่สำคัญคือต้นทุนจากน้ำมัน Jet ที่ใช้ต่ำลงจากปีก่อน นอกจากนี้ ปีนี้จะมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเข้ามาช่วยหนุน โดยอิงกับ Core P/E ปี 59 ที่ 6 เท่า

 

อันดับที่ 3  บริษัท มาลีกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MALEE ราคาช่วง 7 เดือนแรก ปรับตัวเพิ่มขึ้น 142.98%  โดยบล.กรุงศรี แนะนำ “OUTPERFORM” ราคาเป้าหมาย 73 บาท

ทั้งนี้ มองว่ากำไรสุทธิไตรมาส 2/59 จะโตถึง 43% จากปีก่อน อยู่ที่ 116 ล้านบาท จากยอดขายที่โตถึง 24% ซึ่งได้แรงหนุนจากการส่งออกน้ำผลไม้ตรามาลีในภูมิภภาค และการเติบโตของการส่งออกน้ำมะพร้าว เพิ่มขึ้นจากปีก่อน ซึ่งคาดว่ายอดขายในประเทศจะโต 5% จากปีก่อน รวมถึง Operating profit margin ซึ่งสูงสุดในรอบ 3 ปีที่ 9% 

พร้อมปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 59-60 ขึ้นอีก 12-15% จากแนวโน้มที่ดีขึ้นของการส่งออกน้ำมะพร้าว, JV ในฟิลิปปินส์ และอัตรากำไรจากการดำเนินงานที่ดีขึ้นจากการคุมต้นทุนและการประหยัดต่อขนาด อิงจาก P/E ปีในปี 60 ที่ 20 เท่า

 

อันดับที่ 4 บริษัท กรุ๊ปลีสจำกัด (มหาชน) หรือ GL ราคาช่วง 7 เดือนแรก ปรับตัวเพิ่มขึ้น 136.26% โดยบล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 50 บาท

ทั้งนี้ มองว่ากำไรสุทธิไตรมาส 2/59 สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 249 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 92% จากปีก่อน และ 12% จากไตรมาสที่ผ่านมา โดยมาจากกำไรในธุรกิจต่างประเทศ และคุณภาพสินเชื่อต่างประเทศที่ดี หากประมาณการกำไรไตรมาส 2/59 ถูกต้องกำไรครึ่งแรกปีนี้ จะคิดเป็น 44% ของประมาณการกำไรสุทธิทั้งปี 59 

 

อันดับที่ 5 บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TKN ราคาช่วง 7 เดือนแรก ปรับตัวเพิ่มขึ้น 126.90% โดยบล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 23 บาท

ทั้งนี้ มองว่าโรงงานแห่งที่สองที่จะเพิ่มกำลังการผลิตอีก 90% คาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 1/60 ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และลดต้นทุนค่าแรงงาน ก็จะทำให้ได้รับอัตรากำไรที่ดีขึ้น แต่จะแบ่งเป็น 3 เฟส เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่มีเครื่องที่ว่าง โดยใช้เวลาเพียง 1 เดือนในการทำเฟสใหม่ 1 เฟส ทั้งสำหรับการสั่งซื้อและติดตั้งเครื่องจักร รวมทั้งการหาแรงงานเพิ่ม

นอกจากนี้ บริษัทมีแผนรุกตลาด e-commerce ในจีน ซึ่งปัจจุบันตลาดจีนคิดเป็น 30% จากยอดขายทั้งหมด เมื่อพิจารณาช่องทางที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ทั้งนี้หากหาพันธมิตรได้สำเร็จในการทำ e-commerce ก็คาดว่าสัดส่วนยอดขายจากจีนจะเพิ่มได้อีกมากเทียบกับปัจจุบัน

 

อันดับที่ 6 บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7 ราคาช่วง 7 เดือนแรก ปรับตัวเพิ่มขึ้น 125.24% โดยบล.บัวหลวง แนะนำ “ซื้อ” โดย Roll over ราคาเป้าหมายไปเป็นปี 60 ที่ 12.5 บาท

ทั้งนี้ มองว่ากำไรไตรมาส 2/59 อยู่ที่ 80 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33% จากปีก่อน โดยว่าคาดยอดขายจะอยู่ที่ 3,650 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อน หลังยอดขาย iPhone SE ได้รับความนิยมสูง นอกจากนี้ คาดอัตรากำไรขั้นต้นจะอยู่ที่ 13.4% ใกล้เคียงกับไตรมาส 1/59 จากยอดขาย accessory ที่เติบโตตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ราว 18% และได้ปัจจัยบวกจากการซื้อเครื่องตรงกับ Apple ราว 1 เดือน ประกอบกับยอดเปิดซิมการ์ดที่ราว 3 หมื่นซิม ในช่วงไตรมาส 2/59 

 

นอกจากนี้ยังมีหุ้นอีก 5 ตัวที่มีราคาปรับขึ้นเกิน 100% ได้แก่ อันดับที่ 7 บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG ปรับขึ้น 115.38%, อันดับที่ 8 บริษัท ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TFG ปรับขึ้น 114.29%,  อันดับที่ 9 บริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน จำกัด (มหาชน) หรือ BWG ปรับขึ้น 108.26%, อันดับที่ 10 บริษัท โพลีเพล็กซ์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ PTL ปรับขึ้น 104.72% และอันดับที่ 11 บริษัท บางสะพานบาร์มิล จำกัด (มหาชน) BSBM ปรับขึ้น 100.00%

 

*การที่ราคาหุ้นในกลุ่มดังกล่าวปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรง เนื่องจากมีประเด็นบวกจากความคาดหวังต่อแนวโน้มธุรกิจและผลประกอบการที่ดี อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรศึกษาพื้นฐานและความเสี่ยงของหุ้นก่อนลงทุน พร้อมระมัดระวังในการเข้าเก็งกำไรในกลุ่มดังกล่าว เนื่องจากราคาปรับขึ้นมามากตั้งแต่ช่วงต้นปี ส่งผลให้อัพไซด์จากราคาเป้าหมายเริ่มจำกัด

 

อนึ่ง การนำเสนอข้อมูลข้างต้น เพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจ และมิได้เป็นการชี้นำ หรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ การตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ ของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตาม ล้วนเป็นผลจากการใช้วิจารณญาณของผู้อ่าน

Back to top button