TOP บวก 2.01% หลังกำไร Q2/59 ดีกว่าคาด
TOP บวก 2.01% หลังกำไร Q2/59 ดีกว่าคาด ล่าสุด ณ เวลา 10.40 น. ราคาอยู่ที่ 63.50 บาท บวก 1.25 บาท หรือ 2.01% สูงสุดที่ 64.25 บาท ต่ำสุดที่ 62.75 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 616.75ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้นบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP ณ เวลา 10.40 น. ราคาอยู่ที่ 63.50 บาท บวก 1.25 บาท หรือ 2.01% สูงสุดที่ 64.25 บาท ต่ำสุดที่ 62.75 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 616.75ล้านบาท ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยโดยรวมบวก 0.08%
ด้าน บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ แนะ “ซื้อ” TOP สำหรับการลงทุนระยะยาวและรับปันผล เนื่องจากยังมีมุมมองเป็นบวกต่อ TOP ที่จะได้มูลค่าเพิ่มจาก 2 โครงการใหม่ ได้แก่ โรงไฟฟ้า TOP SPP (กำลังผลิตไฟฟ้า 239 MW, ไอน้ำ 498 ตัน/ชม.) และโครงการ LABIX ที่คาดหวังจะช่วยเพิ่ม GIM ราว $0.4-0.6/บาร์เรล (Q2/59 ทำได้ $0.3/บาร์เรล)
อย่างไรก็ตาม ค่าการกลั่นปัจจุบันและกำไร Q3/59 ที่คาดว่าอ่อนตัว ทำให้ขาดปัจจัยหนุนราคาหุ้นในระยะสั้น สำหรับราคาเป้าหมายของ TOP ได้ปรับไปใช้ราคาเป้าหมายปี 60 ที่ 79 บาท
ขณะที่ TOP รายงานกำไรสุทธิ Q2/59 ที่ 7,753 ล้านบาท(+24%YoY, +64%QoQ) และกำไร H1/59 เท่ากับ 12,479 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +16%HoH โดยกำไร Q2/59 ออกมาดีกว่าที่คาดไว้ (7.59 พันล้านบาท) โดยกำไรที่เพิ่มขึ้น QoQ สาเหตุหลักมาจากกำไรสต็อกน้ำมัน(รวม NRV) จำนวน 4,362 ล้านบาท ตามราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยที่ปรับเพิ่มขึ้น $12.6/บาร์เรลใน Q2/59 ทั้งนี้ กำไรสต็อกอยู่ที่ 4,106 ล้านบาท ($4.2/บาร์เรล) ดีขึ้นจากขาดทุนสต็อก -$1/บาร์เรลใน Q1/59
และยังรับรู้ส่วนแบ่งกำไรของบริษัทในกลุ่มเพิ่มเป็น 615 ล้านบาท (+18%QoQ) หลัก ๆ มาจากโรงไฟฟ้า SPP ใหม่ (กำลังผลิต 239 MW, TOP ถือหุ้น 99.99%) ที่เริ่มทยอยผลิต โดยหน่วยที่ 1 : ผลิต เม.ย.59, หน่วยที่ 2 : มิ.ย.59
กำไร H1/59 ที่ 12,479 ลบ. คิดเป็น 71% ของประมาณการกำไรทั้งปี 59 แต่เนื่องจากกำไรมีแนวโน้มชะลอตัว HoH ตามค่าการกลั่น H2/59 ที่อ่อนตัว ซึ่งปัจจุบันค่าการกลั่น (ตลาดสิงค์โปร์) ลดลงเหลือ $4.25/บาร์เรล (3QTD=$4.7) รวมทั้งยังอาจขาดทุนจากสต็อกน้ำมันใน Q3/59 ทำให้ยังคงกำไรปีนี้ตามเดิม
ส่วนปี 60 คาดกำไรจะเพิ่มขึ้นเป็น 17,969 ล้านบาท EPS=8.81 บาท (+2%YoY จากฐานสูงในปี 59) พร้อมคาดบริษัทจะจ่ายปันผล H1/59 ที่ 1 บาท/หุ้น คิดเป็น Dividend Yield ประมาณ 1.6%