ดาวโจนส์ปิดปรับลง นักลงทุนผิดหวังข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (12 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้น หลังจากผิดหวังข้อมูลยอดค้าปลีก และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ที่ออกมาอ่อนแอกว่าที่มีการคาดการณ์กันไว้
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิด (12 ส.ค.) ที่ 18,576.47 จุด ลดลง 37.05 จุด หรือ 0.20%, ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,232.90 จุด เพิ่มขึ้น 4.50 จุด หรือ 0.09% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,184.05 จุด ลดลง 1.74 จุด หรือ 0.08% สำหรับในสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์ และดัชนี NASDAQ ปรับตัวขึ้น 0.2% และดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 0.1% โดยทั้ง 3 ดัชนีปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงการซื้อขายเมื่อเร็วๆ นี้
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กอ่อนแรงลงเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่เปิดเผยล่าสุด โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเดือนก.ค.ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนมิ.ย. ซึ่งผิดไปจากที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.4% หลังจากที่ปรับตัวขึ้นมา 3 เดือนติดต่อกัน
ทั้งนี้ ยอดค้าปลีกเป็นส่วนสำคัญของการใช้จ่ายผู้บริโภค ซึ่งถือเป็นกลไกสำคัญที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจสหรัฐ ข้อมูลที่ได้รับการเปิดเผยล่าสุดนี้จึงบ่งชี้ว่า การใช้จ่ายผู้บริโภคในไตรมาส 3 อาจชะลอตัวลง หลังจากที่เพิ่มขึ้นแข็งแกร่งถึง 4.2% ในไตรมาส 2 และอาจส่งผลต่ออัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจในไตรมาส 3 ด้วย
ขณะเดียวกัน กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ลดลง 0.4% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 4 เดือน และยังเป็นการลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2558 หลังจากที่พุ่งขึ้น 0.5% ในเดือนมิ.ย. นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ดัชนีราคาผู้ผลิตจะปรับตัวขึ้น 0.1% ในเดือนก.ค.
หุ้นกลุ่มการเงินปรับตัวลง โดยหุ้นฮันทิงตัน บองซ์แชร์ และหุ้นคีย์ คอร์ปลดลงกว่า 0.9%, หุ้นพลังงานปรับตัวขึ้น โดยหุ้นหุ้นเอ็กซอน โมบิลพุ่งขึ้น 1.3% ส่วนหุ้นเทคโนโลยีปรับตัวขึ้น โดยหุ้นยาฮูพุ่งขึ้น 4.1% และหุ้นอาลีบาบาพุ่งขึ้น 7.1% โดยยาฮูถือครองหุ้นในบริษัทอาลีบาบา 15%