NMG มีดีกว่าแค่ซากแพะแฉทุกวัน ทันเกมหุ้น
อ่านงบแค่ตัวเลขกำไรขาดทุนสุทธิของเครือบริษัทเนชั่น ภายใต้การบริหารของ นายสุทธิชัย หยุ่น และพวกเจ้าของคำขวัญ “ผิดจากนี้ ไม่ใช่เรา” หลายคนคงนึกว่า ตัวเลขที่ขาดทุนป่นปี้อย่างที่ปรากฏในไตรมาส 2 และงวดกลางปีปีนี้จะแย่งกิจการกันไปทำไมให้เสียเวลา เพราะหากขืนปล่อยเอาไว้ อีกไม่นาน ก็จะเป็นแค่ “ซากแพะ” เท่านั้น แย่งทึ้งกันไปก็ป่วยการ
อ่านงบแค่ตัวเลขกำไรขาดทุนสุทธิของเครือบริษัทเนชั่น ภายใต้การบริหารของ นายสุทธิชัย หยุ่น และพวกเจ้าของคำขวัญ “ผิดจากนี้ ไม่ใช่เรา” หลายคนคงนึกว่า ตัวเลขที่ขาดทุนป่นปี้อย่างที่ปรากฏในไตรมาส 2 และงวดกลางปีปีนี้จะแย่งกิจการกันไปทำไมให้เสียเวลา เพราะหากขืนปล่อยเอาไว้ อีกไม่นาน ก็จะเป็นแค่ “ซากแพะ” เท่านั้น แย่งทึ้งกันไปก็ป่วยการ
เหตุผลคือนี่มันเมืองไทย ไม่ใช่อัฟกานิสถานหรือเอเชียกลางกันนี่นา
เกมขี่ม้าทึ้งซากแพะจึงไม่สนุกและเสียแรงเหนื่อยเปล่าๆ
แม้ว่าเกมแย่งยื้อกิจการระหว่างค่ายนิวส์ เน็ตเวิร์ค กับกลุ่มผู้บริหารเครือเนชั่นในบริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ NMG จะซาลงไป แต่คลื่นใต้น้ำของการต่อสู้ยังไม่จบสิ้น ดังนั้น สิ่งที่จะต้องจับตาดูต่อไปคือ ผลประกอบการที่จะบ่งชี้ว่าบริษัทควรแก่การแย่งยื้อหรือไม่ยังคงต้องดำเนินต่อไป
การขาดทุนทำให้มูลค่ากิจการและมูลค่าผู้ถือหุ้นหดตัวลงย่อมไม่คุ้มค่า แต่หากกำไรหรือเสมอตัวก็น่าลุ้น
ตัวเลขเครือเนชั่นทั้ง 3 บริษัทบ่งบอกว่ากิจการทรุดโทรมลงอย่างมาก หลายคนบอกว่าเพราะธุรกิจสื่อเป็นขาลง ในแง่ของสื่อสิ่งพิมพ์เป็นธุรกิจ “ตะวันตกดิน” ส่วนธุรกิจโทรทัศน์มีปัญหาอุปทานมากกว่าอุปสงค์ ผลตอบแทนยังอยู่ในช่วงต่ำติดพื้น ไล่ไม่ทันเงินที่ใช้จ่ายไปกับการลงทุน โดยเฉพาะดอกเบี้ยจ่ายที่ไล่ล่ากิจการอยู่….ไม่เหมือนสื่อโทรทัศน์ผีดูดเลือดที่เอาภาษีประชาชนไปละลายปีละ 2,000 ล้านบาท ให้คนกลุ่มเดียวจำนวนน้อยเพลิดเพลินเจริญใจ
ข้อสรุปข้างต้นมีทั้งถูกและผิด เพราะหากมองเข้าไปลึกๆ ตัวเลขการขาดทุนหนักๆ ไตรมาส 2 ของบริษัทลูกอย่างบริษัททำโทรทัศน์ 2 ราย บริษัทแรก เนชั่น บรอดคาสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ NBCทำโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม และบริษัทโทรทัศน์ดิจิตอล เนชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล เอ็ดดูเทนเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ NINE จะพบข้อเท็จจริงบางอย่างซ่อนเอาไว้
ข้อเท็จจริงที่ซ่อนเอาไว้นี่แหละมีดีพอสมควรแม้จะไม่มาก
งบการเงิน NBC 5 ปีนี้ กำไรดีมา 3 ปีรวด แม้จะบางมากแถมถดถอยลง แต่มาขาดทุนปี 2558 เล็กน้อย 20.56 ล้านบาท แล้วพุ่งขึ้นครึ่งแรกของปีนี้ ที่ขาดทุนรวม 116.14 ล้านบาทโดยมีรายได้ 250.85 ล้านบาท
ผลการขาดทุนทำให้ราคาหุ้นของ NBC ร่วงลงมาต่ำกว่าบุ๊คแวลูทันที ล่าสุดราคาอยู่ที่ 2.00 บาท ส่วนบุ๊คอยู่ที่ 2.15 บาท แล้วไม่มีค่าพี/อีให้เห็น ตามประสาหุ้นที่ขาดทุนต่อเนื่องหลายไตรมาส
ส่วนงบการเงิน NINE ก็มีลักษณะคล้ายกัน คือในช่วง 5 ปีก่อนหน้า ปรากฏว่ากำไรบางๆ มา 3 ปีต่อเนื่อง แล้วมาเริ่มขาดทุนปีที่แล้ว 18.35 ล้านบาท แต่พุ่งแรงขาดทุนครึ่งแรกปีนี้ 171.79 ล้านบาท โดยมีรายได้เพียงแค่ 89.27 ล้านบาท
ขาดทุนที่มากกว่ารายได้ของ NINE ถือว่าไม่ธรรมดา เพราะพลิกรายละเอียดมาจากการขาดทุนเพราะบันทึกค่าเสื่อมของทรัพย์สินชนิด “รวดเดียวจบ” ซึ่งทำให้ตัวเลขขาดทุนดังกล่าวเป็น “ขาดทุนพิเศษ” เพราะเป็นแค่ขาดทุนทางบัญชีธรรมดา
การขาดทุนพิเศษที่ไม่ได้เกิดจากการขาดทุนจากการดำเนินการปกติที่เลวร้าย
ไม่มีความเสียหายอะไร เพราะปีต่อๆ ไปก็ไม่มีการบันทึกอีก จบเรื่องร้ายๆ
เพียงแต่กรณีของ NINE อาจจะพิเศษตรงที่ส่วนผู้ถือหุ้นเหลือแค่309.34 ล้านบาทเท่านั้น หากยังขืนขาดทุนเยอะๆ อีกย่อมไม่สวย อาจจะต้องหาเรื่องเพิ่มทุนอีก แม้ว่าที่ผ่านมาบริษัทนี้จะเดินกลยุทธ์การเงินแบบพอเพียงมาตลอด เพราะก่อหนี้ต่ำมากก็ตาม
ส่วนรายของ NBC ก็เช่นกัน การ “ขาดทุนพิเศษ” ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไรเช่นเดียวกับ NINE แถมการที่บริษัทนี้ยังมีส่วนผู้ถือหุ้นให้สามารถขาดทุนได้อีกเยอะถึง 1,150.16 ล้านบาท เทียบกับหนี้รวมที่มีแบบ “พอเพียง” เช่นกัน ทำให้ความแข็งแกร่งไม่ได้หดหายไปกี่มากน้อย
การขาดทุนมากของบริษัทย่อยทั้งสองแม้จะทำให้ตัวเลขขาดทุนของแม่อย่าง NMG ขี้เหร่มากในรอบหลายปี ถือเป็นการขาดทุนปีแรกในรอบ 5 ปีทีเดียว… แต่ก็ไม่ได้น่ากังวลอะไรมากมายเพราะหน้าตักมีตุนไว้เยอะจากการเพิ่มทุนครั้งก่อนๆ
ตัวเลขขาดทุนสุทธิกลางปีแรก 341.78 ล้านบาทถือว่าเป็นไปตาม “ภาวะถดถอยของธุรกิจ” ไม่ได้สะท้อนว่าผู้บริหารมีปัญหาอะไรมากมาย โดยที่มีผลส่วนผู้ถือหุ้นล่าสุดเหลือ 3,434.40 ล้านบาท เทียบกับหนี้สิน 3,906.62 ล้านบาท ทำให้ค่าดี/อีไม่ได้เลวร้ายอะไรมากนัก แค่ 1.1 เท่าเศษ ….. ยังขาดทุนได้อีกหลายปี(หากบังเอิญว่ายังทำให้ขาดทุนในระดับนี้จนเป็นปกติ)
ความแข็งแกร่งทางการเงินของNMG สะท้อนว่าการขาดทุนมีผลต่อความแข็งแกร่งของอาณาจักรที่บริหารโดย 3 บิ๊กอย่างนายสุทธิชัยที่อยู่หัวแถว รองลงไปคือนายพนา จันทรวิโรจน์ และนายอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ น้อยมาก
ดังนั้น ใครที่ด่วนสรุปว่าแค่การขาดทุนหนักๆ จากการบันทึกค่าเสื่อมของบริษัทย่อยจะมีผลให้ NMG เป็นบริษัทตะวันตกดิน….แล้วปฏิบัติการแย่งยื้อกิจการของรายใหญ่ 2 กลุ่มที่เรื้อรังไม่ยอมจบมาปีเศษๆ….จะเป็นแค่ทึ้งซากแพะ…… อาจจะผิดจังเบอร์
NMG วันนี้ อาจจะไม่ใช่ “วัวที่ให้น้ำนมทองคำ” หรือ “ห่านที่ไข่เป็นทองคำ” เหมือนเดิม (ดังที่ใครบางคนเคยมโนเอาเอง) แต่ก็ยังมีขุมทรัพย์ซ่อนอยู่
ตาดีมองได้ ตาร้ายมองเสีย…. 2 คนยลตามช่อง
แล้วก็เล่นเกมลับ ลวง พราง กันไปเรื่อยๆๆๆ แบบสงครามยืดเยื้อ
สงครามยังไม่จบ … กรุณา อย่าเพิ่งนับศพทหาร
“อิ อิ อิ”