ลุยต่อโมนิก้าและทีมงาน
*ช่วงนี้ “โมนิก้า” ไม่ค่อยอยากเม้าท์เรื่องราวของตลาดหุ้นไทย และตลาดหุ้นเทศมากนัก เพราะสถานการณ์หลังจากนี้คงผลุบๆ โผล่ๆ ไปตามการเคลื่อนย้ายของเม็ดเงินลงทุนของนักลงทุนแต่ละกลุ่ม ส่งผลให้การคำนวณดัชนีในระยะสั้นๆ วันต่อวันไม่ก่อประโยชน์อะไรทั้งสิ้น จึงอยากให้นักลงทุนทั่วไปยอมรับความเป็นจริงเรื่องนี้สักที!!..เพราะเสียเวลาที่จะมานั่งพูดในเรื่องที่ทุกคนรู้อยู่เต็มอกพะยะค่ะ
*ช่วงนี้ “โมนิก้า” ไม่ค่อยอยากเม้าท์เรื่องราวของตลาดหุ้นไทย และตลาดหุ้นเทศมากนัก เพราะสถานการณ์หลังจากนี้คงผลุบๆ โผล่ๆ ไปตามการเคลื่อนย้ายของเม็ดเงินลงทุนของนักลงทุนแต่ละกลุ่ม ส่งผลให้การคำนวณดัชนีในระยะสั้นๆ วันต่อวันไม่ก่อประโยชน์อะไรทั้งสิ้น จึงอยากให้นักลงทุนทั่วไปยอมรับความเป็นจริงเรื่องนี้สักที!!..เพราะเสียเวลาที่จะมานั่งพูดในเรื่องที่ทุกคนรู้อยู่เต็มอกพะยะค่ะ
*แถมเมื่อวันก่อน “โมนิก้า” เพิ่งพูดถึงกลยุทธ์การลงทุนที่ให้ผลตอบแทนงอกเงยในช่วงตลาดหุ้นผันผวนไปหยกๆ จึงอยากให้นักลงทุนลองไปนั่งทบทวนหุ้นรายตัวที่พูดไปก่อนหน้านี้ “เข้าทุกดอก” ตามที่ได้เกริ่นนำไว้หรือเปล่า??..ขณะเดียวกันตัวนักลงทุนก็ควรยอมรับความจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ sale on fact อย่างเต็มใจ ซึ่งเป็นผลมาจากหุ้นพื้นฐานดีประกาศผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนออกมาหมดแล้วน่ะสิ
*พูดถึงหุ้นพื้นฐานดีทีไร.. โมนิก้า” ค่อนข้างเจ็บใจอย่างแรง เพราะพูดถึงมากไป ก็หาว่าเชียร์โอเวอร์เหลือเกิน แต่เมื่อพูดถึงน้อยไป ก็หาว่าไม่รักกันจริง โดยทั้งหมดเป็นเรื่องที่เดี๊ยนรับได้ แต่ที่หงุดหงิดสุดก็คือ แนะให้ซื้อทีไร มักมีคำถามตามหลังมาเป็นประจำ!!..ถึงกระนั้นเดี๊ยนยังคงย้ำแนวทางเดิมต่อไปเรื่อยๆ เพื่อชี้ช่องให้ขาลุยเตรียมเงินไปช็อปปิ้งหนักๆ หลังได้ข่าวแว่วมาแต่ไกลว่า “ของดีมีไม่บ่อย” พะยะค่ะ
*รายแรกที่ต้องกล่าวถึงมากเป็นพิเศษ ไม่ใช่คนอื่นไกลที่ไหน นั่นก็คือพระเอกตัวจริงอย่าง AJD ของ “เฮียอมร” หลังตัวเลขงวด 6 เดือนปี 59 ทำผลงานเข้าตากรรมการแบบจะแจ้ง ส่งผลให้โอกาสในการทำกำไรเปิดกว้างขึ้นไปอีกแบบนี้ “โมนิก้า” ถึงเชียร์ให้ซื้อสุดตัวแบบออกหน้า เพราะของเขาดีจริงๆ แถมหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 2.08 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 10% ด้วยมูลค่า 670 ล้านบาท จึงกลายเป็นระดับที่สามารถลงทุนได้สบายๆ นะจ๊ะ
*อีกรายก็คือ WIIK ราคาหุ้นค่อยๆ ไต่ระดับขึ้นอย่างมั่นคงพร้อมกับมีข่าวดีออกมาให้เห็นมากขึ้นเรื่อยๆ จึงมีโอกาสที่ราคาหุ้นจะพุ่งขึ้นไปสร้างฐานใหม่ที่สูงกว่าเดิม โดยล่าสุดราคาหุ้นปิดที่ 4.06 บาท บวกไป 0.38 บาท หรือขึ้นไป 10.30% ด้วยมูลค่า 405 ล้านบาท มันเป็นระดับราคาที่น้อยเกินไปสำหรับหุ้นไซส์เล็ก พื้นฐานแน่นเปรี๊ยะ วันนี้ถึงต้องลุยต่อไงล่ะค่ะ
*เหมือนกับในรายของ ASEFA ก่อนหน้านี้อาจไม่ได้สร้างความประทับใจแก่ผู้ถือหุ้นรายย่อย แต่อย่างน้อยหุ้นตัวนี้ก็มีเรื่องดีๆ ให้นักลงทุนได้เชยชมตลอดเวลา “โมนิก้า” ถึงขอยกให้หุ้นตัวนี้เป็นทางเลือกสำหรับคนที่คิดจะซื้อลงทุนระยะยาว ล่าสุดหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 7.20 บาท บวกไป 0.45 บาท หรือขึ้นไป 6.70% ด้วยมูลค่า 190 ล้านบาท เดี๊ยนขอให้จำไว้ว่า “ทองแท้ย่อมไม่กลัวไฟ” เจ้าค่ะ
*เช่นเดียวกับในรายของSENA “โมนิก้า” เห็นราคาหุ้นปรับตัวขึ้นแรงมาหลายวันแล้วก็จริง แต่ก็ยังกล้าแนะนำให้ตะลุยเข้าไปเรื่อยๆ เพราะสเต็ปการเคลื่อนตัวของหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กเป็นอิสระ ไม่ได้ขึ้นตรงกับภาวะตลาดหุ้นโดยรวม วินาทีนี้ไม่ต้องสนใจหน้าอินทร์หน้าพรหมทั้งสิ้น (สนแค่ว่า ตัวคุณเป็นนักลงทุนประเภทแก้วตาขาร็อคเท่านั้นพอ) ปิดตลาดราคาหุ้นอยู่ที่ 4.06 บาท บวกไป 0.26 บาท หรือขึ้นไป 6.80% ด้วยมูลค่า 308 ล้านบาท พร้อมกับทำ double top ที่บริเวณ 4.10 บาทแบบนี้..หากไปต่อไหว ก็ไม่ต้องกลัวอะไร ยกเว้นย่อตัวลงมา ก็ต้องรีบเผ่นนะคะ
*สำหรับในรายของ KAMART หลังจากไปชุบตัวมาใหม่ และตรงสเปกกับพวกไวกว่าแสง ราคาหุ้นถึงพุ่งพรวดพราดบ้างในวัน แต่ในบางวันก็หยุดไปดื้อๆ ยิ่งเป็นที่โปรดปรานสำหรับนักลงทุนที่ชอบมีชีวิตผาดโผน แถมช่วงหลังๆ หุ้นความสวยความงามถูกขับเคลื่อนด้วยเรื่องสุขภาพ แรงซื้อถึงมุ่งตรงมายังหุ้นตัวนี้เป็นกรณีพิเศษ หลังพบว่าราคาหุ้นปรับตัวขึ้นค่อนข้างช้า ล่าสุดราคาหุ้นอยู่ที่ 13.40 บาท บวกไป 0.80 บาท หรือขึ้นไป 6.30% ด้วยมูลค่า 145 ล้านบาท ถือว่ายังมีลุ้นไปต่อ โดยเฉพาะพวกที่มาเร็วเคลมเร็วนะจะบอกให้
*กรณีดังกล่าวคล้ายคลึงกับการเข้ามาไล่ซื้อหุ้น AAV หลายคนอาจตั้งข้อสงสัยรายการร่วมด้วยช่วยดัน อาจเป็นการพาคนไปตายกันเป็นเบือนั้น “โมนิก้า” ขอแย้งสุดตัวว่าขึ้นอยู่กับความพอใจส่วนตัว จึงไม่ควรเอาบรรทัดฐานส่วนตัวไปตัดสินการกระทำของคนอื่น (คนชอบเล่นเสียว..อุ๊ย..ชอบเล่นสั้น ยังไงก็ต้องเข้าเล่นอยู่ดี) ปิดตลาดราคาหุ้นอยู่ที่ 7.65 บาท บวกไป 0.15 บาท หรือขึ้นไป 2% ด้วยมูลค่า 1.41 พันล้านบาท มันเป็นเรื่องของกระแสล้วนๆ นะจ๊ะ
*ส่วนอดีตดาวรุ่งที่ปัจจุบันกลับร้อนแรงอีกครั้ง จนต้องขอพูดถึงเป็นการเฉพาะก็คือ UKEM ช่วงนี้มีวอลุ่มหนุนเข้ามามากเป็นพิเศษ แถมผลประกอบการในงวด 6 เดือนแรกก็ออกมาเลิศ “โมนิก้า” ถึงอยากให้มิตรรักแฟนเพลงจับตาดูหุ้นตัวนี้ให้ดี เพราะหุ้นเทรดบนค่า P/E 14 เท่า และเมื่อเทียบกับราคาหุ้นที่ 1.30 บาท บวกไป 0.10 บาท หรือขึ้นไป 8.30% ด้วยมูลค่า 100 ล้านบาท มองจากมุมไหน ด้านไหน ก็ยังเหลือแก๊ปให้คุณๆ ท่านๆ ได้เล่นเก็งกำไรพะยะค่ะ
*ก่อนจากกันขอแจ้งข่าวประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับงานสัมมนา วันที่ 20 ส.ค. 59 ของหนังสือพิมพ์ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ร่วมกับ “ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย” และ “ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ” อีกครั้ง..เนื่องจากหัวข้อสัมมนา “รวมพลหุ้นขวัญใจมหาชน” และ “ 1,600 จุด..ฝันที่เป็นจริง? ” ล้วนเป็นการเปิดทางเลือก และไขปริศนาให้นักลงทุนรับทราบแบบนี้..คุ้มสุดคุ้มแน่นอนเจ้าค่ะ
*ป.ล.สถานการณ์ของตลาดหุ้นไม่มีอะไรน่ากลัว และอาการเหวี่ยงตัวขึ้นลงแรงก็เป็นเพียงการหยั่งแรงช้อนซื้อ จึงควรจับจังหวะเข้าซื้อหุ้นให้ดีๆ พะยะค่ะ