หุ้นไทยยังแกร่งลูบคมตลาดทุน
หลังเกิดเหตุการณ์ระเบิดหลายจุดในพื้นที่ภาคใต้ของประเทศไทย ต่างก็มองว่า วานนี้ (15 ส.ค.) หุ้นน่าจะลงแรง และบางคนมองไปถึงว่าอาจจะหลุด 1,500 จุด
ธนะชัย ณ นคร
หลังเกิดเหตุการณ์ระเบิดหลายจุดในพื้นที่ภาคใต้ของประเทศไทย ต่างก็มองว่า วานนี้ (15 ส.ค.) หุ้นน่าจะลงแรง และบางคนมองไปถึงว่าอาจจะหลุด 1,500 จุด
แต่สถานการณ์วานนี้เกือบจะตรงกันข้าม
เพราะดัชนีปิดตลาดปรับตัวลงเพียง 3.53 จุด มาที่ 1,549.11 จุด
มูลค่าการซื้อขายนับว่ายังหนาแน่นอยู่ หรือ 7.50 หมื่นล้านบาท และไม่ได้มีบิ๊กล็อตที่ถือว่ามีนัยสำคัญด้วย
เหตุที่หุ้นไทยลงไม่แรง จากเหตุระเบิด เพราะนักลงทุนมีเวลาในการเตรียมข้อมูลถึง 2 วัน ก่อนจะเปิดตลาดในวันจันทร์ที่ 15 ส.ค. และนั่นทำให้ไม่เกิดอาการตื่นตูม
นักลงทุนรู้ว่าควรจะขายหุ้นตัวไหน ในกลุ่มไหน ไม่มีสะเปะสะปะ
สรุปคือมีเวลาทำการบ้าน
ปัจจัยต่อมา คือ สภาพัฒน์ มีกำหนดแถลงข่าวตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพี เมื่อวานนี้พอดี
และพอดียิ่งกว่าก็คือ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2/59 ออกมาขยายตัว 3.5%
ตัวเลขนี้ถือว่ามากกว่าที่นักวิเคราะห์ และบรรดานักเศรษฐศาสตร์ได้คาดการณ์กันไว้ก่อนหน้านี้
นั่นทำให้หุ้นไทยปรับลงไม่มากนัก
ขณะเดียวกันในระหว่างวัน หุ้นยังปรับขึ้นไปยืนอยู่แดนบวกได้ซะด้วย
และไม่เพียงเท่านั้น หุ้นไทยยังได้รับปัจจัยหนุนจากผลปรกอบการของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ที่ส่วนใหญ่ออกมาดีกว่าที่คาดการณ์กันไว้
กำไรของ บจ.ดังกล่าว ว่ากันว่า ทำให้ผลตอบทาของตลาดหุ้นไทย อยู่ในระดับท็อปของเอเชียในขณะนี้
ผ่านมาถึงวานนี้ บจ.ได้แจ้งผลประกอบการออกมาน่าจะใกล้ครบหมดทุกแห่งแล้ว
ก่อนหน้านี้ คุณเกศรา มัญชุศรี กรรมทการผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ ก็ออกมาบอกว่า แนวโน้มกำไรของ บจ.ในไตรมาส 2 เท่าที่ดูในเบื้องต้น แม้จะไม่ดีมาก ทว่า ก็ไม่นาเกลียดล่ะ
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุว่า ผลประกอบการของ บจ. 391 แห่ง(ข้อมูล ณ 11 ส.ค.) หรือคิดเป็นมาร์เก็ตแคป 71% ของตลาดหุ้น มีกำไรสุทธิออกมาบวกอยู่กว่า 7.9%
ส่วน บล.โนมูระ พัฒนสิน ก็มีข้อมูลที่ออกมาไปในแนวทางเดียวกัน
โนมูระฯ มองว่ากำไร บจ. ไตรมาส 2 (เฉพาะ บจ.ที่โนมูระฯ นำมาคำนวณ) โตกว่าที่คาดไว้ 13-14%
ขณะที่คุณภัทธีรา ดิลกรุ่งธีระภพ รองประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย ได้บอกเหมือนกันว่า กำไร (บจ.) ปีนี้น่าจะเติบโตขึ้นจากปีที่ผ่านมาประมาณ 30%
และมีแนวโน้มที่จะเป็นไปได้ (แต่ต้องลุ้นให้เราคาน้ำมันดีขึ้นด้วย)
ตัวเลขกำไร บจ.ที่ถูกคาดออกมาสูงขนาดนี้ ผมเข้าใจว่าเป็นเพราะปี 2558 ฐานตัวเลขอยู่ระดับต่ำ หรือกำไรโตลดลง 1.37% จากปี 2557
นักวิเคราะห์ต่างมองครับว่า แนวโน้มกำไรของ บจ.หลายๆ แห่งในครึ่งปีหลังจะออกมาดี
หุ้นขนาดกลางและเล็กหลายตัว จะทำกำไรสถิติสูงสุด
หุ้นหลายตัวเติบโตด้วยปัจจัยภายในประเทศที่เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว
และหุ้นหลายตัวก็เติบโตจากปัจจัยต่างประเทศ
คุณปริญญ์ พานิชภักดิ์ วัยย่าง 38 ปี กรรมการผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ซีแอลเอสเอ(ประเทศไทย) มองว่าแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติยังคงดำเนินต่อไป
ตลาดหุ้นไทยในปีนี้จะถูกขับเคลื่อนจากปัจจัยต่างประเทศเป็นหลัก
สาเหตุก็เพราะอัตราดอกเบี้ยในตลบาดเงินของโลกยังอยู่ระดับต่ำ
ส่วนผลตอบแทนของตลาดหุ้นไทยยังอยู่ระดับสูงกว่าผลตอบแทนในตลาดเงิน ยังไงเงินก็ยังไหลเข้า
โครงการลงทุนภาครัฐขนาดใหญ่ ยังคงเดินหน้าต่อไป ก็ช่วยยิ่งทำให้เศรษฐกิจน่าจะขยายตัวได้ตามเป้าหมาย
นับจากสิ้นปี 2558 มาถึงวานนี้ ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นมาแล้ว 20.26% และน่าจะมากเป็นอันดับต้นๆ ของโลก ที่ตัวเลขเติบโตขนาดนี้
คุณภัทธีรา บอกอีกว่าระดับ P/E ปัจจุบัน ตลาดหุ้นไทยยังถือว่าราคาไม่แพงมากนัก และมีโอกาสที่จะไปต่อได้
หุ้นไทยยังมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแกร่ง