CPF ผนึกชาวประมงจ.นครราชสีมาจัดโครงการ “รักษ์ลำน้ำมูล” ปีที่ 8
CPF ร่วมกับ ประมงจ.นครราชสีมา จัด “โครงการรักษ์ลำน้ำมูล” เพื่อเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพให้ชุมชนรอบรั้วโรงงานมีความอุดมสมบูรณ์ โดยร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและชุมชนมาร่วมกันฟื้นฟู-อนุรักษ์สภาพแวดล้อมแม่น้ำมูลให้อุดมสมบูรณ์ และสะอาดสามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างยั่งยืน
นายสิริพงศ์ อรุณรัตนา รองกรรมการผู้จัดการบริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF เปิดเผยว่า ซีพีเอฟมีนโยบายให้แต่ละสถานประกอบการของซีพีเอฟส่งเสริมกิจกรรมการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติอย่างต่อเนื่อง เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับการปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพ เพื่อการคงอยู่ของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ภายใต้ยุทธศาสตร์ด้าน “ดิน น้ำ ป่าคงอยู่” ซึ่งโรงงานแปรรูปเนื้อไก่ จังหวัดนครราชสีมาได้นำนโยบายดังกล่าวมาริเริ่มดำเนิน “โครงการรักษ์ลำน้ำมูล” มาตั้งแต่ปี 2552 จนถึงปัจจุบัน เพื่อเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพให้ชุมชนรอบรั้วโรงงานมีความอุดมสมบูรณ์ โดย ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและชุมชนมาร่วมกันฟื้นฟูและอนุรักษ์สภาพแวดล้อมของแม่น้ำมูลซึ่งเป็นลำน้ำหลักในภาคตะวันออกเฉียงเหนือให้อุดมสมบูรณ์ และสะอาดสามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างยั่งยืน
“ปีนี้เราได้ขยายโครงการฯ ร่วมกับภาครัฐและชาวโคราช ปลูกป่าในบริเวณหาดจอมทอง เหนืออ่างเก็บน้ำเขื่อนมูลบน ซึ่งเป็นพื้นที่ต้นน้ำและเป็นพื้นที่หลักที่มีความสำคัญต่อระบบนิเวศน์ หากพื้นที่บริเวณนี้ได้รับการฟื้นฟูจนอุดมสมบูรณ์ จะทำให้ฝนตกตามฤดูกาล และเพิ่มน้ำในเขื่อนมากขึ้น ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อการดำรงชีวิตของชาวโคราชโดยรวม” นายสิริพงศ์ กล่าวเสริม
โดยภายในงานมีการปล่อยพันธุ์ปลาท้องถิ่นหายากที่อาศัยอยู่ในลำน้ำมูลจำนวน 199,999 ตัว ซึ่งเป็นปลาน้ำจืด และปลาประจำท้องถิ่น อาทิ ปลาตะเพียนขาว,ปลาตะเพียนทอง,ปลาสวาย,ปลาบึก เป็นต้น เพื่ออนุรักษ์พันธุ์ปลาให้คงอยู่คู่ชุมชน รวมถึงมีกิจกรรมปลูกต้นไม้จำนวน 2,084 ต้น ในพื้นที่เหนืออ่างเก็บน้ำมูลบน โดยเน้นปลูกต้นไม้ยืนต้นใหญ่และต้นไม้ท้องถิ่น โดยเฉพาะสัก และมะค่าโมง โดยเชิญชาวบ้าน คณะครู และเยาวชนโรงเรียนจอมทองวิทยามาร่วมทำกิจกรรม เพื่อสร้างความร่วมมือร่วมใจและปลูกจิตสำนึกรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้เกิดขึ้นในชุมชน
นายจักรี ยิ่งเจริญ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำ-บำรุงรักษามูลบน-ลำแชะ กรมชลประทาน กล่าวว่า เขื่อนมูลบนมีความสำคัญมากต่อการดำรงชีวิตและประกอบอาชีพของประชาชนในจังหวัดนครราชสีมา ปัจจุบัน ปริมาณน้ำในเขื่อนมูลบนเหลือเพียง 30% เท่านั้น เนื่องจากฝนที่ตกในช่วงนี้ไหลเข้ามาในเขื่อนค่อนข้างน้อย เดิมหาดจอมทอง พื้นที่เหนือเขื่อนมูลบนถูกบุกรุกถางป่าทำให้พื้นที่ป่าต้นน้ำเสื่อมโทรม กิจกรรมที่ซีพีเอฟจัดขึ้นในวันนี้นับเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญของการฟื้นฟูป่าต้นน้ำของลำน้ำมูล ให้กลับมามีความอุดมสมบูรณ์ ช่วยให้มีฝนตก บริเวณเหนือเขื่อนเพิ่มขึ้น ต่อจากนี้ เจ้าหน้าที่โครงการฯ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ และซีพีเอฟจะร่วมกัน เพื่อให้มั่นใจว่าต้นไม้ที่ปลูกในวันนี้อยู่รอดเติบโตเป็นป่าต้นน้ำ และมีแผนจะฟื้นฟูพื้นที่ตรงนี้ให้เป็นป่าต้นน้ำครอบคลุมพื้นที่ 20 ไร่ ตลอดจนกระตุ้นให้ชุมชนได้มีส่วนร่วมในการดูแลรักษาป่าต้นน้ำควบคู่กัน เพื่อให้ฟื้นฟูป่าต้นน้ำให้มีความอุดมสมบูรณ์ เพิ่มฝนตกเหนือเขื่อน และน้ำซับในดิน เป็นการช่วยเติมน้ำในเขื่อนมูลบนให้มากขึ้นในอนาคต
“การฟื้นคืนป่าต้นน้ำต้องอาศัยความมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนอย่างจริงจังและต่อเนื่อง กิจกรรมโครงการรักษ์น้ำมูล ของซีพีเอฟ ถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของการฟื้นคืนป่าต้นน้ำเหนือเขื่อนมูลบน และกระตุ้นให้ชาวโคราชเห็นความสำคัญและดูแลป่าต้นน้ำ เป็นแหล่งเติมน้ำเติมชีวิตให้ลำน้ำมูลบน และให้ชาวโคราชมีน้ำกินน้ำใช้อย่างพอเพียงและยั่งยืน” นายจักรีกล่าว
นายสิริพงศ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ซีพีเอฟได้ดำเนินโครงการรักษ์ลำน้ำมูล มาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 8 โดยแต่ละพื้นที่ที่บริษัทฯ เข้าไปดำเนินโครงการมีความอุดมสมบูรณ์มากขึ้น มีพื้นที่ป่าไม้เพิ่มขึ้นโดยมีอัตราการเจริญเติบโตร้อยละ 60 นอกจากนี้ในส่วนของปลาที่ปล่อยไปมีการขยายพันธุ์จากเดิมที่มีการสูญหายจากภัยธรรมชาติ ทำให้มีจำนวนพันธุ์ปลาเพิ่มมากขึ้น โดยมีอัตราการเจริญเติบโตร้อยละ 100 โดยทำการวัดผลจากการสอบถามชุมชนพื้นที่ในการดำเนินโครงการและสำรวจลำน้ำหลังจากดำเนินโครงการ ไม่มีการตายของพันธุ์ปลา เนื่องจากคัดเลือกพันธุ์ปลาและอายุปลาที่มีอัตราการรอดสูงสุด โครงการฯ นี้จึงนับเป็นการโครงการนำร่องด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรให้คงความอุดมสมบูรณ์อย่างยั่งยืนร่วมกับชุมชนอีกด้วย