SET ผันผวน เน้นเก็บหุ้นใหญ่ราคาถูก

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยผันผวนและมีโอกาสพักฐานหลังปัจจัยภายนอกประเทศเป็นลบมากขึ้น ขณะที่เริ่มเห็นแรงขายจากนักลงทุนต่างชาติ การลงทุนเน้นหุ้นขนาดใหญ่ที่ราคาปรับตัวลง


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์ รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.17 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 34.62 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นเพียงเล็กน้อย เนื่องจากตลาดได้รับแรงกดดันหลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยในเดือนหน้า

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยผันผวนและมีโอกาสพักฐานหลังปัจจัยภายนอกประเทศเป็นลบมากขึ้น ขณะที่เริ่มเห็นแรงขายจากนักลงทุนต่างชาติ การลงทุนเน้นหุ้นขนาดใหญ่ที่ราคาปรับตัวลง แลหุ้นที่มีแนวโน้มกำไรดีต่อเนื่อง หุ้นเด่นเลือก PTT-CPF-SCC-KTB และ CBG

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (17 ส.ค.) ว่า แม้ยังมีมุมมอง “บวก” ต่อ SET ในระยะกลางต่อไปจาก 1) สภาพคล่องทียังสูงในตลาดเงิน-ทุนโลก 2) การปรับประมาณการกำไรของนักวิเคราะห์ที่ยังดำเนินต่อไป และ 3) การเมืองมีเสถียรภาพ และคาดว่าจะเห็นการเร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในช่วงครึ่งปีหลังของปี 59 แต่ SET มีความเสี่ยงจากการ “พักฐาน” ระยะสั้นมากขึ้นหลังปรับสูงขึ้นแรงเกือบ 10% ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา และ 1) โอกาสที่ Fed จะขึ้นดอกเบี้ยภายในปีนี้สูงขึ้นเป็นกว่า 50% หลังสมาชิก Fed สาขา New York มองมีโอกาสขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ก.ย. 2) SET หลุดแนวรับระยะสั้นที่ 1,542 จุด มีแนวรับถัดไปที่ 1,533/1,520 และถัดไปที่ 1,470 +/- จุด

แนะนำ “ลดพอร์ต” ลดความผันผวนจากการ “พักฐาน” ของ SET โดยถ้าพิจารณาตาม Momentum อิง TradeCode จะเห็นว่ามีหุ้นเหลือเพียง 58% ของ Market Cap ตลาดที่ยังมีสัญญาณ “บวก” ทางเทคนิค ลดลงจาก 77-78% ในช่วงต้นสัปดาห์ก่อน และหุ้นที่มีสัญญาณ “พักฐาน” เพิ่มขึ้นเป็น 42%

 

บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (17 ส.ค.) ว่า SET วันนี้แกว่งลงแต่ไม่แรง ปัจจัยภายนอกเป็นลบมากขึ้น หลังผู้ว่าเฟดนิวยอร์กชี้ถึงความเป็นไปได้ที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ก.ย.นี้ ขณะที่ผู้ว่าเฟดแอตแลนตา ชี้เฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 1 ครั้งในปีนี้ ปัจจัยดังกล่าวผนวกกับการสิ้นสุดของ Earnings Season ไตรมาสสอง น่าจะทำให้ฟันด์โฟลว์ชะลอและ SET ปรับฐานต่อ มอง Downside ไม่มาก (ไม่น่าต่ำกว่า 1,500 จุด) หลังพื้นฐานทั้งเศรษฐกิจและกำไร บจ.ดีขึ้น

 

บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (17 ส.ค.) ว่า ราคาน้ำมัน WTI ล่วงหน้าเดือน ก.ย. ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องที่ระดับ 46.58 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังมีการเปิดเผยข่าวที่ว่า รัสเซียและซาอุดิอาระเบียกำลังหารือกันเกี่ยวกับการรักษาเสถียรภาพของตลาดน้ำมัน โดยนักลงทุนคาดการณ์ว่าการประชุมอย่างไม่เป็นทางการของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ในเดือนหน้านั้น ที่ประชุมอาจจะเห็นชอบให้ตรึงกำลังการผลิต คาดว่าจะส่งผลบวกต่อหุ้นกลุ่มพลังงานในระยะสั้น

กลยุทธ์การลงทุน วางกรอบดัชนีไว้ที่ 1,520-1,550 จุด แนะนำ ให้ทยอยซื้อได้บริเวณ 1,520 – 1,530 จุด เน้นหุ้น Big Cap. ที่ปรับตัวลงมา เช่น PTT CPF SCC และ KTB

 

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (17 ส.ค.) มอง SET วันนี้ผันผวนในกรอบแคบหลังหมดข่าวดีไม่ว่าจะเป็นจีดีพีไตรมาส 2 และผลประกอบการไตรมาส 2 ของบริษัทจดทะเบียนออกมาดีกว่าคาด แต่มีปัจจัยที่นักลงทุนกังวลเพิ่มขึ้นได้แก่ นักลงทุนต่างชาติกลับมาขายสุทธิเป็นวันแรกในรอบ 8 วันแต่ปริมาณเบาบางมาก ค่าเงินเยนและยู โรที่แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ และกลับมาความกังวลเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. นี้ (รอรายงานผลประชุมเฟดคืนนี้)

แต่ดัชนีชี้วัดที่บ่งชี้ว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยกลับสวนทาง อาทิ ค่าเงินดอลลาร์ที่ควรจะแข็งค่าแต่กลับอ่อนค่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปี ยังอยู่ในระดับต่ำเพียง 1.57% แม้จะปรับขึ้นมาจาก 1.55% เมื่อวันก่อนหน้า อัตราเงินเฟ้อเดือนก.ค. ที่ประกาศเมื่อคืนก็ยังอยู่ต่ำกว่าเป้าของเฟดมาก อย่างไรก็ตามวันนี้หุ้นกลุ่มพลังงานน่าจะเป็นกลุ่มพยุงตลาด โดยเชื่อว่าในช่วงระหว่างนี้ยังเป็นช่วงการปรับพอร์ตของนักลงทุนเข้าสู่หุ้นที่มีแนวโน้มผลประกอบการดีในปีหน้า ดังนั้นอาจเกิดแรงขายทำกำไรออกมาเป็นระยะๆ

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Selective BUY/ซื้อเมื่ออ่อนตัว/หาหุ้นราคาปรับลงขณะที่แนวโน้มกำไรยังดีต่อเนื่อง

หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น : CBG (ราคาหุ้นปรับลงสวนทางกับปัจจัยพื้นฐานกำลังจะดีขึ้น เป้า 85 Upside 48%)

Back to top button