กองทุนทิ้งหนักโมนิก้าและทีมงาน

*วานนี้ “โมนิก้า” มีอาการครั่นเนื้อครั่นตัวเหมือนเลือดลมกำลังจะมา จึงต้องปลีกตัวออกจากกระดานหุ้นเป็นการชั่วคราว แต่ไม่นึกไม่ฝันว่า การขยับตัวออกจากพื้นที่ดังกล่าวจะทำให้เดี๊ยนค้นพบสัจธรรมที่ว่า อะไรที่มากเกินไปก็ไม่ดีทั้งนั้น และการฝืนธรรมชาติก็ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ จึงอยากจะเตือนสติแฟนคลับ “ข่าวหุ้น” ให้รู้จักประมาณกำลังของตัวเองบ้างนะจ๊ะ


*วานนี้ “โมนิก้า” มีอาการครั่นเนื้อครั่นตัวเหมือนเลือดลมกำลังจะมา จึงต้องปลีกตัวออกจากกระดานหุ้นเป็นการชั่วคราว แต่ไม่นึกไม่ฝันว่า การขยับตัวออกจากพื้นที่ดังกล่าวจะทำให้เดี๊ยนค้นพบสัจธรรมที่ว่า อะไรที่มากเกินไปก็ไม่ดีทั้งนั้น และการฝืนธรรมชาติก็ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ จึงอยากจะเตือนสติแฟนคลับ “ข่าวหุ้น” ให้รู้จักประมาณกำลังของตัวเองบ้างนะจ๊ะ

*เนื่องจากการกวัดแกว่งไปมาของดัชนีในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา มันเหมือนเป็นสัญญาณที่บอกให้เหล่านักเล่นต้องเตรียมตัวรับแรงกระแทกที่จะมีออกมาเป็นระลอก หลังจากตลาดหุ้นซึมซับรับข่าวดีไปหมดแล้ว แถมกิมมิคที่เอามาใช้บิ้วด์อารมณ์มีแค่เรื่องฟันด์โฟลว์ ย่อมทำให้สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยผันผวนหนักขึ้น เพราะคนที่เคยขายเบาๆ วันนี้กลายเป็นคนขายหนักๆ ไปแล้วน่ะสิ

*ดังนั้นการที่ดัชนีอ่อนตัวลงมาปิดที่ 1,531.63 จุด ลบไป 5.89 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 60,261.74 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องที่ไม่น่าแปลกใจอะไรทั้งสิ้น เพราะสิ่งที่เห็น ณ เวลานี้ ไม่มีอะไรผิดแผกไปจากสูตรสำเร็จที่ร่ำเรียนกันมาเป็นเวลาหลายปี บวกกับดัชนีโค้งตัวลงจนหลุดเส้น 10 วันอยู่ที่ 1,534 จุด จึงเชื่อว่าดัชนีจะอ่อนตัวลงไปยืนที่เส้น 25 วันที่ 1,512 จุด ยกเว้นดัชนียังประคองตัวใกล้กับเส้นแนวรับแรก ก็มีลุ้นเด้งกลับขึ้นไปอีกรอบนะคะ

*เหมือนกับในรายของ CPF ทำท่าเหมือนกับหมดแรงข้าวต้ม เกิดอาการอ่อนแรงขึ้นมากะทันหัน จู่ๆ หุ้นเด้งขึ้นมาปิดที่ 32.25 บาท บวกไป 0.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.43 พันล้านบาท อาจเป็นสถานการณ์ที่แตกต่างจากคนอื่นไปเยอะก็จริง แต่อย่าลืมว่า ตัวบริษัทก็โกยกำไรได้อย่างยอดเยี่ยม วันนี้ถึงต้องดูกันต่อไปว่า ขึ้นไปทดสอบยอดเดิม พร้อมกับตั้งฐานที่บริเวณ 34 บาทได้อะป่าว..หากทำได้สำเร็จ ได้ลุ้นกันยาวๆ อีกรอบเจ้าค่ะ

*เช่นเดียวกับในรายของ SAPPE วันนี้กลับมาผงาดบนกระดาน most active ด้วยการปิดที่ระดับ 25.25 บาท บวกไป 4.45 บาท หรือขึ้นไป 21.40% ด้วยมูลการซื้อขาย 880 ล้านบาท พร้อมกับปรากฏสัญญาณแท่งเทียนยาวปรื๊ด บวกกับสัญญาณเทคนิคตัวอื่นๆ ซัพพอร์ตอย่างเต็มที่แบบนี้ “โมนิก้า” ถึงมองเป็นจังหวะของการ follow buy เพื่อทำกำไรในช่วงสั้นๆ นะจะบอกให้

*เหมือนกับในรายของ TPIPL สถานการณ์ของหุ้นอาจเรื่อยๆ เปื่อยๆ ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน จู่ๆ มีการไล่ราคากันอย่างเมามัน จนหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 2.36 บาท บวกไป 0.14 บาท หรือขึ้นไป 6.30% ด้วยมูลค่า 360 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องความชอบของคนที่รักสนุก และพร้อมจะเคาะขวาตลอดเวลา หากวันนี้หุ้นยังขยับได้อีก ก็ต้องตามไปดูในทันที ยกเว้นหุ้นย่อตัวลงมา ก็ต้องถอยฉากในทันทีเช่นกันค่ะ

*ส่วนในรายของหุ้น LOXLEY  ก็ไม่ต่างจากรายข้างต้นสักเท่าไหร่ แถมสเต็ปการเคาะขวาก็ถอดแบบกันมาเด๊ะๆ “โมนิก้า” ถึงมองจังหวะที่หุ้นทะยานขึ้นมาปิด 3.04 บาท บวกไป 0.16 บาท หรือขึ้นไป 5.60% ด้วยมูลค่า 240 ล้านบาท มันไม่มีอะไรต้องไปกลัวอีกแล้ว! เพราะของมันแบเบอร์มาตั้งแต่หัววันแล้วว่า รถเมล์ไฟฟ้าที่กำลังดันกันอย่างสุดลิ่มทิ่มประตู มันเป็นของใคร? งานนี้ให้มันรู้กันซะบ้าง ไผเป็นไผ..อิอิอิ

*ไหนๆ ก็เล่นตามกระแสเม็ดเงินที่ไหลเข้ามาในหุ้นบางตัวกันทั้งที “โมนิก้า” ขอพูดถึงหุ้น GPSC ซึ่งขยับตัวขึ้นมาปิดที่ 37 บาท บวกไป 1.50 บาท หรือขึ้นไป 4.20% ด้วยมูลค่า 187 ล้านบาท แถมเป็นการบวก 3 วันติด มันเป็นจังหวะที่น่าตามไปดูด้วยเช่นกัน เพราะสิ่งที่เห็นในเที่ยวนี้ มันเหมือนการกลับโพสิชั่นเป็นขาขึ้นอีกรอบ แต่มีข้อแม้ว่า หุ้นต้องวิ่งขึ้นไปยืนเหนือ 38 บาทให้ได้เสียก่อน ถึงจะมีโอกาสขึ้นไปทดสอบ 40 บาทอีกรอบนะคะ

*ส่วนหุ้นที่แพทเทิร์นคล้ายกันก็ดูได้จาก TTCL หลังจากไม่สามารถฝ่าแนวต้าน 24 บาทขึ้นไปได้ ก็ย่อตัวลงมาปักหลักแถว 20 บาท ต่อจากนั้นก็ไต่ขึ้นมาเรื่อยๆ จนสุดท้ายขึ้นมายืนอยู่ที่ 23.90 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 4.40% ด้วยมูลค่า 580 ล้านบาท “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับไปคิดกันเอาเองว่า จังหวะนี้ควรตามไปดู หรือ รอโอกาสเหมาะๆ..ทราบแล้วเปลี่ยน!

*สำหรับกรณีของ YUASA ถือเป็นหุ้นประเภท “ผีพุ่งใต้” ซึ่งมาแค่แวบเดียวจริงๆ ต่อจากนั้นก็หายวับไปในทันที จึงไม่ต้องตั้งคำถามการทะยานขึ้นมาปิดที่ 12.60 บาท บวกไป 2.85 บาท หรือขึ้นไป 30% ด้วยมูลค่า 200 ล้านบาท มันมาจากปัจจัยพื้นฐานหรือเปล่า? เพราะชาวหุ้นเขารู้ดีว่า หุ้นตัวนี้ไม่เคยมีเรื่องพื้นฐานเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะในหัวมีแค่ลากไปเชือดเท่านั้นเจ้าค่ะ

*ส่วนใครที่คิดว่า ตัวเองเอาตัวรอดได้ทุกสถานการณ์ น่าจะชำเลืองตาดูเสือซุ่มอย่างหุ้น HTECH หลังทะยานขึ้นมาปิดที่ 3.84 บาท บวกไป 0.32 บาท หรือขึ้นไป 9% ด้วยมูลค่า 186 ล้านบาท จนชาวบ้านชาวเมืองตกตะลึงกับความพริ้งเพรา แถมในช่วงต้นเดือนยังแสดงอาการกระเสาะกระแสะอยู่แถว 2.90 บาท “โมนิก้า” ถึงอยากให้พวกขาลุยดูกันเอาเองว่า จะฝ่าขึ้นไปหายอดเดิม 4.20 บาทได้ไหม? ขึ้นถึงแล้วจบเกมหรือเปล่า? หากไปต่อจะขึ้นไปถึงไหน?

*ป.ล.ขอทิ้งทวนกันที่กองทุนตัวแสบ ซึ่งสาดหุ้นออกมา 4.50 พันล้านบาท มันเป็นการย้ำหัวหมุดตัวเดิมว่า พอถึงบทที่ขายทำกำไร กองทุนตัวแสบก็ทิ้งไม่เลี้ยงเหมือนกัน..แต่อย่าลืมว่า วันนี้ซื้อหุ้น…ไม่ได้ซื้อดัชนี จึงอย่าไปสนใจประเด็นดังกล่าวมากนัก เพราะยังมีหุ้นอีกหลายตัวที่ขึ้นสวนกระแสแบบเงียบๆ นะคะ

Back to top button