BEM:โอกาสได้รับงานในอนาคตอีกมากแนะนำ”ถือ” ราคาเป้าหมาย 8.60 บาท
BEM แนะนำ"ถือ" โดย upside ต่อประมาณการผลประกอบการและราคาเป้าหมายจากปริมาณผู้โดยสารที่สูงกว่าคาด และพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปส่งผลให้จำนวนสถานีและราคาค่าโดยสารเฉลี่ยสูงกว่าที่คาดไว้ ซึ่งปัจจัยเสี่ยงมาจาก 1) จำนวนผู้โดยสาร/รถใช้ทางด่วนที่มาก/น้อยกว่าคาด 2) การลงทุนเส้นทางใหม่ของรัฐบาลที่เร็ว/ช้ากว่าคาด 3) ภาระดอกเบี้ยสูง/ต่ำกว่าคาด
บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(18 ส.ค.59) ว่า บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ปัจจุบัน มีสัญญา 7 สัญญาในมือ ได้แก่ 5 สัญญาสำหรับธุรกิจทางด่วน และ 2 สัญญาสำหรับรถไฟฟ้า
โดยในประมาณการผลประกอบการ ได้รวมโอกาสการได้รับโครงการในอนาคตของภาครัฐซึ่งอยู่ระหว่างการประมูลและก่อสร้างแล้วทั้ง รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย สายสีชมพู/เหลือง สายสีม่วงใต้ สายสีส้ม คาดกำไรสุทธิของ BEM จะเติบโตเฉลี่ย 16% ต่อปี (CAGR ปี 60-62) ซึ่งส่วนผลักดันการเติบโตในแต่ละปีมาจาก
ปี 59 : รายได้ทางด่วนที่เพิ่มขึ้นตามการเปิดทางด่วนศรีรัช , จำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นตามการเปิดสายสีม่วงและรายได้จากการรับจ้างเดินรถที่ได้ปีละประมาณ 2 พันล้านบาท
ปี 60 : รับรู้รายได้และจำนวนผู้โดยสารเต็มปีจากทั้งสองโครงการ
ปี 61 : คาดจำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าคาดเติบโตเฉลี่ย 5% ต่อปี และจำนวนรถใช้ทางด่วนเติบโต 2% ต่อปี และปี 63 : จำนวนผู้โดยสารเติบโตสูงถึง 22% จากคาดเปิดรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินต่อขยายในปลายปี รวมทั้ง BEM ยังมีโอกาสได้รับงานเพิ่มเติมจากทางภาครัฐเช่นโครงการบริหารสื่อรถไฟฟ้าสายสีม่วง ซึ่งคาดว่าจะเริ่มได้ในปี 60
แม้จะประเมินมูลค่าหุ้น BEM โดยการรวมโครงการในอนาคตที่บริษัทมีโอกาสได้ไปแล้วนั้น ราคาเป้าหมายของเราอยู่ที่ 8.60 บาท แบ่งเป็นมูลค่าสำหรับธุรกิจหลัก (ทางด่วน+รถไฟฟ้า) 3.45 บาท มูลค่าการลงทุนใน (TTW CKP XPC) 0.77 บาท และโอกาสในงานอนาคต มูลค่า 4.41 ซึ่งราคาหุ้น BEM ที่ปรับตัวขึ้นมา YTD นั้นมองว่าสะท้อนแนวโน้มในอนาคตไปแล้ว
ดังนั้นยังคงแนะนำ “ถือ” สำหรับ BEM โดย upside ต่อประมาณการผลประกอบการและราคาเป้าหมายจากปริมาณผู้โดยสารที่สูงกว่าคาด และพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปส่งผลให้จำนวนสถานีและราคาค่าโดยสารเฉลี่ยสูงกว่าที่คาดไว้ ซึ่งปัจจัยเสี่ยงมาจาก 1) จำนวนผู้โดยสาร/รถใช้ทางด่วนที่มาก/น้อยกว่าคาด 2) การลงทุนเส้นทางใหม่ของรัฐบาลที่เร็ว/ช้ากว่าคาด 3) ภาระดอกเบี้ยสูง/ต่ำกว่าคาด