PS คาดรายได้ปี 59 อยู่ที่ 5.3 หมื่นลบ. – เตรียมส่ง “พฤกษา โฮลดิ้ง” เทรดพ.ย.ตามเป้า

PS คาดรายได้ปี 59 อยู่ที่ 5.3 หมื่นลบ. หลังตุน Backlog 2.37 หมื่นลบ. - เตรียมส่ง “พฤกษา โฮลดิ้ง” เข้าเทรดเดือน พ.ย.นี้ ตามเป้า


นายพรชลิต พลอยกระจ่าง ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัทพฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PS เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่ารายได้ปีนี้จะอยู่ที่ 5.3 หมื่นล้านบาท โดยปัจจุบันมียอดขายรอโอน (Backlog) อยู่ที่ 2.37 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้เป็นรายได้ในช่วงที่เหลือของปีนี้ 1.12 หมื่นล้านบาท ขณะเดียวกันยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างการขายอีก 168 โครงการ แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 139 โครงการ และโครงการแนวสูง 29

หลังจากในช่วงที่ผ่านมามีมาตรการจากภาครัฐออกมาช่วยทำให้มีคนเข้ามาเร่งโอนโครงการมากขึ้น และหลังจากที่มาตรการต่างๆ หมดยอดขายก็ยังมีการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ประกอบกับเรามีการเปิดโครงการใหม่ค่อนข้างมาก และโดยปกติแล้วในช่วงไตรมาส 4 จะเป็นช่วงที่มีกำลังซื้อ และคนตัดสินใจซื้อได้ค่อนข้างดี ทำให้เราเชื่อว่าเราจะทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้”นายพรชลิต กล่าว

นอกจากนี้ยังโครงการแผนการปรับโครงสร้างของบริษัทขณะนี้ได้ดำเนินการร่วมกับที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์และการปรับฐานโครงสร้างธุรกิจ ตามมติคณะกรรมการบริษัทที่ให้ขอถอนหุ้นของบริษัทออกจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และให้มีการจัดตั้งบริษัทโฮลดิ้งภายใต้ชื่อ บริษัทพฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เพื่อเข้ามาทำคำเสนอซื้อหุ้นทั้งหมดของ PS โดยแลกเปลี่ยนกับหุ้นประเภทเดียวกันของบริษัทโฮลดิ้ง ในอัตราการแลกหุ้นเท่ากับ 1:1 ซึ่งภายหลังการทำคำเสนอซื้อหุ้นเสร็จสิ้นหุ้นสามัญขอบริษัทพฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) จะเข้าเป็นหุ้นจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย แทนหุ้นสามัญของ PS ซึ่งตามเป้าหมายจะเป็นในเดือนพ.ย.นี้

ทั้งนี้ วัตถุประสงค์การจัดตั้งบริษัทโฮลดิ้ง เนื่องจากต้องการหารายได้ที่สม่ำเสมอ (Recurring Income) ซึ่งจะเน้นในธุรกิจบริการ เช่น โรงแรม โรงพยาบาล หรือพัฒนาพื้นที่ให้เช่า เป็นต้น

สำหรับแผนการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังนั้น บริษัทเตรียมเปิดอีก 38 โครงการใหม่ มูลค่ากว่า 3 หมื่นล้านบาท จากช่วงครึ่งปีแรกเปิดโครงการใหม่แล้ว 27 โครงการ มูลค่า 1.96 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะส่งผลให้ยอดขายปีนี้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ 5.1 หมื่นล้านบาท จากในช่วงครึ่งปีแรกมียอดขายแล้ว  2.16 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็น 42% ของเป้าหมาย

โดยภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ปีนี้คาดว่าจะเติบโต 8% หรือมีมูลค่า 3.8 แสนล้านบาท จากภาวะเศรษฐกิจไทยที่มีโอกาสเติบโตได้มากกว่า 3% หลังมีภาพเศรษฐกิจมีแนวโน้มดีขึ้น อย่างไรก็ตามแม้ยอดปฏิเสธสินเชื่อของบริษัทขณะนี้จะเพิ่มขึ้นจาก 5% เป็น 7% แต่ปัญหาหนี้ครัวเรือนก็เริ่มลดลงแล้ว และปีนี้โครงการรถยนต์คันแรกก็จะครบเวลา 5 ปีทำให้เชื่อว่าจะเริ่มเห็นภาระหนี้ของประชาชนลดลงมากขึ้นอย่างชัดเจน

Back to top button