เกมหุ้นโมนิก้าและทีมงาน

*วันก่อน “โมนิก้า” เพิ่งย้ำเรื่องการ ซื้อหุ้น..ไม่ได้ซื้อดัชนี ไม่ทันไร ดัชนีก็แสดงกำลังภายในด้วยการเด้งขึ้นมาปิดที่ 1,547.01 จุด บวกไป 15.38 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.59 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นว่า การแกว่งตัวที่เกิดขึ้นในเที่ยวนี้เป็นผลมาจากนักลงทุนสถาบันมีแนวคิดไปในทางเดียวกัน ดัชนีถึงวิ่งระเบิดระเบ้ออย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดี แต่ก็ควรระวังไว้บ้างนะจ๊ะ


*วันก่อน “โมนิก้า” เพิ่งย้ำเรื่องการ ซื้อหุ้น..ไม่ได้ซื้อดัชนี ไม่ทันไร ดัชนีก็แสดงกำลังภายในด้วยการเด้งขึ้นมาปิดที่ 1,547.01 จุด บวกไป 15.38 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.59 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นว่า การแกว่งตัวที่เกิดขึ้นในเที่ยวนี้เป็นผลมาจากนักลงทุนสถาบันมีแนวคิดไปในทางเดียวกัน ดัชนีถึงวิ่งระเบิดระเบ้ออย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดี แต่ก็ควรระวังไว้บ้างนะจ๊ะ

*เนื่องจากการกลับมาซื้อของกองทุนตัวแสบเป็นจำนวน 1.80 พันล้านบาท โดยที่ฝรั่งตาน้ำข้าวเก็บหุ้นเข้าพอร์ตไปแค่ 400 ล้านบาท มันทำให้ดัชนีวิ่งหูดับตับไหม้ขนาดนี้เลยเหรอ? และเมื่อย้อนดูพฤติกรรมเก่าๆ ของเจ้าตัวแสบที่ว่านั้น “โมนิก้า” ถึงกับอ่อนเปลี้ยเพลียแรงขึ้นมาในทันที เพราะพ่อทูนหัวรายนี้เทขายหุ้นแบบสะบั้นหั่นแหลก จึงอย่าเผลอหันหลังให้เป็นอันขาดนะคะ

*วันนี้ถึงต้องอ่านเกมหุ้นไปทีละช็อต และอย่าผลีผลามกระโจนใส่แบบสุดตัว เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเที่ยวนี้ทำให้รู้ว่า “ยิ่งสูง ยิ่งหนาว” บวกกับวงรอบของหุ้นหลายตัวขึ้นมาถึงยอดเก่าแบบพอเหมาะพอเจาะ “โมนิก้า” ถึงเชื่อว่า เกมหุ้นเที่ยวนี้จะเข้มข้นขึ้นกว่าเดิมอย่างแน่นอน และตัวที่จะใช้ตัดสินในวันนี้คงเป็นความไวของแต่ละคน จึงต้องโฟกัสหุ้นเป็นรายตัวเพื่อความมันในชีวิตนะตัวเอง

*เม้าท์ถึงเรื่องมันๆ ขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ขอดูข่าวสารของเพื่อนฝูงในวงการสื่อสิ่งพิมพ์ดีกว่า เพราะเริ่มล้มหายตายจากไปทีละรายสองราย ล่าสุดเป็นคิวของหนังสือพิมพ์ “ฐานเศรษฐกิจ”  หลังยอมเปิดทางให้ NEWS เช่าหัวหนังสือพิมพ์เป็นระยะเวลา 30 ปี โดยต้องจ่ายค่าเช่าปีละ 4 ล้านบาท รวมเบ็ดเสร็จเป็นเงินจ่ายไปทั้งสิ้น 120 ล้านบาท พร้อมกับก้าวขึ้นเป็นสื่อครบวงจรอย่างแท้จริงเจ้าค่ะ

*โจทย์ใหม่ที่ต้องคิดกันต่อมาก็คือ ในเมื่อเจ้าพ่อรายนี้มีครบทุกอย่าง แต่ก็ยังมีคนแซวว่า ยังขาดอยู่อย่างหนึ่ง? “โมนิก้า” ก็เลยงงอยู่พักหนึ่ง จนมีคนออกมาเฉลยว่า “กำไร” ซึ่งทำให้ตัวอิฉันมีอาการสตั้นไปประมาณ 10 วินาที ก่อนจะเม้าท์ถึงคนที่จะได้ประโยชน์จากเรื่องนี้ น่าจะเป็นหุ้น EPCO ซึ่งมีโรงพิมพ์พร้อมให้บริการตลอด 24 ชม. ส่วนเรื่องนี้จะเป็นจริงตามที่มีเม้าท์กันขนาดไหน?..ต้องดูต่อไปนะคะ

*เหมือนกับเหตุการณ์สาดโคลนกันไปมาของกลุ่มผู้ถือหุ้นMAX มันเป็นเรื่องที่ทำให้ “โมนิก้า” เอือมระอาแบบสุดๆ แถมโปรเจ็กต์โรงไฟฟ้าก่อนหน้านี้ก็สวยหรูเสียเหลือเกิน จนผู้คนในตลาดหุ้นเริ่มสนใจหุ้นตัวนี้มากขึ้นเรื่อยๆ พอทำไปทำมากลับมีเรื่องสาดหุ้นใส่ลงมาในกระดาน เดี๊ยนถึงมีอาการควันออกหูในทันที พร้อมกับตั้งข้อสังเกตกับสิ่งที่เกิดขึ้นว่ามันผิดธรรมชาติเกินไปมากๆ นะจะบอกให้

*โดยเฉพาะ ขจรศิษฐ์ ทำไมเป็นคนที่แส่ไปทุกเรื่อง ตั้งแต่สมัยที่เข้ามาเป็นเจ้าของในยุคแรกๆ ก็ได้หุ้นมาในต้นทุนต่ำ พร้อมกับวาดฝันจะเอาโครงการอสังหาฯ และโครงการโรงไฟฟ้า เข้ามาสวม สุดท้ายก็ทำไม่สำเร็จตามแผน แถมมีมือมืดสาดหุ้นออกมาไม่เลี้ยง จนหุ้นรูดลงจาก 1 บาทยืนอยู่แถว 0.30 บาท..ล่าสุดดันมีข่าวฉาวออกมาว่า อีตาขจรเอาหุ้นไปจำนำกับกองทุนที่จัดตั้งขึ้นในบาฮามาส จู่ๆ กองทุนดังกล่าวก็ขายหุ้นออกมา 2 พันล้านบาท ทุกคนเลยเกิดอาการมึนตึ้บ..แทนที่เรื่องจะจบลงแต่ตรงนั้น แต่กลับมีเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้นอีกจนได้ เมื่อคนที่ถูกพาดพิงอย่าง อีตาขจร บอกไม่รู้เรื่องดังกล่าว…อ้าว..แล้วแมวตัวไหนให้ข่าวล่ะเนี่ย!..งานนี้บอกได้แค่ว่า หนังเรื่องยาวนะคะ

*เช่นเดียวกับเรื่องที่เกิดกับ LDC ของพี่ “หมอหนึ่ง” วันนี้กลายเป็นแหล่งชุมนุมหมอระดับพระกาฬทั่วประเทศ แถมแต่ละคนก็มีดีกรีไม่ธรรมดาด้วยกันทั้งนั้น “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับไปเปิดดูรายชื่อเหล่านั้นด้วยตนเอง เพราะพื้นที่ข่าวแค่นี้ คงไม่สามารถเล่าประสบการณ์อันโชกโชนของหมอแต่ละท่านได้ จึงขอตั้งข้อสังเกตว่า การขึ้นของหุ้นเที่ยวนี้ ต้องเกี่ยวกับพวกหมอแน่ๆ..“อิอิอิ”

*ที่น่าสนใจคงเป็นรายชื่อของพ่อหนุ่มรายหนึ่งที่ปรากฏให้เห็น ดันมีนามสกุลเหมือนกับเจ้าของโรงพยาบาล EKH จึงสงสัยว่า กำลังจะทำอะไรกันเหรอ? งานนี้ไม่ขอลงลึกถึงรายละเอียดที่เกิดขึ้นมากนัก เพราะในไม่ช้าเหล่านักเล่นจะเห็นเองว่า “เกมธุรกิจ” หรือ “เกมหุ้น” แถมเมื่อเหลือบดูราคาหุ้นในกระดานที่พุ่งขึ้นมาปิดที่ 1.76 บาท บวกไป 0.07 บาท หรือขึ้นไป 4% ก็รู้ได้ทันทีว่า หุ้นตัวนี้ไม่ได้มากับพระ แต่มากับ หอ..มอ..ออ อ่านว่า หมอ!

*ประเด็นดังกล่าวคล้ายคลึงกับการกระทำของ บ.แอสเพน โฮลดิ้งส์ ขายหุ้นของ INTUCH ให้กับ Singtel โดยในฝั่งของผู้ซื้อ กับผู้ขาย ล้วนเป็นบริษัทลูกของ เทมาเ็ก ด้วยกันทั้งคู่! “โมนิก้า” ถึงมองดีลดังกล่าวเป็นเพียงการโยกเงินธรรมดาๆซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อทำบัญชีให้บริษัทแม่ดูดีขึ้น จึงไม่ใช่เรื่องที่น่าตื่นเต้นสำหรับคนที่คุ้นเคยกับยุทธวิธีดังกล่าว จึงขอแจ้งให้ทราบกันอย่างทั่วถึง..โปรดฟังอีกครั้ง!

*ตบท้ายกันที่หุ้น IPO น้องใหม่ที่กำลังเดินสายให้ข้อมูลทั่วประเทศกันสักหน่อย หลังได้ข่าวจากพรายกระซิบว่า  “ณัฐนัย อนันตรัมพร” ผู้กุมบังเหียน ITEL ผนึกกำลังกับ “สมภพ กีระสุนทรพงษ์” เอฟเอมือทองแห่ง บล.ฟินันเซียฯ เตรียมโรดโชว์ที่กรุงเทพฯ ในวันจันทร์ที่ 22 สิงหาคม2559 เวลา 09.30–11.30 น. ณ ห้องประชุม 704 ชั้น 7 ตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยหนึ่งในหัวข้อที่น่าสนใจสุดๆ คงเป็นยุทธวิธีที่จะทำให้ผลงานโตแบบก้าวกระโดด…ใครอยากรู้รายละเอียดต้องมาฟังด้วยตนเอง!

Back to top button