AAV มาเหนือเมฆ
ดาวเด่นสุดของกลุ่มธุรกิจการบิน ต้องยกให้ AAV เนื่องจากโชว์ผลการดำเนินในไตรมาส 2 ได้อย่างแข็งแกร่ง สวนกระแสโลว์ซีซั่นธุรกิจการบินไปอย่างปลิดทิ้ง แต่ต่างจากหุ้น THAI, NOK และ BA ขาดทุนอ่วมถ้วนหน้า...
–คุณค่าบริษัท–
ดาวเด่นสุดของกลุ่มธุรกิจการบิน ต้องยกให้ บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV เนื่องจากโชว์ผลการดำเนินในไตรมาส 2 ได้อย่างแข็งแกร่ง สวนกระแสโลว์ซีซั่นธุรกิจการบินไปอย่างปลิดทิ้ง แต่ต่างจากหุ้น THAI, NOK และ BA ขาดทุนอ่วมถ้วนหน้า…
สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 2 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2559 บริษัทมีรายได้จากการขายและการให้บริการขยับขึ้นมาอยู่ที่ 7,755.85 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 6,884.95 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 422.50 ล้านบาท หรือ 0.0871 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 205.93 ล้านบาท หรือ 0.0425 บาทต่อหุ้น
ทั้งนี้ บริษัทมีปริมาณผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 18% อยู่ที่ 4.2 ล้านคน และมีอัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสารที่ 83% เพิ่มขึ้น 3 จุด เพราะจากสถิติพบว่านักท่องเที่ยวต่างชาติในช่วงเดือนเมษายน-มิถุนายน 2559 มีจำนวน 7.6 ล้านคน เติบโต 8% ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคเอเชียตะวันออก โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนที่เติบโต 14% และนักท่องเที่ยวในกลุ่มอาเซียนที่เติบโต 6% จึงส่งผลให้ปริมาณผู้โดยสารของบริษัทเพิ่มขึ้นด้วย และได้ผลบวกจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง
ขณะที่ผลการดำเนินงานงวดหกเดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2559 บริษัทมีรายได้จากการขายและการให้บริการขยับขึ้นมาอยู่ที่ 16,708.35 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 14,619.13 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 1,431.58 ล้านบาท หรือ 0.2952 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 712.34 ล้านบาท หรือ 0.1469 บาทต่อหุ้น เพิ่มความมั่นใจว่าบริษัทมีความแข็งแกร่งอย่างแน่นอนในปีนี้
ที่สำคัญ มีข้อมูลจากนักวิเคราะห์ บล. เคทีบี มองว่ากำไรสุทธิงวดไตรมาส 3/59 และไตรมาส 4/59 จะดีขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนได้อย่างต่อเนื่อง จากภาพรวมการท่องเที่ยวที่คาดว่ายังคงขยายตัวได้ดี โดยจำนวนผู้โดยสารของ TAA ในงวดครึ่งแรกของปี 59 อยู่ที่ 8.53 ล้านคน เพิ่มขึ้นถึง 18% จากงวดเดียวกันของปีก่อน
นอกจากนี้ คาดแนวโน้มจำนวนผู้โดยสารในงวดครึ่งหลังของปี 59 ยังคงมีโอกาสเติบโตในระดับใกล้เคียงกันได้ โดยในงวดครึ่งหลังของปี 59 TAA ยังมีแผนรับเครื่องบินใหม่ Airbus A320neo เพิ่มอีก 2 ลำ ซึ่งจะทำให้ ณ สิ้นปี 2559 TAA จะมีจำนวนเครื่องบินรวม 51 ลำ นอกจากนั้น AAV มีแผนจะเปิดเส้นทางบินใหม่ในประเทศจีน อินเดีย และกลุ่มประเทศ CLMV ได้แก่ กรุงเทพ – เวียงจันทน์ และเพิ่มความถี่เที่ยวบินในเส้นทางที่ได้รับความนิยม เช่น กรุงเทพ – อุดรธานี
ประกอบกับคาดว่าจะยังคงได้รับผลบวกจากราคาน้ำมันเครื่องบินที่คาดว่ายังมีโอกาสอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าปีก่อนอย่างต่อเนื่อง โดย TAA ได้มีการทำ Hedging ราคาน้ำมันล่วงหน้าจนถึงสิ้นปีแล้วในสัดส่วนมากกว่า 70% ณ ราคาน้ำมันเครื่องบินเฉลี่ยราว 55 ดอลลาร์/บาร์เรล ทั้งนี้ เรายังคงคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2559 ใกล้เคียงเดิมที่ 1,894 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 76% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ขณะที่เราคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2560 เติบโตต่อเนื่องเป็น 2,253 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% จากงวดเดียวกันของปีก่อน
ดังนั้นได้ปรับราคาเป้าหมายเป็นปี 2560 ที่ 8.30 บาท จากปี 2559 ที่ 7 บาท โดยยังคงประเมินมูลค่าด้วย PER 18 เท่า ราคาหุ้นเริ่มมี Upside จำกัด ปรับคำแนะนำเป็น “ซื้อเก็งกำไร”
…
ผู้ถือหุ้นรายใหญ่
1.น.ส.ภัทรี แบเลเว็ลด์ 921,500,000 หุ้น 19.00%
2.นายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ 630,564,208 หุ้น 13.00%
3.นางศิริธร แบเลเว็ลด์ 582,024,078 หุ้น 12.00%
4.บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 498,184,048 หุ้น 10.27%
5.กองทุนเปิด บัวหลวงหุ้นระยะยาว 234,682,000 หุ้น 4.84%
รายชื่อกรรมการ
1.นาย อารักษ์ ชลธาร์นนท์ ประธานกรรมการ
2.นาย อารักษ์ ชลธาร์นนท์ กรรมการอิสระ
3.นาย อารักษ์ ชลธาร์นนท์ ประธานกรรมการตรวจสอบ
4.นาย ธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
5.นาย ธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ กรรมการ