BTS ปรับโครงสร้างในเครือโยกธุรกิจ “แรบบิทเพย์” ให้ VGI บริหารเต็มสูบ
BTS ปรับโครงสร้างในเครือโยกธุรกิจ "แรบบิทเพย์" ให้ VGI บริหารเต็มสูบ
บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือBTS เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทอนุมัติการปรับโครงสร้างบริษัทด้วยการขายหุ้นสามัญที่บริษัทฯ ถือในบริษัท บีเอสเอส โฮลดิ้งส์ จำกัด (BSSH) ในสัดส่วน 90.00% และการขายหุ้นสามัญที่ บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ (BTSC) ถือใน บริษัท บางกอก สมาร์ทการ์ด ซิสเทม จำกัด (BSS) ในสัดส่วน 90.00% ให้แก่ บริษัท วี จี ไอ โกลบอล มีเดีย จำกัด (หมาชน) หรือVGI ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ
สำหรับการการขายหุ้น BSSH จำนวน 10,800,000 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 90% มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาทให้แก่ VGI ในราคาหุ้นละ 119.69 บาท คิดเป็นจำนวนเงินรวมทั้งสิ้น 1,292,652,000 บาท และบริษัทฯ จะขายหุ้นสามัญส่วนที่เหลือที่บริษัทฯ ถือใน BSSH อีก 10.00% ให้แก่ ธนาคารกรุงเทพ (BBL) ในฐานะ Strategic Investor ที่จะช่วยเสริมสร้างธุรกิจของกลุ่มบริษัท BSSH ให้มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น โดยกำหนดราคาซื้อขายหุ้นละ 119.69 บาท คิดเป็นจำนวนเงินรวมทั้งสิ้น 143,628,000 บาท
ทั้งนี้ BSSH ประกอบธุรกิจลงทุนในหลักทรัพย์ของบริษัทอื่น (Holding Company) ซึ่งการขายหุ้นสามัญที่บริษัทฯ ถือใน BSSH ดังกล่าวจะเป็นผลให้ VGI เข้าเป็นผู้ถือหุ้นทางอ้อมในบริษัทอื่นจำนวน 6 บริษัทได้แก่ บริษัท แรบบิทเพย์ ซิสเทม (RPS) ประกอบธุรกิจให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ การชำระเงิน, บริษัท แรบบิท-ไลน์ เพย์ จำกัด (RLP) ประกอบธุรกิจให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ การชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ การชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ผ่านอุปกรณ์หรือผ่านเครือข่ายและการรับชำระเงินแทน ภายใต้ชื่อ”แรบบิท ไลน์เพย์ (Rabbit LINE Pay)”
บริษัท เอทีเอส แรบบิท นิติบุคคลเฉพาะกิจ จำกัด (ATS) ประกอบธุรกิจเป็นนิติบุคคลเฉพาะกิจเพื่อรับโอนสิทธิเรียกร้องในสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคที่เกิดจากการเบิกใช้สินเชื่อผ่านบัตรสมาชิกอิออนแรบบิท( AEON Rabbit Member Card) ซึ่งเป็นนวัตกรรมทางการเงินใหม่ที่เกิดจากความร่วมมือระหว่าง BSS กับ บมจ.อิออนธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) (AEONTS) ซึ่งได้นำเอาฟังก์ชั่นการใช้งานและสิทธิประโยชน์หลากหลายของ BSSและอิออนมารวมไว้ในบัตรเดียว
บริษัท แรบบิท อินเตอร์เน็ต จำกัด (RI) ประกอบธุรกิจ Web Portal ภายใต้ชื่อ “แรบบิทเดลี่ (Rabbit Daily)” ซึ่งรวบรวมเว็บไซต์และบทความต่าง ๆ และประกอบกิจการให้เช่าพื้นที่บนหน้าเว็บไซต์ (Web-based Application) ผ่านทางอินเทอร์เน็ต ให้บริการด้านการออกแบบและจัดกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับ E-Commerce รวมถึงบริการทางการตลาดออนไลน์
รวมทั้ง บริษัท เอเอสเค โบรคเกอร์ แอสโซซิเอชั่น จำกัด ประกอบธุรกิจให้บริการเปรียบเทียบราคาประกันออนไลน์ ภายใต้ชื่อ “แรบบิท ไฟแนนซ์ (Rabbit Finance)” และ บริษัท เอเอสเค ไดเร็ค กรุ๊ป จำกัด ประกอบธุรกิจให้บริการขายสินค้าผ่านโทรศัพท์ (Tele-sale)
นอกจากนี้ ปัจจุบัน BSSH ยังเป็นผู้ถือหุ้นในสัดส่วน 60.00% ในบริษัท บางกอก เพย์เมนต์ โซลูชันส์ จำกัด (BPS) ซึ่งประกอบธุรกิจพัฒนาซอฟต์แวร์และให้บริการทางเทคโนโลยีต่าง ๆ รวมถึงเทคโนโลยีอันเกี่ยวข้องกับระบบขนส่งมวลชนและระบบชำระเงินภายในประเทศ อย่างไรก็ดี BPS จะไม่รวมอยู่ในธุรกรรมการขายหุ้น BSSH ในครั้งนี้ โดยบริษัทฯ มีหน้าที่ต้องดำเนินการให้ BSSH ขายหุ้นสามัญทั้งหมดที่ถือใน BPS ให้แก่บริษัทฯ หรือบริษัทย่อยก่อน
ขณะที่ BTSC จะขายหุ้นสามัญทั้งหมดที่ถือใน BSS จำนวน 3,600,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท คิดเป็นสัดส่วน 90.00% ของหุ้นที่จำหน่ายแล้วทั้งหมดของ BSS ให้แก่ VGI ในราคาหุ้นละ 184.39 บาท คิด เป็นจำนวนเงินรวมทั้งสิ้น 663,804,000 บาท โดย BSS ประกอบ ธุรกิจเป็นผู้ให้บริการการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (E-payment) ในระดับย่อยผ่านบัตรแรบบิท (Rabbit Card) สำหรับระบบขนส่งมวลชน ร้านค้าปลีก ตลอดจนธุรกิจบริการและการท่องเที่ยว
สำหรับธุรกรรมการขายหุ้น BSSH และ BSS เป็นไปเพื่อการปรับโครงสร้างภายในกลุ่มบริษัท โดยปัจจุบัน การดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ แบ่งออกเป็น 4 ประเภทธุรกิจ ดังนี้ (1) ธุรกิจระบบขนส่งมวลชน (2) ธุรกิจสื่อโฆษณา (3) ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และ (4) ธุรกิจบริการ อย่างไรก็ดี บริษัทฯ เล็งเห็นว่าจากสภาวการณ์ในปัจจุบัน ธุรกิจบริการบางประเภทของกลุ่มบริษัท โดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (E-payment) ซึ่งใช้ชำระค่าสินค้าและบริการทั้งร้านค้าในระบบออนไลน์และร้านค้าทั่วไป (ร้านค้าออฟไลน์) การให้บริการ Web Portal ที่ได้มีการรวบรวมบทความ ลิงค์ และเว็บไซต์ในด้านต่างๆ เข้าไว้ด้วยกัน
การให้บริการทางการตลาดออนไลน์ และการให้บริการเปรียบเทียบผลิตภัณฑ์ทางการเงินหลายรูปแบบ ซึ่งดำเนินการภายใต้การบริหารจัดการของ BSSH และ BSS จะช่วยส่งเสริมศักยภาพของธุรกิจสื่อโฆษณาของกลุ่มบริษัท ที่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการของ VGI ให้มีความครบวงจรโดยจะเป็นการพัฒนาจากการประกอบธุรกิจสื่อโฆษณาภายนอกที่อยู่อาศัย (Out-of-home Media) แบบดั้งเดิมสู่การประกอบธุรกิจสื่อโฆษณาในรูปแบบใหม่ที่อาศัยฐานข้อมูลพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคของ BSSH และ BSS มาวางแผนสื่อโฆษณาเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มผู้ชมเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ และยังสามารถมีอิทธิพลต่อกระบวนการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าของกลุ่มผู้ชมเป้าหมายผ่านช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ (Data-Centric Media Hypermarket)
อีกทั้งการให้บริการการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (E-payment) ผ่านระบบแรบบิท ไลน์เพย์ (Rabbit LINE Pay) ยังจะช่วยให้กลุ่มผู้ชมเป้าหมายสามารถตัดสินใจซื้อสินค้าได้ทันที ซึ่งจะช่วยให้การโฆษณาสินค้าผ่านสื่อโฆษณาของ VGI มีประสิทธิผลดียิ่งขึ้น ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวจะเป็นการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่หันไปใช้เวลากับสื่อออนไลน์ทางสมาร์ทโฟน และ/หรือ แท็บเล็ต มากขึ้นได้อย่างทันกาล พร้อมทั้งตอบสนองกับการตลาดออนไลน์ (OnlineMarketing) ที่กำลังมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy) ซึ่งกำลังพัฒนาในประเทศไทยอย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ BTS จะให้กู้ยืมเงินในวงเงินไม่เกิน 2,000 ล้านบาทแก่ VGI เพื่อเป็นแหล่งเงินทุนทางเลือกเพิ่มเติมในการเข้าซื้อหุ้นสามัญใน BSSH และ BSS โดยมีรายละเอียด ระยะเวลาชำระคืนเงินกู้ไม่เกิน 5 ปี ผ่อนชำระเป็นรายปีในอัตรา 10.00% ของเงินต้นต่อปี และชำระส่วนที่เหลือในปีสุดท้าย ระยะเวลาชำระดอกเบี้ยทุก 3 เดือน