SET รีบาวด์ เช็ค 15 หุ้นเทคนิคเด่น-กำไรโต
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยมีโอกาสรีบาวด์ตามตลาดต่างประเทศ แนะนำลงทุนในหุ้นที่แนวโน้มผลประกอบการครึ่งปีหลังและปีหน้าดี รวมถึงเก็งกำไรในหุ้นที่มีสัญญาณบวกทางเทคนิค
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.27 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 34.56 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการทะยานขึ้นของตลาดหุ้นนิวยอร์ก หลังมีรายงานว่าการใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน ส่วนตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลงเพราะได้รับแรงกดดันจากเงินเยนที่แข็งค่า
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้มีโอกาสรีบาวด์ตามตลาดต่างประเทศ ขณะที่แนะนำลงทุนในหุ้นที่แนวโน้มผลประกอบการครึ่งปีหลังและปีหน้าดี รวมถึงเก็งกำไรในหุ้นที่มีสัญญาณบวกทางเทคนิค หุ้นเด่นเลือก CPF-KCE-EPG-AAV-BA-BR-IRPC-THAI-PACE-ASEFA-WHA-HPT-SYMC-TVD และ BEM
บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (30 ส.ค.) การฟื้นตัวของตลาดหุ้น Dow Jones เพิ่มขึ้น 0.58% เมื่อคืนนี้นำโดยหุ้นกลุ่มสถาบันการเงินที่ได้รับผลดีจากแนวโน้มการปรับสูงขึ้นของดอกเบี้ย จะเป็นปัจจัยหนุนการ Rebound ของ SET วันนี้ อย่างไรก็ตาม ด้วย 1) โอกาสที่ Bond Yield จะปรับสูงขึ้นในช่วงไตรมาส 4/59 ที่เพิ่มขึ้น กดดัน Earnings Yield Gap ลดลง 2) ค่าเงินดอลลาร์ฯ แข็งค่าขึ้นกดดันราคาสินค้าโภคภัณฑ์ โดยเฉพาะราคาน้ำมัน และ 3) SET ปรับสูงขึ้นเร็วเกินไป หรือเกือบ 10% ในช่วง 2 เดือน เมื่อเทียบกับการปรับประมาณการกำไรของนักวิเคราะห์ ทำให้ยังมองความเสี่ยงจากการ “พักฐาน” ระยะสั้นต่อไป
พอร์ตหลักแนะนำ “จำกัด” เงินลงทุนต่อเนื่องขณะที่แนะนำ “ซื้อ” กลุ่มหุ้นที่คาดว่าจะได้รับผลดีจากเงินดอลลาร์ฯ แข็งค่าขึ้น, เงินบาทอ่อนค่า, ราคาน้ำมันอ่อนตัว และนักวิเคราะห์มีการปรับประมาณการกำไรขึ้น อย่าง CPF KCE EPG (Trade Code มองแนวต้าน 14.4/14.9) AAV BA (รายงาน The Revision แนะนำ “ซื้อ” วันนี้) BR (Initiate เป็น Turnaround Plays กำไรโตสูง 61% ปีหน้า) และ IRPC (ค่าสุด GRM ฟื้นขึ้นมาที่ US$5-6/bbl)
บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (30 ส.ค.) ประเมินดัชนียังคงแกว่งตัวในกรอบ 1,530-1,560 จุด แนะนำเทรดดิ้งระยะสั้นตามกรอบ ระยะสั้นแนะนำเก็งกำไร HPT, SYMC, TVD (+ สัญญาณโมเมนตัมทางเทคนิค)
บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (30 ส.ค.) คาด SET มีแนวโน้มรีบาวด์ เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่ยังไม่เชื่อว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. นี้ ตามผลสำรวจของ CME group ใน Fed fund future พบว่าโอกาสการปรับขึ้นดอกเบี้ยลดลงเหลือ 21% จาก 33% เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ประกอบกับค่าเงินบาทที่แข็งค่า ทั้งๆ ที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นในภูมิภาค ซึ่งแสดงถึง Fund Flow ต่างชาติน่าจะยังคงไหลเข้าตลาดหุ้นไทยต่อเนื่อง
ดังนั้นเชื่อว่า SET น่าจะปรับขึ้นได้แต่ไม่มากเนื่องจากยังไม่มีปัจจัยบวกในเชิงพื้นฐาน และคาดว่าหุ้นกลุ่มธนาคารน่าจะนำตลาดวันนี้จากผลบวกที่จะมีมากขึ้นหากเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ นอกจากนี้หุ้นในกลุ่มอาหารอย่าง CPF กลุ่มขนส่งอย่าง BEM ที่ถูกขายทำกำไรอย่างหนักวานนี้น่าจะฟื้นตัวตามปัจจัยพื้นฐาน ยังคงแข็งแกร่งและคาดว่าจะมีกำไรต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลังของปี 59 และปีหน้า
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Selective BUY
หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น : CPF และ BEM (ราคาหุ้นร่วงแรงสวนทางกับปัจจัยพื้นฐานที่คาดว่าจะมีกำไรดีต่อเนื่อง)
บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (30 ส.ค.) ทิศทางตลาดหุ้นไทยวันนี้ คาดจะแกว่งตัวออกด้านข้าง รอปัจจัยใหม่ๆสนุน โดยเฉพาะการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐสำหรับเดือน ส.ค. 2559 ในวันศุกร์นี้ ซึ่งอาจบ่งชี้ถึงระยะเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐที่ชัดเจนขึ้น ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเช้านี้ ส่วนใหญ่ปรับขึ้นเล็กน้อย ขณะที่นักลงทุนต่างชาติวานนี้กลับมาซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 1,797 ล้านบาท
แนวรับ/แนวต้าน : 1,535/1,560 สัดส่วนการลงทุน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%
กลยุทธ์ : ทยอยลดพอร์ต ซื้อหุ้นขนาดเล็กที่มีประเด็นบวก
หุ้นแนะนำ :THAI (31.75) PACE (4.82) ASEFA (8.50) WHA (4.20)