HOTPOT ข่าวลือ และคนดังแฉทุกวัน ทันเกมหุ้น

บรรยากาศเมื่อก่อนและระว่างการระดมทุนของ บริษัท ฮอท พอท จำกัด (มหาชน) หรือ HOTPOT เพื่อเข้าเทรดวันแรกในเดือนกันยายน 2555 เต็มไปด้วยความคึกคักตามสูตรของการประชาสัมพันธ์จุดแกร่งของกิจการ


บรรยากาศเมื่อก่อนและระว่างการระดมทุนของ บริษัท ฮอท พอท จำกัด (มหาชน) หรือ HOTPOT เพื่อเข้าเทรดวันแรกในเดือนกันยายน 2555 เต็มไปด้วยความคึกคักตามสูตรของการประชาสัมพันธ์จุดแกร่งของกิจการ

บรรยากาศดังกล่าว เมื่อ 4 ปีที่ผ่านมา ต่างจากวันนี้ลิบลับ

นักวิเคราะห์พากันให้คะแนนเชิงบวกต่อหุ้น HOTPOIT อย่างเต็มที่ โดยอ้างถึงเหตุผลหลายประการอาทิ 1) หุ้นจองราคา 2.80 บาต่อหุ้น หมดเกลี้ยงตั้งแต่วันแรกที่เปิดจอง 2) พื้นฐานธุรกิจร้านอาหารแข็งแกร่งจากสาขาทั้งหมด 128 สาขา ทั้งแบรนด์ HOTPOT 120 สาขา และ DAIDOMON อีก 8 สาขา ทั่วประเทศ 3) โอกาสทางธุรกิจในอนาคตที่เปิดกว้าง มุ่งให้เติบโตปีละ 25-30% โดยมุ่งเปิดดสาขาใหม่ปีละ 20 แห่ง

ความร้อนแรงในช่วงแรก ทำให้ราคาหุ้นของ HOTPOT ในเดือนแรกหลังเข้าซื้อขาย ราคาวิ่งเป็นขาขึ้นจากระดับราคาปิดวันแรก 3.90 บาท ไปปิดที่ ราคาสูงสุดในสัปดาห์ที่ 5 ที่ระดับ 5.50 บาท ก่อนที่จะมีการปรับฐานลงมาแรงหลังจากที่ผลประกอบการออกมาน่าผิดหวัง ต่ำกว่าคาด

ราคาหุ้นของ HOTPOT ร่วงยาวเป็นเวลานานเกือบ 1 ปี จนกระทั่งเดือนสิงหาคม 2556 มาอยู่ที่ราคาต่ำกว่าจองที่ระดับต่ำสุด 2.48 บาท ก่อนจะปรับตัวขึ้นๆ ลงๆ ต่อมาตามสภาพผลประกอบการ

งบการเงินของ HOTPOT ขาดทุนต่อเนื่อง หลังจากที่รายได้ทรงตัวที่ระดับ 2-1.2.3 พันล้านบาท ตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นมา และขาดทุนมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งล่าสุดมีส่วนของผู้ถือหุ้นเหลือเพียง 223.57 ล้านบาทเท่านั้น

HOTPOT กลายสภาพจากหุ้นกระทะร้อน มาเป็นหุ้นกระทะรั่วต่อเนื่องชนิดหมดสภาพ

ไม่มีสัญญาณใดๆ ที่ระบุว่า HOTPOT จะสามารถเทิร์นอะราวด์กลับมาทำกำไรฟื้นตัวได้… ทว่า นับตั้งแต่วันที่ราคาหุ้นของบริษัททำนิวโลว์ที่ระดับ 2.40 บาทในวันที่ 10 กรกฎาคมปีนี้ เป็นต้นมา ราคาหุ้นก็ทำท่ากระเตื้องงขึ้นอย่างช้าๆ แต่หนักแน่น ค่อยๆสะสมแรงซื้อ ไต่เพดานฝ่าแนวต้านขึ้นมาที่เหนือ 3.00 บาท

การวิ่งของราคาดูร้อนแรงมากขึ้น เมื่อมีข่าวลือว่ามีกลุ่มทุนใหม่สนใจเข้าซื้อหุ้นของ HOTPOT ซึ่งผู้ถือหุ้นใหญ่สุดและผู้บริหารอย่าง นายสมพล ฤกษ์วิบูลย์ศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ก็ออกมา “แทงกั๊ก” เสมือนให้สัญญาณไฟเขียวว่า HOTPOT เองก็เป็นบริษัทที่มีคุณภาพ หากมีพันธมิตรใหม่เข้ามาต่อยอดให้ธุรกิจของบริษัทขยายตัวได้มากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน  ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดี

การวิ่งที่ร้อนแรงของราคาหุ้น HOTPOT ทำให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ (ตลท.) ได้ขอให้บริษัทชี้แจง เกี่ยวกับข่าวที่ปรากฏในหนังสือพิมพ์ฉบับเช้าวานนี้ ที่ระบุว่ามีบุคคลที่สนใจจะซื้อหุ้นของบริษัทจาก นายทวีฉัตร จุฬางกูร ที่ราคาประมาณ 3 บาทต่อหุ้น

คำเรียกให้บริษัทชี้แจงของตลาดฯ สามารถหยุดยั้งข่าวลือได้ เพราะหลังจากเปิดทำการเช้าวานนี้ ราคาหุ้น HOTPOT ถูกกระชากแรงตั้งแต่เปิดซื้อขายประจำวัน จากราคาเปิด 3.28 บาท พุ่งแรงไปถึงจุดสูงสุดของวันที่ 3.50 บาท ก่อนจะลงมาปิดตลาดที่ 3.48 บาท

เหตุผลหลักมาจาก ชื่อของนายทวีฉัตร นักลงทุนระดับวีไอ รายใหญ่ที่ทำตัวเงียบ แต่ “ทุ่มหนัก” จนมีชื่อระบือลั่นมายาวนาน และล่าสุดยังมีชื่อถือหุ้นใหญ่อันดับสามของ HOTPOT ด้วยปริมาณ 77.965 ล้านหุ้น หรือ 19.20%

ในอดีต ชื่อของนายทวีฉัตรที่เข้าซื้อหุ้นบริษัทไหน มักจะ “เรียกแขก” ไล่ราคาตามได้เสมอ….แต่ครั้งนี้แปลกออกไป เพราะเรียกแขก ได้แม้กระทั่งเวลาขาย….เพราะน่าจะทำให้ราคาหุ้นร่วงลงมากกว่าวิ่งขึ้น

ในทางกลับกัน ชื่อของผู้ซื้อในข่าวลือที่ออกมานี่สิ…เรียกแขกได้ดีไม่แพ้นายทวีฉัตร

เสี่ยป๊อบ นาย สุรพงษ์ เตรียมชาญชัย…..ผู้ซึ่งในระยะ 10 ปีเศษมานี้คร่ำหวอดในยุทธจักร”หุ้นร้อน”มาโชกโชน นับตั้งแต่ บริษัท ทราฟฟิค คอร์นเนอร์ โฮลดิ้ง จำกัด(มหาชน)  หรือ TSF …กระทั่งมาถึงปัจจุบัน นั่งเป็นกรรมการผู้จัดการ บริษัท นิปปอน แพ็ค (ประเทศไทย) จำกัด  (มหาชน) หรือ  NPP

ดนดัง เจอกับคนดัง มันจะให้หุ้นไม่ร้อน….ก็ให้มันรู้กันไป

ตัวแทนของ HOTPOT แจ้งกับตลาดฯว่า บริษัทได้สอบถามผู้ถือหุ้นรายใหญ่ (เข้าใจกันได้ว่าไม่ใช่คนอื่น นอกจากคนที่เป็นข่าว) ถึงข่าวการขายหุ้นบริษัท “….ได้รับคำชี้แจงว่าอยู่ระหว่างการเจรจากับนักลงทุนเพื่อพิจารณาขายหุ้นออกไปบางส่วน ซึ่งยังมีความไม่แน่นอนและยังไม่ได้ข้อสรุป..”

คำตอบที่คลุมเครือดังกล่าว มีความชัดเจนในตัวมันเองว่า นายทวีฉัตรอยากขายจริง และมีการเจรจาจริง แต่ยัง…ไม่เรียบร้อยหมดสิ้นกระบวนความ

ด้านเสี่ยป๊อบ ก็รีบออกมาให้ข่าวเช่นกัน ไม่อ้ำอึ้งว่า ขอปฏิเสธกระแสข่าวลือดังกล่าว แม้ว่า NPP จะมีความสนใจลงทุนขยายธุรกิจอาหารหลังจากเข้าซื้อกิจการร้านมิยาบิและ A&W … ซึ่งก็มองไว้หลายราย แต่ขณะนี้ก็ยังไม่ได้มีข้อสรุปใดๆ ที่สำคัญ….ทางบริษัทยังไม่ได้เก็บหุ้น HOTPOT และไม่ได้มีพัฒนาการถึงขนาดนั้น แถมยังยังไม่ได้คุยกับนายทวีฉัตรเลย

คำถามว่า ระหว่างปรากฏการณ์ “เห็บกระโดดก่อนหมาตาย” กับ “เกมสร้างราคาหุ้น” HOTPOT นั้น…เชื่อมโยงกันมากน้อยแค่ไหน และอย่างไร

คนให้คำตอบดีที่สุดน่าจะเป็นนายทวีฉัตรคนเดียว….คนอื่นที่…ไม่ใช่แฟน… คงตอบแทนไม่ได้

“อิ อิ อิ”

Back to top button