SET บ่ายแกว่งแคบ 1535-1555 จุดแนะสอย 5 หุ้นเด่นแข็งแกร่งกว่าตลาด
SET บ่ายแกว่งแคบ รับแรงกระทบจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงค่อนข้างแรงหลังสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯออกมาเพิ่มขึ้นมากกว่าคาด พร้อมให้แนวรับ 1,535 แนวต้าน 1,555 จุด แนะสอย 5 หุ้นเด่นแข็งแกร่งกว่าตลาดนำโดย SCC,KBANK,BEM,IRPC และ BR
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงานตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ภาคเช้า (1 ก.ย.) แกว่งแคบคล้ายตลาดภูมิภาคที่แก่วงตัวทั้งในแดนบวก-ลบ รับแรงกระทบจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงค่อนข้างแรงหลังสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯออกมาเพิ่มขึ้นมากกว่าคาด จึงทำให้กดดันหุ้นในกลุ่มพลังงาน-ปิโตรเคมี อย่างไรก็ดี ตลาดยังได้แรงประคองจาก FSTE เพิ่มน้ำหนักลงทุนหุ้นขนาดใหญ่ และงานไทยแลนด์โฟกัส น่าจะดึง Fund Flow ให้ไหลเข้ามา แต่ในช่วงนี้ภาพการลงทุนคงจะเป็นลักษณะไซด์เวย์ บ่ายนี้ดัชนีฯคงแกว่งกรอบแคบ พร้อมให้แนวรับ 1,535 แนวต้าน 1,555 จุด
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งตัวในกรอบแคบอยู่ คล้ายคลึงกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้แกว่งทั้งในแดนบวก-ลบ โดยตลาดฯได้รับปัจจัยกระทบจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงค่อนข้างแรงหลังจากที่สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯออกมาเพิ่มขึ้นมากกว่าคาด ทำให้ไปกดดันหุ้นในกลุ่มพลังงาน และกลุ่มปิโตรเคมีให้ปรับตัวลง
อย่างไรก็ดี ตลาดฯยังได้รับปัจจัยบวกจาก FSTE ประกาศการเพิ่มน้ำหนักลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ และงานไทยแลนด์โฟกัส ซึ่งน่าจะทำให้มี Fund Flow ไหลเข้ามาในระยะ 2-4 สัปดาห์หลังจากจบงานแล้ว ซึ่งตรงนี้ทำให้ช่วยประคองตลาดฯไว้ได้ แต่ทั้งนี้ก็ยังมองว่าช่วงนี้ภาพการลงทุนคงจะเป็นลักษณะไซด์เวย์ แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ ดัชนีฯคงจะแกว่งไซด์เวย์ พร้อมให้แนวรับ 1,535 จุด ส่วนแนวต้าน 1,555 จุด
บล.ธนชาตระบุในบทวิเคราะห์ (1 ก.ย.) ว่า SET ภาคเช้าเคลื่อนไหวแคบ แต่ถ้าพิจารณาเป็นหุ้นรายตัวจะเห็นว่ากลุ่มหุ้นที่ FTSE AP Ex Japan มีการเพิ่มน้ำหนักลงทุนอย่าง SCC KBANK และ BEM มีแนวโน้มแข็งแกร่งกว่าตลาดชัดเจน ทั้งนี้แม้เรายังมองความเสี่ยงจากการ “พักฐาน” เหมือนเดิม แต่สามารถ “Selective” กลุ่มหุ้นที่แข็งแกร่งตลาด อย่างกลุ่มหุ้นที่ได้รับผลดีจากการบริโภคฟื้นตัว, ราคาน้ำมันปรับลดลง, และเงินบาทอ่อนค่า อย่าง THANI IRPC BR SCC (เป็น Top Pick ใน Tactical Portfolio และมีประเด็นจากการเพิ่มน้ำหนักลงทุนของ FTSE)
ในขณะเดียวกันแนะนำ “ซื้อ” COM7 ด้วยเป้าหมายพื้นฐาน 12 บาท จาก 1) ผลการดำเนินงาน 2559 ออกมาดี +31% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 81 ล้านบาท 2) ผลการดำเนินงาน ครึ่งปีหลังปีนี้จะเร่งตัวขึ้นไปอีกจากการเติบโตของรายได้ธุรกิจเดิม และรายได้เพิ่มจากธุรกิจ iCare และการบริหาร True Shop 3) การเปิดตัว iPhone7 เร็วๆ นี้ จะเป็นปัจจัยหนุนยอดขาย Smart Phone ในช่วง ไตรมาส 3-4/59และเป็น Sentiment บวงกต่อราคาหุ้นระยะสั้น 3) การรับรู้รายได้จากธุรกิจ iCare และ True Shop เต็มที่ในปี 2560 จะเป็นปัจจัยหนุนกำไรเติบโต 35% และ 4) ในทางเทคนิค ราคาหุ้นมีแนวโน้มทดสดสอบ 12.00 บาท ที่เป็นจุดสูงสุดเดิม และเป้าหมายถัดไปที่ 13.20 บาท
สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า
SCC มูลค่าการซื้อขาย 2,743.28 ล้านบาท ปิดที่ 548.00 บาท เพิ่มขึ้น 18.00 บาท
RJH มูลค่าการซื้อขาย 2,090.37 ล้านบาท ปิดที่ 20.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,615.40 ล้านบาท ปิดที่ 198.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 855.93 ล้านบาท ปิดที่ 168.00 บาท ลดลง 1.50 บาท
BEM มูลค่าการซื้อขาย 846.46 ล้านบาท ปิดที่ 7.85 บาท เพิ่มขึ้น 0.15 บาท