SET บ่ายมีโอกาสอ่อนตัว-รอปัจจัยใหม่กูรูแนะเก็บ BJC ชู 3 ประเด็นบวกหนุน

ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงานตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ภาคเช้า (6 ก.ย.) แกว่งแคบคล้ายภูมิภาคบวก-ลบเล็กน้อย รีบาวด์ทางเทคนิคหลังวานนี้ร่วงแรง ขณะที่ยังไร้ปัจจัยใหม่เข้าหนุน บ่ายนี้ตลาดฯมีโอกาสอ่อนตัวลง และหากยังไม่ผ่าน 1,500 จุด ก็ควรขายปรับพอร์ตบางส่วน พร้อมให้แนวรับ 1,480 จุด แนวต้าน 1,500-1,510 จุด

 

นายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งตัวในกรอบแคบ คล้ายกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เคลื่อนไหวทั้งแดนบวก-ลบเล็กน้อย คาดว่าน่าจะเป็นการรีบาวด์ทางเทคนิคหลังวานนี้ปรับตัวลงไปแรง ขณะที่ตลาดฯยังไม่ค่อยมีปัจจัยใหม่เข้ามา 

สำหรับทิศทางราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นมาหลังจากรัสเซียและซาอุดิอาระเบียหารือถึงการลดกำลังการผลิตในกลุ่มโอเปกเพื่อทำให้ราคาน้ำมันมีเสถียรภาพมากขึ้นนั้น ยังไม่มีผลต่อตลาดมากนัก แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ ตลาดฯมีโอกาสอ่อนตัวลง และหากดัชนีฯยังไม่ผ่าน 1,500 จุด ก็ควรจะขายปรับพอร์ตบางส่วน พร้อมให้แนวรับ 1,480 จุด ส่วนแนวต้าน 1,500-1,510 จุด

 

บล.ธนชาตระบุในบทวิเคราะห์ (6 ก.ย.) ว่า SET ภาคเช้าเกิด Technical Rebound ระยะสั้นหลังปรับลดลงแรงในช่วง 2 วันที่ผ่านมา แต่ยังมอง Upside จำกัดในกรอบ 1,500-1,510 จุด และยังมีความเสี่ยงจากการ “พักฐาน” ต่อไปในระยะกลางจากแนวโน้มการปรับสูงขึ้นของผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล ก่อน Fed ขึ้นดอกเบี้ยปลายปีนี้ กดดัน Earnings Yield Gap ปรับลดลง ขณะที่ในทางเทคนิคแม้การปรับลดลงทดสอบแนวรับเมื่อวานนี้จะส่งผลให้เกิด Technical Rebound ระยะสั้น แต่ถ้าพิจารณาสัญญาณ MACD จะเห็นว่าพึ่งเกิดสัญญาณ “พักฐาน” เป็นสัปดาห์ที่ 2 เท่านั้น และหุ้นส่วนใหญ่ใน Trade Code บ่งชี้สัญญาณ “พักฐาน” เช่นเดียวกัน

ในขณะเดียวกัน แนะนำ “เก็งกำไร” BJC แนวต้าน 45.25 บาท โดยการปรับลดลงของ BJC ไปที่เส้นค่าเฉลี่ย 3 เดือนบริเวณ 42 บาท วานนี้มีจังหวะ Rebound ระยะสั้นด้วยเป้าหมาย 45.25 บาท ขณะที่ในทางพื้นฐานมีปัจจัยบวกจาก 1) กำไรครึ่งปีหลังปีนี้เติบโตแกร่งจากการรวมงบ BIGC เข้ามาเต็มไตรมาส และภาระดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลงหลังได้เงินเพิ่มทุนมาชำระหนี้บางส่วน 2) Upside Risk จากต้นทุนดอกเบี้ยจ่ายที่น้อยลงในปี 2560 โดยต้นทุนดอกเบี้ยในการออกหุ้นกู้ต่ำเพียง 3% และการ Refinance คาดว่าจะต่ำกว่า 3.50% ส่งผลให้ต้นทุนดอกเบี้ยโดยรวมต่ำกว่าประมาณการเดิมที่ 4%

  

สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า  

KTB    มูลค่าการซื้อขาย 1,312.78 ล้านบาท ปิดที่  17.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท

IVL    มูลค่าการซื้อขาย 1,059.38 ล้านบาท ปิดที่  29.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท

PTT    มูลค่าการซื้อขาย   991.76 ล้านบาท ปิดที่ 336.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท  

BANPU  มูลค่าการซื้อขาย   986.04 ล้านบาท ปิดที่  16.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท

THAI   มูลค่าการซื้อขาย   822.66 ล้านบาท ปิดที่  27.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท