สอย LIT เข้าไฮซีซั่นปล่อยสินเชือกูรูเชียร์ “ซื้อ” ชูอัพไซด์พุ่งกระฉูด

LIT เตรียมพุงกางอีกรอบ หลังไตรมาส 2/59 โกยกำไรถล่มทลาย โบร์กมองครึ่งปีหลังแนวโน้มสดใสหลังเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ หลังเร่งขยายฐานสินเชื่อทั้งภาครัฐและเอกชนหนุนกำไรระยะยาว โบร์กเชียร์ "ซื้อ" อัพไซด์พุ่งกว่า 38.39% จากราคาเป้าหมาย 15.50 บาท


LIT เตรียมพุงกางอีกรอบ หลังไตรมาส 2/59 โกยกำไรถล่มทลาย โบร์กมองครึ่งปีหลังแนวโน้มสดใสหลังเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ หลังเร่งขยายฐานสินเชื่อทั้งภาครัฐและเอกชนหนุนกำไรระยะยาว  โบร์กเชียร์ “ซื้อ” อัพไซด์พุ่งกว่า 38% จากราคาเป้าหมาย 15.50 บาท

 

อีกหนึ่งบริษัทฟอร์มดีไม่มีตก สำหรับผู้ให้บริการสินเชื่อการเงินครบวงจร  ตั้งแต่สินเชื่อต้นน้ำ-สินเชื่อปลายน้ำ อย่าง LIT ที่งบไตรมาส 2/59 ออกมาก็ไม่ทำให้ผิดหวังกำไรพุ่ง 48% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งซิกแนวโน้มครึ่งปีหลังโตไม่ยั้ง! เข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นธุรกิจ ยอดปล่อยกู้พุ่งกระฉูด

โดยนายสมพล เอกธีรจิตต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลีซ อิท จำกัด (มหาชน) หรือ LIT ผู้ให้บริการสินเชื่อประเภทNon-Bank ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/59 มีรายได้รวม 68.22 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.27 ล้านบาท หรือ 48.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 45.95 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 25.10 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.10 ล้านบาท หรือ 47.68% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 17.00 ล้านบาท โดยได้รับปัจจัยหนุนจากยอดการปล่อยสินเชื่อเอสเอ็มอีที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง

จากการที่รัฐบาลเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจด้วยโปรเจ็คราชการต่างๆ ซึ่งส่งผลให้เกือบ 70% ของลูกค้าของบริษัทซึ่งเป็น SMEs ที่รับงานจากภาครัฐ มีความต้องการใช้สินเชื่อเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ ภาพรวมในครึ่งแรกของปี 59 บริษัทฯมีรายได้รวม 124.60 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35.97 ล้านบาท หรือ 40.58% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 88.63 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 45.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.48 ล้านบาท หรือ 38.21% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 32.66 ล้านบาท

ซึ่งที่ผ่านมา “ลีซ อิท” ได้มีการปล่อยสินเชื่อให้กับเอสเอ็มอีที่เป็นคู่ค้าของภาครัฐในหลายโครงการ ไม่ว่าจะเป็นโครงการสินเชื่อเช่าเหมาเครื่องคอมพิวเตอร์พร้อมอุปกรณ์ต่อพ่วงในมหาวิทยาลัยโครงการสินเชื่อเพื่อเปิด L/C เพื่อซื้อขายมิเตอร์ไฟฟ้า (Watt hour Meters) จำนวนกว่า 200,000 เครื่อง ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.)โครงการสินเชื่อเช่าซื้อชุดเครื่องยนต์ดีเซลกำเนิดไฟฟ้าของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เพื่อแก้ไขปัญหาการจ่ายไฟฟ้าในพื้นที่เกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังได้ร่วมมือกับคู่ค้าให้บริการสินเชื่อเพื่อสนับสนุนโครงการ (Project Backup Finance) เพื่อสนับสนุนสัญญาจัดหาและติดตั้งเครื่องกั้นถนนจำนวน 2 สัญญา รวมเป็นมูลค่าสัญญา 211 ล้านบาท ซึ่งการว่าจ้างดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของโครงการจัดหาและติดตั้งเครื่องกั้นถนนของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จำนวน 200 แห่งทั่วประเทศ โดยในล็อตแรกมีจำนวนสองสัญญาแบ่งเป็น 1. สัญญาจ้างเหมาจัดหาและติดตั้งเครื่องกั้นถนนจำนวน 35แห่ง แขวงบำรุงรักษาอาณัติสัญญาณแก่งคอย ฉะเชิงเทรา ขอนแก่น และธนบุรี มูลค่า 109 ล้านบาท 2. สัญญาจ้างเหมาจัดหาและติดตั้งเครื่องกั้นถนน จำนวน 33 แห่ง แขวงบำรุงรักษาอาณัติสัญญาณลำชี มูลค่า 102 ล้านบาท ส่วนที่เหลือคาดว่าจะมีการทยอยเซ็นสัญญาออกมาในระยะต่อไป

 

ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังของปี 59 คาดว่าจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง เนื่องจากเป็นช่วง High season ของบริษัทฯ ทำให้มั่นว่ายอดปล่อยสินเชื่อจะเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยคาดว่าสินเชื่อ Factoring ในปีนี้จะเติบโตกว่า 100% มาอยู่ที่ 8,000 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา มียอดรับซื้อหนี้การค้าประมาณ 3,887 ล้านบาท

ขณะที่สินเชื่อ Bid Bond หรือสินเชื่อเพื่อออกหนังสือค้ำประกันซองประมูลสำหรับ SMEs คาดว่าจะเติบโต 100% จากการที่งานภาครัฐเพิ่มมากขึ้น ทำให้ความต้องการสินเชื่อเพื่อค้ำซองประมูลมากขึ้น ส่วนสินเชื่อ Project Backup Finance หรือ สินเชื่อเพิ่สนับสนุนโครงการ คาดว่าจะมีส่วนแบ่งรายได้ที่ 30% ของรายได้เช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา เนื่องจากผลิตภัณฑ์นี้ให้ผลตอบแทนสูงแต่ก็มีความเสี่ยงสูงเช่นกัน ซึ่งอาจไม่เหมาะสมที่จะไปเร่งยอดเติบโตในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน

นอกจากนี้ บริษัทฯยังเร่งตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญให้ไปที่ระดับเป้าหมาย 3% ของยอดสินเชื่อคงค้าง โดยในปี 59 ตั้งเป้าหมายการสำรองไว้ที่ 2.50% ของสินเชื่อคงค้าง และตั้งเป้าหมายคุมสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) ที่ระดับ 2.50% ของพอร์ตสินเชื่อรวมเช่นกัน

 

ด้าน บล.เออีซี ระบุในบทวิเคราะห์แนะนำ “ซื้อ” LIT ราคาเป้าหมาย 15.50 บาท หลังมองว่า 1) ช่วง 3 ปีคาดกำไรโตเฉลี่ยปีละ 34.1% จากการเร่งตัวของพอร์ตสินเชื่อหลังขยายฐานทั้งภาครัฐและเอกชน 2) ศักยภาพทำกำไรอยู่ในเกณฑ์ดี หลังได้อานิสงส์จาก NIM ที่คาดยังทรงตัวในระดับสูงเฉลี่ย 10% ต่อปี 3) ฐานะการเงินยังเพียงพอรองรับแผนเติบโตทั้งแนวราบและแนวสูง 4) พร้อมคาดให้  Div. Yield เฉลี่ยปีละ 3.1%

นอกจากนี้ ช่วงครึ่งปีหลังกำไรโตทั้งจากครึ่งปีแรกและจากช่วงเดียวกันของปีก่อน พร้อมคาดปี 59 โต 40.8% ด้วยปัจจัยขับเคลื่อนจาก 1) เข้าสู่ High Season ของภาคธุรกิจที่จะเร่งผลิตสินค้าเก็บสต็อกไว้ ตลอดจนการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณและการประมูลงานภาครัฐฯ ซึ่งคาดจะช่วยหนุนดีมานต์สินเชื่อเพิ่มขึ้น และ 2) ต้นทุนการเงินที่คาดลดลงตามภาวะดอกเบี้ยขาลง ขณะที่นโยบายการตั้งสำรองคาดยังเป็นไปตามแผน โดยปีนี้ LIT คาดตั้งสำรองที่ระดับ 2.5% ของยอดลูกหนี้คงเหลือสุทธิจากหลักประกัน หนุนทำให้ปี 59 คาด LIT มีกำไรสุทธิ 99 ล้านบาท โต 40.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และโตต่อ 36.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนในปี 60

 

โดยล่าสุดราคาหุ้น  LIT  ปิดตลาด (6 ก.ย.) ที่ 11.20 บาท บวก 0.40 บาท หรือ 3.70% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 78.4 ล้านบาท มีอัพไซต์ 38.39% จากราคาเป้าหมายที่ 15.50 บาท

 

ทั้งนี้ มองว่าราคาหุ้น LIT ยังสามารถไปต่อได้ เนื่องจากเป็นช่วง High season ของบริษัทฯ ทำให้มั่นใจว่ายอดปล่อยสินเชื่อจะเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยมีการปล่อยสินเชื่อทั้งภาครัฐและเอกชนทำให้มองว่าสามารถทำกำไรได้ในระยะยาว ช่วยหนุนราคาให้สามารถปรับขึ้นต่อได้

Back to top button