17 หุ้นจิ๋วแรงดีไม่มีตก! กวาดรีเทิร์นเกิน 50%

“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจราคาหุ้นบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาด mai โดยใช้เกณฑ์คัดเลือกจากราคาหุ้นที่มีการปรับตัวขึ้นเกิน 50% ในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2559 นับตั้งแต่วันที่ 30 ธ.ค.58 จนถึงวันที่ 31 ส.ค.59 ซึ่ง ได้คัดเลือกมาทั้งหมด 17 บจ. ประกอบด้วย KOOL,QTC ,TVD ,YUASA ,ATP30 ,TNH ,TACC ,PICO ,SALEE ,2S ,TNP ,ABICO ,TMI ,HTECH ,UKEM ,PHOL และ LIT

ตารางแสดงการเปลี่ยนแปลงของราคาหุ้น

 

สำหรับหุ้น 3 อันดับแรกที่ราคาปรับตัวขึ้นแรงมีดังนี้

อับดับที่ 1 บริษัท มาสเตอร์คูล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ KOOL ราคาช่วง 8 เดือนแรก ปรับตัวขึ้น 5.10 บาท หรือ 408% จากราคา ณ วันที่ 30 ธ.ค. 58 อยู่ที่ระดับ 1.25 บาท  มาอยู่ที่ 6.35 บาท ณ วันที่ 31 ส.ค. 59 

ด้านนักวิเคราะห์ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” KOOL ราคาเป้าหมาย 6.50 บาท/หุ้น แนวโน้มระยะยาวคาดเติบโตแข็งแกร่ง โดย KOOL มีการปรับกลยุทธ์รองรับช่วง Low Season ในงวดครึ่งปีหลังปี 59 จากการขยายการส่งออก และลูกค้ากลุ่มองค์กร ทำให้คาดว่าผลงานครึ่งปีหลังปีนี้ผลงานจะไม่แย่เหมือนปีก่อน

ขณะที่คาดกำไรสุทธิปี 59 เติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยปรับคาดการณ์กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจากเดิมอีก 42% ขณะที่คาดกำไรสุทธิปี 60 ยังแข็งแกร่ง เติบโตไม่ต่ำกว่า 30% จากจุดเด่นของตัวสินค้า และการพัฒนาสินค้าใหม่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ KOOL ตั้งเป้าหมายรายได้ในช่วง 3 ปีข้างหน้าจะเติบโตสูงเฉลี่ย 30% – 40% ต่อปี

 

อับดับที่ 2 บริษัท คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ QTC ราคาช่วง 8 เดือนแรก ปรับตัวขึ้น 11.40 บาท หรือ 223.53% จากราคา ณ วันที่ 30 ธ.ค. 58 อยู่ที่ระดับ 5.10 บาท  มาอยู่ที่ 16.50 บาท ณ วันที่ 31 ส.ค. 59 อย่างไรก็ตาม QTC เป็นหลักทรัพย์ที่เข้าข่ายมาตรการกำกับการซื้อขาย ระดับ 1 : Cash Balance สิ้นสุดวันที่ 23 ก.ย.59 นักลงทุนอาจจะต้องระวังในการเข้าซื้อ

 

อันดับที่ 3 บริษัท ทีวี ไดเร็ค จำกัด (มหาชน) หรือ TVD ราคาช่วง 8 เดือนแรก ปรับตัวขึ้น 1.82 บาท หรือ 156.90 % จากราคา ณ วันที่ 30 ธ.ค. 58 อยู่ที่ระดับ 1.16 บาท  มาอยู่ที่ 2.98 บาท ณ วันที่ 31 ส.ค. 59

ด้านนักวิเคราะห์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ระบุในบทวิเคราะห์ ว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 3/59 ผลกำไรจะเดินหน้าฟื้นตัวจากไตรมาสก่อน และจากปีก่อน ผลักดันจากภาคการบริโภคในประเทศที่กำลังฟื้นตัวต่อเนื่อง ทั้งนี้ผลกำไรปกติในครึ่งปีแรกคิดเป็น 52% ของประมาณการ จึงคงประมาณการกำไร และราคาเหมาะสม 12 เดือนข้างหน้าที่ 3.60 บาท/หุ้น ไว้ตามเดิม อิง P/E 20x (ส่วนลด 20% จากค่าเฉลี่ยกลุ่มค้าปลีก) แนะนำทยอยสะสม “ซื้อ” เมื่ออ่อนตัว โดยประเด็นสำคัญในปีนี้คือ การที่ผลกำไรพลิกฟื้นตลอดปี ส่วนปีหน้าคือ การคาดหวังผลกำไรส่วนเพิ่มจากความร่วมมือระหว่าง TVD และ Tri Stage

 

อนึ่ง บจ.ดังกล่าวข้างต้นถือว่าทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ด้านราคาหุ้นปรับตัวขึ้นค่อนข้างมาก สะท้อนพื้นฐานที่แข็งแกร่ง อีกทั้งผู้บริหารได้มีการวางแผนขยายธุรกิจ และบริหารงานได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้นักลงทุนได้รับผลตอบแทนจากราคาหุ้นเกิน 50% อย่างไรก็ตามการเข้าลงทุนในบจ.ดังกล่าวอาจจะมีความเสี่ยงเนื่องจากราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมามากแล้ว ทั้งนี้นักลงทุนต้องดูผลประกอบการของบริษัท และดูค่า P/E เพื่อประกอบการตัดสินใจด้วยว่าราคาหุ้นนั้นถูก หรือ แพง เมื่อเทียบกับ P/E กลุ่ม

 

*ทั้งนี้ข้อมูลที่มีการนำเสนอข้างต้น เป็นเพียงข้อแนะนำจากข้อมูลพื้นฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเท่านั้น และมิได้เป็นการชี้นำ หรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆการตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ ของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตาม ล้วนเป็นผลจากการใช้วิจารณญาณของผู้อ่าน