เคาะรัวๆโมนิก้าและทีมงาน

*ขอเรียนตามตรงว่า วันนี้เปล่าประโยชน์ที่จะมา “นั่งคิด นอนคิด ตะแคงคิด” ดัชนีจะลงไปถึงจุดไหน? หุ้นจะเด้งขึ้นเมื่อไหร่? หรือแม้กระทั่งตัวนักลงทุนควรทำตัวอย่างไร? เพราะมันเป็นเรื่องที่ไม่มีใครรู้ดีไปกว่ากัน แถมนักลงทุนแต่ละกลุ่มมีสไตล์การเล่นที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ส่งผลให้สถานการณ์ของตลาดหุ้นเปลี่ยนแปลงทุกวัน หุ้นที่เห็นว่าถูกแล้ว ก็ยังมีของที่ถูกกว่าให้ซื้ออีกเพียบนะจ๊ะ


*ขอเรียนตามตรงว่า วันนี้เปล่าประโยชน์ที่จะมา “นั่งคิด นอนคิด ตะแคงคิด” ดัชนีจะลงไปถึงจุดไหน? หุ้นจะเด้งขึ้นเมื่อไหร่? หรือแม้กระทั่งตัวนักลงทุนควรทำตัวอย่างไร? เพราะมันเป็นเรื่องที่ไม่มีใครรู้ดีไปกว่ากัน แถมนักลงทุนแต่ละกลุ่มมีสไตล์การเล่นที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ส่งผลให้สถานการณ์ของตลาดหุ้นเปลี่ยนแปลงทุกวัน หุ้นที่เห็นว่าถูกแล้ว ก็ยังมีของที่ถูกกว่าให้ซื้ออีกเพียบนะจ๊ะ

*ด้วยเหตุนี้อย่าไปตามหาสิ่งที่เราไม่สามารถจับต้องได้ เพราะเรื่องนี้มันเกี่ยวกับความมั่นใจในการลงทุนเพียวๆ (โซดา น้ำแข็ง ไม่เอา) “โมนิก้า” ถึงพยายามชี้ให้แฟนคลับดูข้อมูลการลงทุนให้รอบด้าน พร้อมกับหันมาใช้กลยุทธ์ทยอยซื้อ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการลงทุน เพราะข้อมูลที่ปรากฏล่าสุดยืนยันว่า ดัชนีเข้าสู่เขต over sold อย่างเป็นทางการแล้วนะคะ

*เมื่อข้อมูลที่จับต้องได้ออกมาในโทนที่ทำให้นักลงทุนรู้สึกสบายใจขึ้นมานิดหน่อย “โมนิก้า” ย่อมต้องการให้นักลงทุนเปลี่ยนสไตล์การเล่นให้เร็วขึ้น เพราะเท่าที่เฝ้าดูแรงซื้อแรงขายก็เห็นว่า ทุกคนรู้อยู่เต็มอก “หุ้นถูก” แต่ไม่มีใครอยาก “กอดหุ้น” ไว้ในพอร์ตนานๆ ส่งผลให้จังหวะการเข้าเล่นในเที่ยวนี้เป็นแบบเคาะรัวๆ ซึ่งเป็นการเคาะทั้งฝั่งขวา และฝั่งซ้ายนะจะบอกให้

*ฉะนั้นอย่าคิดว่า พายุลูกใหญ่ได้ผ่านพ้นไปแล้ว เพราะการที่ดัชนีผงกหัวจากจุดต่ำสุดของวันบริเวณ 1,435.67 จุด ขึ้นมาปิดที่ 1,445.28 จุด ลบไป 10.10 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.44 หมื่นล้านบาท มันเป็นเพียงอาการกระตุกก่อนลงหนักเป็นประจำ (หนูขอภาวนา ครั้งนี้อย่าให้เหมือนกับครั้งที่แล้ว) “โมนิก้า” ถึงพยายามเสนอแง่มุมที่เป็นประโยชน์กับการลงทุนให้ได้มากสุดเท่าที่จะทำได้เจ้าค่ะ

*เหมือนกับกรณีที่เกิดกับ ITD ทำราคาต่ำสุดในรอบ 1 ปี 9 เดือนที่ระดับ 5.10 บาท ลบไป 0.05 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 630 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นจังหวะที่นักลงทุนต้องตีโจทย์เรื่องนี้ให้แตกอีกครั้งว่า หุ้นที่มีผลขาดทุนเรื้อรัง แถมวาดฝันเรื่องต่างๆ นานา ไว้เยอะแยะ แต่สุดท้ายกลายเป็นการย่ำอยู่ที่เดิม มันใช่หุ้นทางเลือกของการลงทุนในภาวะตลาดหุ้นขาลงหรือเปล่า?

*เช่นเดียวกับในรายของ GL ในที่สุดก็ปรากฏข้อมูลอีกด้านให้เห็นกันอย่างจะจะ ว่า เมื่อนักลงทุนสถาบันไม่เอา บรรยากาศการลงทุนไม่เอื้อ ราคาหุ้นก็ร่วงเป็นนกปีกหักได้เหมือนกัน ล่าสุดหุ้นลงมายืนอยู่ที่ 34.50 บาท ลบไป 3.25 บาท หรือลงไป 8.60% ด้วยมูลค่า 360 ล้านบาท แถมเป็นการปิดที่ราคาต่ำสุดของวัน เท่ากับเป็นการส่งสัญญาณว่า หุ้นจะลงไปทดสอบแนวรับ 30 บาท จริงหรือไม่ คอยดูแล้วกันเจ้าค่ะ

*ส่วนอีกหนึ่งรายที่น่ากลัวไม่ใช่ย่อย “โมนิก้า” ขอโฟกัสไปที่หุ้น COM7 เป็นลำดับถัดมา เพราะการร่วงหล่นเป็นเวลา 3 วันติดต่อกัน จนลงมาปิดที่ 9.30 บาท ลบไป 0.70 บาท หรือลงไป 7% ด้วยมูลค่า 510 ล้านบาท มันเหมือนเป็นบอกให้ชาวหุ้นได้รู้ว่า แรงเทขายเยอะมากๆ หุ้นถึงไม่สามารถผงกหัวขึ้นได้สักที! งานนี้มีสิทธิ์ไปเจอกันแถว 8 บาทค่อนข้างสูงนะจะบอกให้

*เม้าท์ถึงเรื่องนี้ขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ต้องหันมามอง BIG เพื่อยกเป็นตัวอย่างให้กับนักเล่นวัยละอ่อนสักหน่อย เพราะปัจจัยพื้นฐานแน่นเปรี๊ยะ แต่ราคาหุ้นดันม่อยกระรอก มันมาจากเรื่องการขอวงเงินซื้อหุ้นประมาณนั้นแหละ! วันนี้ถึงไม่ต้องมาถามข้อมูลอื่นให้เสียเวลา เพราะการอ่อนตัวลงมาปิดที่ 3.76 บาท ลบไป 0.36 บาท หรือลงไป 8.75% ด้วยมูลค่า 390 ล้านบาท จากก่อนหน้านี้ยืนแถว 5 บาท มันฟ้องด้วยตัวของมันเองเจ้าค่ะ

*ข้อมูลในส่วนดังกล่าวยังสะท้อนถึงฉากหลังของหุ้น AJD ซึ่งทำให้ชาวหุ้นป้องปากนินทากันยกใหญ่ว่า แรงเทขายยังไม่หมดเพียงแค่นี้แน่ๆ และการที่หุ้นลงมาปิดที่ 1.71 บาท ลบไป 0.13 บาท หรือลงไป 7% ด้วยมูลค่า 800 ล้านบาท มันทำแมงเม่ายังหวาดหวั่นเหมือนเดิม “โมนิก้า” ถึงขอเวลาไปขุดคุ้ยข้อมูลที่ทุกคนสงสัยมาเล่าให้ฟังในภาคหน้าสักวันสองวัน และขอปล่อยพื้นที่ตรงนี้ให้กับแมงเม่าตัวจี๊ดกระโจนเข้าใส่เพื่อลุ้นรีบาวด์นะคะ

*อีกหนึ่งตัวที่มีชะตากรรมไม่แพ้กันก็คือ TACC โดนถล่มเทขายอย่างหนักหน่วงจนเสียศูนย์ มันก็มาจากเรื่องที่เคยเกริ่นนำไว้ทั้งหมด จึงไม่ต้องหาเหตุผลอื่นมาอธิบายให้เสียเวลา เพราะเมื่อคำนวณตามสูตรอีกา 3 ตัว ควบคู่กับการขายหุ้นเพื่อคืนมาร์จิ้นไปเยอะพอสมควร ก็ต้องบอกว่าวันนี้มีโอกาสเด้งขึ้นเหมือนกัน ซึ่งอนุมานได้จากหุ้นวิ่งจากจุดต่ำสุด 7 บาท ขึ้นมาปิดที่  7.80 บาท ลบไป 0.60 บาท ด้วยมูลค่า 240 ล้านบาท มันน่าสนไหมล่ะค่ะ

*หากยังไม่เห็นภาพ “โมนิก้า” ขอให้แฟนคลับดูจากหุ้น QH เป็นหลักก็แล้วกัน เพราะการเด้งขึ้นมาปิดที่ 2.40 บาท บวกไป 0.08 บาท หรือขึ้นไป 3.45% ด้วยมูลค่า 230 ล้านบาท มันเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากหุ้นร่วงลงหนัก 3 วัน แต่เผอิญการเด้งกลับเที่ยวนี้มาชนแนวต้าน 3.42 บาทพอดิบพอดี จึงต้องดูกันต่อไปว่า วันนี้จะมีแรงหนุนมากพอที่จะทำให้หุ้นเปลี่ยนโพสิชั่นหรือเปล่าค่ะ

*ป.ล.หุ้นที่เม้าท์ให้ฟังข้างต้นนั้น ล้วนถูกปูฐานมาจากมาร์จิ้นเป็นส่วนใหญ่ เมื่อองค์ประกอบหลายอย่างกดดันหุ้นอ่อนตัวลงมา การหนีตายอย่างอลหม่านเพื่อขอไปตายเอาดาบหน้า ถึงเกิดขึ้นตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา และถ้าคำนวณไม่ผิดพลาด เกมหุ้นจะถูกเซ็ตขึ้นมาใหม่ในช่วง 2-3 วันข้างหน้า เพราะหลายอย่างถูกเขย่าจนสะเด็ดน้ำแล้ว และจังหวะนี้เหลือแค่ใครจะเป็นคนจุดพลุก็เท่านั้นเองเจ้าค่ะ

Back to top button