SET ฟื้นตัว แนะเก็บ 8 บจ.เด่น ความเสี่ยงต่ำ-เทคนิคดี

ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.20 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 34.81 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดทะยานขึ้นเมื่อคืน หลังจากนางลาเอล เบรนนาร์ด หนึ่งในคณะผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้แนะนำให้เฟดดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงินต่อไป

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้มีโอกาสเกิด Technical Rebound หลังดัชนีร่วงแรงเกือบ 9% ในช่วง 8 วันทำการที่ผ่านมา ขณะที่ Fund Flow ต่างชาติยังไหลเข้าต่อเนื่องจากความคาดหวังที่ว่าเฟดอาจจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน ก.ย.นี้ อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวของดัชนีมองว่าเป็นเพียงจังหวะ “เก็งกำไร” ด้วยวงเงินจำกัดเท่านั้น

การลงทุนแนะนำทยอยซื้อหุ้นใหญ่ที่ความเสี่ยงเริ่มต่ำ และหุ้นที่มีสัญญาณบวกทางเทคนิค หุ้นเด่นเลือก KBANK-SCB-ADVANC-SCC-BEM-BDMS-JAS และ SAPPE

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (13 ก.ย.)Dow Jones ฟื้นตัวแกร่งบวก1.3% เมื่อคืนหลังสมาชิก Fed (สายพิราบ) Lael Brainard มองการใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายยังจำเป็น อย่างไรก็ดีถ้าพิจารณาจาก Implied Fed Fund Future ยังแสดงให้เห็นถึงโอกาสที่ Fed จะขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค.สูงเกือบ 60% และ Bond Yield 10 ปีสหรัฐฯ ยังทรงตัวที่ระดับ 1.66%

แม้ SET มีแนวโน้ม Rebound ตามการฟื้นตัวของ Dow Jones แต่ยังมองเป็นเพียงจังหวะ “เก็งกำไร” ด้วยวงเงินจำกัดเท่านั้น

พอร์ตหลักแนะนำ “จำกัด” พอร์ตต่อเนื่อง โดยเรายังให้น้ำหนักกับ 1) ความผันผวนของ SET ก่อนการขึ้นดอกเบี้ย Fed ในช่วงปลายปีนี้ 2) แม้ PE ตลาดจะปรับลดลงเหลือ 15.5 เท่าในปี 2016 และ 14 เท่าในปี 2017 แต่ในช่วงที่นักลงทุนอยู่ในสถานะ Risk-off มีโอกาสที่ SET จะปรับลดลงไปที่ค่าเฉลี่ย PE 13.2 เท่า

สำหรับหุ้น Trading ทางเทคนิคใน Trade Code และ Technical Story แนะนำ JAS และ SAPPE ขณะที่หุ้นใกล้แนวรับได้แก่ KBANK (EMA 200 วันที่ 178.50)

 

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (13 ก.ย.) ว่า แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้: SET Index มีโอกาสเกิด Technical Rebound หลังจากที่ดัชนีร่วงแรงกว่า 8.9% ในช่วง 8 วันทำการที่ผ่านมา อีกทั้งยังได้ปัจจัยบวกจาก Fund Flow ต่างชาติที่ยังไหลเข้าต่อเนื่องจากความคาดหวังที่ว่าเฟดอาจจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.นี้หลังจากมีการแสดงความเห็นที่ขัดแย้งกันของคณะกรรมการเฟดและประธานเฟดสาขาต่างๆ และ FTSE Rebalance ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 16 ก.ย. 16 ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยหนุนตลาด

อย่างไรก็ตาม คาดว่าการฟื้นตัวของดัชนีจะเป็นไปอย่างผันผวนและอาจจะฟื้นตัวได้ไม่มากเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดจะยังคงมีอยู่จนกว่าการประชุมจะแล้วเสร็จและทราบผลในช่วงวันที่ 20-21 ก.ย.นี้ ดังนั้นการลงทุนในระยะนี้ยังจำเป็นที่ต้องใช้ความระมัดระวังสูง

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : ซื้อเล่นรอบ

หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น: เน้นกลุ่ม FTSE Rebalancing (SCC KBANK BDMS BEM)

 

บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (13 ก.ย.) คาดทิศทางการซื้อขายวันนี้ ดัชนี SET น่าจะเริ่มฟื้นตัว โดยล่าสุดโอกาสขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐในการประชุม ก.ย. นี้ลดลงสู่ระดับ 22% น่าจะส่งผลให้ตลาดเริ่มคลายความกังวลต่อประเด็นดังกล่าว

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำทยอยซื้อหุ้น Big Cap. เช่น KBANK, SCB, ADVANC, SCC, BEM เนื่องจากบริเวณดัชนี 1,400 +/- จุดความเสี่ยงเริ่มต่ำโดยคิดเป็น Forward P/E 14.8 เท่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 3 ปีที่ระดับ 15 เท่า