ยุติธรรมผัดไทยทายท้าวิชามาร

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ใช้ ม.44 ออกคำสั่ง คสช.ที่ 55/2559 ยุติการใช้ศาลทหารพิพากษาคดีความมั่นคง อันได้แก่ความผิด ม.112 ม.116 ความผิดเกี่ยวกับปืนระเบิด และความผิดฐานขัดคำสั่ง คสช. นับจากวันที่ 12 ก.ย.ให้ไปขึ้นศาลพลเรือน


ใบตองแห้ง

 

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ใช้ ม.44 ออกคำสั่ง คสช.ที่ 55/2559 ยุติการใช้ศาลทหารพิพากษาคดีความมั่นคง อันได้แก่ความผิด ม.112  ม.116 ความผิดเกี่ยวกับปืนระเบิด และความผิดฐานขัดคำสั่ง คสช. นับจากวันที่ 12 ก.ย.ให้ไปขึ้นศาลพลเรือน

ฟังเหมือนควรไชโยโห่ฮิ้ว อย่างที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เรียกร้อง ปรบมือสิ ไอ้พวกประชาธิปไตย รออะไรอยู่ ไม่ชอบศาลทหารท่านก็เลิกให้แล้ว ท่านมีเมตตายังวิจารณ์อยู่ได้

ก็อยากจะไชโยโห่สามลา กราบแทบเท้าที่กรุณาทำ “เรื่องดีๆ” แต่เอ๊ะ คิดอีกที ถ้าชมว่าทำดี แปลว่าที่ผ่านมา “ไม่ดี” ใช่ไหม พูดไปก็ซวยสิ พอท่านยกเลิกแล้วบอกว่าดี = วิจารณ์การใช้ศาลทหารว่าไม่ดี

ตรงนี้แหละยังงงๆ เพราะที่ผ่านมา องค์กรสิทธิมนุษยชน ที่ประชุม UPR สหประชาชาติ วิพากษ์วิจารณ์การจับพลเรือนขึ้นศาลทหารว่าขัดหลักความยุติธรรม ประเทศไทยก็ยืนกราน ศาลทหารไม่ต่างจากศาลพลเรือนๆๆๆๆ อ้าว ท่องเป็นเสียงเดียวแล้วยกเลิกทำไม แปลว่ายอมรับที่เขาวิจารณ์ใช่ไหม

ถ้ายอมรับว่าใช้ศาลทหารขัดกระบวนการยุติธรรม แล้วทำไมพลเรือนที่ขึ้นศาลทหารก็ยังต้องขึ้นต่อไป วิษณุ เครืองาม บอกว่าศาลทหารมี 1,500 คดี ตัดสินไปแล้ว 1 พัน คงเหลือ 500 คดี ไม่โอนไปศาลพลเรือนเพราะ “ยุ่งยาก”

อ้าว ถ้าจะกลับสู่ “กระบวนการสากล” อย่างที่พูดกัน ก็ต้องโอนคดีไปศาลยุติธรรมให้หมดสิครับ และต้องเปิดโอกาสให้จำเลยที่ถูกตัดสินไปแล้วร้องขอพิจารณาใหม่

ไม่งั้นก็แปลว่าท่านยังยืนกราน ศาลทหารไม่มีปัญหาอะไรๆๆๆ เพียงยกเลิกเพื่อลดแรงกดดันต่างชาติ ฝรั่งมันวิจารณ์มาก เป็นอุปสรรคการลงทุนท่องเที่ยวค้าขาย เพราะหลังถูกซักใน UPR ประเทศไทยจะต้องแจ้งผลการแก้ไขปัญหาสิทธิมนุษยชนต่อ UN ในวันที่ 23 ก.ย.นี้ พอดี๊พอดี

ใครที่ทำมาค้าขายก็ดีใจด้วย ภาพลักษณ์ประเทศไทยน่าจะดีขึ้น สอดรับโฆษณา Amazing Stories: PADTHAI ของ ททท.

แต่ในความเป็นจริง นี่อาจไม่ต่างอะไรกับยกเลิกกฎอัยการศึกใช้ ม.44 เพราะนอกจากไม่โอนคดีในศาลทหารมาขึ้นศาลยุติธรรม คำสั่งข้อ 2 ยังให้อำนาจเจ้าพนักงานตามคำสั่ง คสช.ที่ 3/2558 และ 13/2559 ซึ่งแปลว่าทหารยังมีอำนาจคุมตัวผู้ต้องสงสัยไว้ได้ 7 วัน โดยไม่ต้องขอหมาย โดยยังไม่ตั้งข้อหา

ยกตัวอย่าง ทหารยังมีอำนาจเหมือนครั้งบุกบ้าน ปีนรั้ว คุมตัว 8 แอดมินเพจ “เรารัก พล.อ.ประยุทธ์” หรือ 17 นปป.ผู้สูงวัย ไปสอบสวนในค่ายทหาร 7 วัน เพียงแต่ครั้งนั้นครบ 7 วันแล้วส่งตำรวจตั้งข้อหา ตำรวจทำสำนวนส่งอัยการทหารฟ้องศาลทหาร แต่หลังจากนี้จะต่างไปคือให้ตำรวจทำสำนวนส่งอัยการฟ้องศาลพลเรือน

ซึ่งไม่เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ที่ตามปกติต้องรวบรวมพยานหลักฐานขอหมายจับหมายค้นจากศาล นี่กลับเอาศาลยุติธรรมมารองรับตอนปลายน้ำ เท่ากับทำให้กระบวนการยุติธรรมลักลั่น เอาศาลมาตัดสินคดีที่ทหารตรวจค้นจับกุมโดยไม่ต้องมีหมายศาล

สุดท้ายที่ขำๆ คำสั่งข้อ 3 ยังติ่งไว้ “ในกรณีเห็นสมควร ให้นายกรัฐมนตรีเสนอให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติแก้ไขเปลี่ยนแปลงคําสั่งนี้ได้”

นี่ขำจริงนะครับ อยากให้ภาพลักษณ์ดีแต่กลับสงวนสิทธิ์ไว้ อาจกลับมาใช้ศาลทหารอีกก็ได้ ไม่รู้เขียนทำไม ทั้งที่ท่านมี ม.44 จะสั่งเมื่อไหร่ก็เซ็นแกร๊กเดียว เขียนไปให้โดนวิจารณ์เปล่าๆ               

Back to top button