เก็บตกของดี!โมนิก้าและทีมงาน

*หลังจากดัชนียืนหยัดอยู่ในแดนบวกได้แบบกระท่อนกระแท่น ก่อนจะลงเอยที่ระดับ 1,458.19 จุด บวกไป 11.35 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.10 หมื่นล้านบาท “โมนิก้า” ก็รู้ได้ทันทีว่า ถึงเวลาทยอยเก็บหุ้นเข้าพอร์ตอีกรอบ โดยเฉพาะของดีๆ ที่โดนถล่มลงมาอย่างหนักหน่วง จนแทบไม่หลงเหลือสภาพหุ้นที่น่าสนใจไปชั่วคราว น่าจะเป็นทีเด็ดสำหรับการลงทุนในเที่ยวนี้นะจะบอกให้


*หลังจากดัชนียืนหยัดอยู่ในแดนบวกได้แบบกระท่อนกระแท่น ก่อนจะลงเอยที่ระดับ 1,458.19 จุด บวกไป 11.35 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.10 หมื่นล้านบาท “โมนิก้า” ก็รู้ได้ทันทีว่า ถึงเวลาทยอยเก็บหุ้นเข้าพอร์ตอีกรอบ โดยเฉพาะของดีๆ ที่โดนถล่มลงมาอย่างหนักหน่วง จนแทบไม่หลงเหลือสภาพหุ้นที่น่าสนใจไปชั่วคราว น่าจะเป็นทีเด็ดสำหรับการลงทุนในเที่ยวนี้นะจะบอกให้

*งานนี้ไม่ต้องการให้เชื่อตามที่ “โมนิก้า” เม้าท์มอยเป็นวรรคเป็นเวร แต่อยากให้ทุกคนได้คิดไตร่ตรองกับสิ่งที่เกิดขึ้นในยามนี้ มันมีเหตุผลอะไรที่ต้องขายหุ้นทิ้งอย่างไม่ดูดำดูดีหรือเปล่า? เพราะท้ายที่สุดเราก็เห็นพวกกองทุนตัวแสบก็ดอดเข้ามาเก็บหุ้นอีกตามเคย ซึ่งเป็นวัฏจักรเดิมๆ ที่เห็นได้เป็นประจำในยามที่ตลาดหุ้นขาดปัจจัยหนุน จึงควรเก็บตกหุ้นที่คุณๆ ท่านๆ คิดว่า ใช่พะยะค่ะ

*ประกอบกับกองทุนตัวแสบหันมาเปิดกองทุนตีหัวเข้าบ้าน (ทาร์เก็ตฟันด์) “โมนิก้า” ยิ่งมั่นใจว่า แรงเทขายจะเบาบางลง แรงซื้อจะหนาแน่นขึ้น ดัชนีถึงพลิกตัวขึ้นไปยืนเหนือระดับ 1,450 จุดได้อย่างแข็งแกร่ง  ซึ่งเป็นการสะสมกำลังเพื่อทะยานขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1,500 จุดในไม่ช้า เพราะประเด็นต่างๆ ที่สังคมเคลือบแคลงสงสัย ถูกทำให้ชัดเจนทุกมิติเป็นที่เรียบร้อยแล้วน่ะสิ

*วันนี้ถึงต้องนั่งถกกันอย่างจริงจังว่า วันก่อนดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงไปกว่า 200 จุด แต่ดัชนีไทยกลับยืนปิดบวกได้อย่างยอดเยี่ยม มันเหมือนเป็นการส่งสัญญาณให้รู้ว่า ไม่ได้อยู่ภายใต้อิทธิพลตลาดหุ้นต่างประเทศแล้ว “โมนิก้า” เลยสัมผัสได้ถึงการตั้งหลักรอบใหม่ได้เกิดขึ้นอย่างเป็นทางการ และจังหวะนี้ต้องรีบกระโจนเข้าใส่ตามกำลังความสามารถที่มีอยู่ (ตามแบบฉบับ มาเร็ว เคลมเร็ว) นะคะ

*เหมือนกับในรายของ JAS กระชากขึ้นมาปิดที่ 6.45 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 8.40% ด้วยมูลค่า 4.79 พันล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นจังหวะที่ต้องตามไปดูทุกเม็ด เพราะการกระชากขึ้นเที่ยวนี้มันเป็นอะไรที่น่าสนใจจริงๆ แถมเป็นการขยับขึ้นด้วยวอลุ่มที่หนาแน่นสุดๆ หุ้นถึงมีสิทธิ์กระชากขึ้นไปอีกเรื่อยๆ บวกกับมีการขยับเป้าขึ้นไปเรื่อยๆ ไม่ตามน้ำตอนนี้ แล้วจะไปเล่นตามน้ำตอนไหนล่ะคะ

*เช่นเดียวกับการกระชากขึ้นมาปิดที่ 24.10 บาท บวกไป 2.20 บาท หรือขึ้นไป 10%  ด้วยมูลค่า 840 ล้านบาท ของเจ้าจำปี THAI มันเป็นผลมาจากบรรดากองทุนตัวแสบ กับปอบผีฟ้า หวนกลับเข้ามาไล่เก็บหุ้น สถานการณ์ของหุ้นถึงดูดีขึ้นผิดหูผิดตา และหากก๊วนนี้ยังเข้าซื้อหุ้นเหมือนเดิม ในไม่ช้าก็คงได้เห็นหุ้นวิ่งขึ้นไปยืนแถว 30 บาทอีกรอบอย่างแน่นอนเจ้าค่ะ

*เมื่อภาพรวมของตลาดหุ้นไม่มีอะไรต้องวอรี่ หุ้นประเภทดาวรุ่งพุ่งแรงก็กลับมาแจ้งเกิดอีกครั้ง ล่าสุดเห็นพระเอกตัวจริง AJD กระชากขึ้นมาปิดที่ 1.97 บาท บวกไป 0.09 บาท หรือขึ้นไป 4.80% ด้วยมูลค่า 520 ล้านบาท พร้อมกับมีข่าวเม้าท์ถึงเบื้องหลังที่ทำให้ “บิ๊กตู่” ได้พบปะพูดคุยกับ “แจ๊ค หม่า”  ก็มาจากชายคนที่ชื่อ “อมร” ซึ่งพรายกระซิบแอบเม้าท์ให้ฟังเล็กน้อยว่า กำลังมีดีลใหญ่ตามหลังมาติดๆ “โมนิก้า” ถึงต้องวิ่งแจ้นมาเล่าให้ฟังตั้งแต่เนิ่นๆ หลังเห็นกันแจ่มแจ้งว่า หุ้นแรลลี่ยาวแน่ๆ

*เช่นเดียวกับในรายของ BWG ทะยานขึ้นมาปิดจุดสูงสุดของวันที่ 2.04 บาท บวกไป 0.16 บาท หรือขึ้นไป 8.50% ด้วยมูลค่า 610 ล้านบาท มันเห็นกันชัดๆ ว่า นี่เป็นการเซ็ตเกมรอบใหม่! ซึ่งเป็นจังหวะที่เหมาะกับพวกกล้าเสี่ยงตาย แถมเมื่อดูจากยอดเดิม 2.80 บาท พ่วงด้วยโครงการลุยธุรกิจไฟฟ้าเต็มตัว ย่อมเป็นจังหวะที่ต้องใส่ให้เต็มเหนี่ยว หลังเจ้ามือลงมาประทับแล้วน่ะสิ

*เหมือนกับในรายของ DIMET ซึ่งมาด้วยพล็อตเรื่องบ้าๆ บอๆ อะไรก็ไม่รู้ จนหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 3.36  บาท บวกไป 0.66 บาท หรือขึ้นไป 24.50% ด้วยมูลค่า 90 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องที่อันตรายอย่างยิ่งยวด เพราะเคยเห็นกันมาแล้วว่า เจ้าที่แรง! แถมยังเคยลากหุ้นขึ้นไป 20 บาท แล้วสาดหุ้นออกมาแบบไม่ยั้ง จนลงมานอนดิ้นพราดๆ แถว 3 บาท ก่อนจะดันกลับไป 5 บาท แล้วทุบลงมากองอยู่ที่เดิม..ยังจะกล้าเล่นกันอีกเหรอคะ

*ตรงกันข้ามกับในรายของ ITEL เพราะรายนี้ลงทุนแบบยาวๆ ได้อย่างสบายใจเฉิบ เพราะไฮไลต์มันอยู่ตรงที่ “เข้าเทรดปุ๊บ ได้งานปั๊บ” แถมการเข้าเทรดวันที่ 14 ก.ย. เป็นการเอาฤกษ์วันเกิดของผู้บริหารหนุ่มไฟแรงอย่างน้อง “ณัฐนัย” มาเป็นตัวตั้ง โดยหุ้นปิดตลาดไปที่ 8.30 บาท บวกไป 3.10 บาท หรือขึ้นไป 60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.13 พันล้านบาท “โมนิก้า” ถือว่ายังห่างจากเป้าหมายเบื้องต้น 9.20 บาทมากพอสมควร..แล้ววันหน้าจะมาเล่าให้ฟังนะคะ

*ไหนๆ เม้าท์มาถึงตรงนี้ขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ขอหันมุมกล้องไปส่องที่หุ้น WIIK ตามคำรบเร้าของพรายกระซิบสักหน่อย เพราะเหตุผลที่เขาบอกไว้ในเที่ยวนี้มันเกี่ยวกับการเติบโต หลังผลงานในช่วงครึ่งปีแรกทำได้อย่างสะแด่วแห้ว ล่าสุดหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 4.42 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 4.75% ด้วยมูลค่า 260 ล้านบาท ยังห่างจากเป้า 6 บาทค่อนข้างเยอะ

*ตบท้ายกันที่มหากาพย์เรื่องใหม่ระหว่าง ก.ล.ต. กับ ประสิทธิ์ หลังทั้งคู่ต่างยืนอยู่ในจุดที่สังคมเฝ้าจับตามองไม่กะพริบ โดยฝ่ายแรกอ้างทำไม่ถูกกฎ ส่วนฝ่ายหลังอ้างทำทุกอย่างเปิดเผย เรื่องนี้จึงต้องไปจบด้วยการขึ้นโรงขึ้นศาล ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่ผู้คนในตลาดหุ้นน่าจะจดไว้ในบันทึก RED HOT เนื่องจากคำตัดสินที่จะออกมาในอนาคต ย่อมเป็นตัวชี้ชัดว่า “ใครถูก” หรือ “ใครผิด”…งานนี้ “โมนิก้า” ไม่ขอก้าวล่วงอะไรทั้งสิ้น และขอเป็นคนนั่งดูเหตุการณ์อยู่ห่างๆ ก็แล้วกัน.. “อิอิอิ”

Back to top button