ถ้ายืนได้..ไม่ต้องกลัวโมนิก้าและทีมงาน

*ตลอดทั้งสัปดาห์มีข้อมูลไหลเข้ามาหา “โมนิก้า” เยอะมากจนแทบจำไม่ได้ว่า เคยดูเรื่องนั้นไปหรือยัง! เคยอ่านข้อมูลตรงนี้ไปกี่เที่ยว! สุดท้ายก็มาจบเอาตรงที่แรงเทขายสะเด็ดน้ำหรือยัง? แนวรับสำคัญทางจิตวิทยายังทำงานได้ดีไหม? หรือแม้กระทั่งตลาดหุ้นไทยตอบรับเรื่องเฟดขึ้นดอกเบี้ยไปถึงไหนแล้ว? ทั้งหลายทั้งมวลเป็นข้อมูลที่เห็นกันจนชินตาแล้วนะคะ

*งานนี้ไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรให้มากความ เพราะทั้งหมดเป็นข้อมูลที่มีผลกระทบกับตลาดหุ้นเต็มๆ ซึ่งขึ้นอยู่กับว่า ช่วงนั้นจะมีการหยิบยกประเด็นไหนขึ้นมาปั่นกระแส “โมนิก้า” ถึงอยากให้มิตรรักแฟนเพลงเข้าใจบริบทของการลงทุนเที่ยวนี้ มันเป็นการวัดกำลังระหว่าง “แรงซื้อ” กับ “แรงขาย” โดยมีตัวแปรอยู่ที่การตั้งหลักของดัชนีมั่นคงแข็งแกร่งขนาดไหนเจ้าค่ะ

*วันนี้ถึงต้องมองการยืนหยัดของดัชนีเหนือแนวรับ 1,450 จุดได้นานแค่ไหน! เพราะการยืนปิดที่ระดับ 1,463.39 จุด บวกไป 5.20 จุด ด้วยมูลค่า 4.37 หมื่นล้านบาท เหมือนเป็นการส่งสัญญาณให้รู้ว่า ทุกคนกำลังรอความชัดเจนเกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด ในการประชุมระหว่างวันที่ 20-21 ที่จะถึงนี้ ส่งผลให้วอลุ่มการซื้อขายลดลงต่ำกว่า 5 หมื่นล้านบาทไงล่ะค่ะ

*ถามว่า ตรงนี้มีอะไรที่นักลงทุนควรรู้ไหม? เดี๊ยนขอตอบตรงๆ เลยว่า ควรเตรียมพร้อมรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นตั้งแต่เนิ่นๆ หลังมีการเปรยๆ จะขึ้นดอกเบี้ยถึง 2 ครั้งเมื่อปี 58 สุดท้ายก็ขึ้นไปแค่ 1 ครั้ง พอมาถึงปี 59 จะทำการขึ้นดอกเบี้ยตั้งแต่ต้นปี จนป่านนี้ก็ยังคงดอกเบี้ยเหมือนเดิม จึงมีความเป็นไปได้ค่อนข้างสูงว่า การประชุมรอบนี้น่าจะมีการขึ้นดอกเบี้ย หลังมีการส่งสัญญาณให้รู้มาระยะหนึ่งแล้วพะยะค่ะ

*เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ไม่น่าแปลกใจที่หุ้นบลูชิพบางตัวแกว่งตัวไปคนละทิศละทาง เพราะโมเมนตัมของการลงทุนในเที่ยวนี้เปลี่ยนแปลงเป็นประจำ “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับเข้าเล่นเป็นช่วงๆ เหมือนกับการอ่อนตัวลงมาของน้องมะลิ JAS ก่อนจะลงเอยที่ระดับ 6.35 บาท ลบไป 0.10 บาท ด้วยมูลค่า 2.20 พันล้านบาท ก็เป็นช็อตที่ต้องเผื่อทางหนีทีไล่ไว้เหมือนกัน หลังวอลุ่มไม่หนุนตามที่คิดไว้ โอกาสที่หุ้นจะไปต่อก็ลำบากเหมือนกัน..หากวันนี้ยังมีอาการป้อแป้ ก็ต้องรีบชิ่งทันทีเจ้าค่ะ

*เหมือนกับในรายของ TASCO กระชากขึ้นมาปิดที่ 20.60 บาท บวกไป 1.10 บาท หรือขึ้นไป 5.60% ด้วยมูลค่า 998 ล้านบาท “โมนิก้า” ขอเรียนตามตรงว่า จริงๆ ไม่ได้สวยงามขนาดนี้! เพราะก่อนหน้านี้ 2 วันก็โดนแรงเทขายกดหัวอย่างหนัก พอเห็นว่า กดหัวไม่ลงจริงๆ ก็มีแรงซื้อไหลกลับเข้ามาเป็นจำนวนมาก หุ้นถึงพุ่งกระฉูดอย่างที่เห็นนี้แหละ เดี๊ยนถึงมองว่า หุ้นมีโอกาสไปต่อ หากยังยืนรักษาฐานที่มั่นได้อีกวันนะคะ

*เช่นเดียวกับอาการที่น้อง BEM กระชากขึ้นมาปิดที่ 7.35 บาท บวกไป 0.35 บาท หรือขึ้นไป 5% ด้วยมูลค่า 1.25 พันล้านบาท “โมนิก้า” ไม่สามารถมองเป็นอื่นไปได้ นอกเสียจากหุ้นดาวเด่นที่ทุกคนอยากได้ครอบครอง หุ้นถึงไต่ระดับขึ้นอย่างต่อเนื่อง แถมยอดเดิมอยู่สูงกว่านี้ค่อนข้างเยอะ จึงเป็นจังหวะของการเล่นตามน้ำ หลังเห็นกันจะจะว่า ของเขาดีจริงๆ นะจ๊ะ

*อีกหนึ่งรายที่ต้องรีบวิ่งใส่อย่างรวดเร็ว และต้องยอมตัดใจขายเมื่อไม่เป็นเหมือนที่คิด “โมนิก้า” ขอโฟกัสไปที่หุ้นขยะ BWG หลังราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 2.18 บาท บวกไป 0.14 บาท หรือขึ้นไป 6.90% ด้วยมูลค่า 420 ล้านบาท มันเป็นช็อตที่ไม่มีอะไรต้องกังวล เพราะพล็อตของหุ้นถูกสร้างจากโปรเจ็กต์โรงไฟฟ้าขยะ เมื่อมีความชัดเจนขึ้นมานิดหนึ่ง หุ้นจะวิ่งแรง..พอเกิดความไม่แน่นอน หุ้นจะลงแรง ไม่ต้องคิดให้ซับซ้อนพะยะค่ะ

*ไหนๆ เม้าท์ถึงหุ้นที่ไม่ต้องคิดอะไรมาก “โมนิก้า” ขอให้แฟนคลับหันมามองม้ามืดที่มาเป็นรอบๆ อย่างเช่น TCMC เพื่อเพิ่มความตื่นเต้นเร้าใจให้กับชีวิตสักหน่อย ล่าสุดเห็นหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 4.70 บาท บวกไป 0.26 บาท หรือขึ้นไป 5.90% ด้วยมูลค่า 209 ล้านบาท ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นแรง 2 วันติดๆ บวกกับยอดเดิมอยู่แถว 5 บาท มันเป็นอะไรที่เย้ายวนใจดีเหลือเกินเจ้าค่ะ

*ทำนองเดียวกับหุ้นไก่ TFG วานนี้กระชากขึ้นมาปิดที่ 4.88 บาท บวกไป 0.38 บาท หรือขึ้นไป 8.40% ด้วยมูลค่า 85 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นช็อตที่ขาประจำกระโจนเข้าใส่กันอยู่แล้ว จนหุ้นมีแรงขับเคลื่อนขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 5.25 บาทอีกรอบ ส่วนจะทำสำเร็จตามเป้าหมายหรือไม่ อันนี้ขึ้นอยู่กับแรงซื้อจะหนาแน่นเพียงใด และมวลชนเห็นพ้องต้องกันขนาดไหนนะคะ

*ประเด็นดังกล่าวเทียบเคียงได้กับการย่อตัวของหุ้นน้องใหม่ ITEL ก่อนจะลงเอยที่ระดับ 8.15 บาท ลบไป 0.15 บาท ด้วยมูลค่า 980 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องของการ take profit เพื่อหาฐานแนวรับธรรมดา เพราะแพทเทิร์นของหุ้นไฟแรงจำเป็นต้องย่ำฐานก่อนไป วันนี้ถึงเป็นโอกาสของพวกเงินเย็น กับพวกที่ถนัดเล่นรอบ ในการเข้าลงทุนอีกครั้ง..ถ้านึกไม่ออกให้ไปดูแพทเทิร์นของบันไดขาขึ้นก็แล้วกัน…“อิอิอิ”