TPCH ดีจนซ้ำซากแฉทุกวัน ทันเกมหุ้น

นายเชิดศักดิ์ วัฒนวิจิตรกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีพีซี เพาเวอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TPCH บริษัททำพลังงานไฟฟ้าชีวมวล เป็นคนหนุ่มที่มา “ถูกที่ ถูกเวลา” ดังนั้นจึงมีความเชื่อมั่นตนเองค่อนข้างสูง


นายเชิดศักดิ์ วัฒนวิจิตรกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีพีซี เพาเวอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TPCH บริษัททำพลังงานไฟฟ้าชีวมวล เป็นคนหนุ่มที่มา “ถูกที่ ถูกเวลา” ดังนั้นจึงมีความเชื่อมั่นตนเองค่อนข้างสูง

ความเชื่อมั่นที่สูงดังกล่าว ทำให้ล่าสุด เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากประกาศว่า ในไตรมาสสามปีนี้ รายได้-กำไรของ TPCH จะสามารถทำนิวไฮอีกครั้งแล้ว “….บริษัทจะยังคงมีผลการดำเนินงานที่เติบโตทั้งรายได้และกำไรจะทำสถิติสูงสุดใหม่ (นิวไฮ) ต่อเนื่องไปอีก 4 ไตรมาส จากงวดไตรมาส 2/59 ที่มีรายได้ประมาณ 154 ล้านบาท

เหตุผลประกอบคำอธิบายคือ กำไรจะเกิดขึ้นสอดคล้องตามกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น

เรียกว่าเห็นดาว เห็นเดือนอยู่แค่เอื้อมมือคว้าเท่านั้น

ความมั่นใจที่ดูหาญกล้าดังกล่าว ไม่ใช่การขายฝัน เพราะหากพิจารณาข้อเท็จจริงทางธุรกิจของ TPCH แล้ว จะพบว่า ความมั่นใจของเชิดศักดิ์ ไม่ใช่… มโนนึกเอาเอง

เริ่มตั้งแต่โครงการที่มีอยู้ปัจจุบัน บริษัทมีโครงการโรงไฟฟ้าทั้งสิ้นที่ทำ PPA (สัญญาขายไฟ)  จำนวน 11 โครงการ กำลังการผลิตรวม 142 เมกะวัตต์ (MW) แบ่งออกเป็น โครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลจำนวน 10 โครงการ กำลังการผลิต 132 เมกะวัตต์ และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ จำนวน 1 โครงการ กำลังการผลิตรวม 10 เมกะวัตต์

ในจำนวนนี้ มีโครงการที่บันทึกรายได้จริงไปแล้ว หรือดำเนินการผลิตไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) แล้ว จำนวนแค่ 30 เมกะวัตต์ ได้แก่ โรงไฟฟ้าช้างแรก ไบโอเพาเวอร์ (CRB), โรงไฟฟ้าชีวมวลแม่วงศ์ เอ็นเนอยี่ (MWE) และโรงไฟฟ้าชีวมวลมหาชัย กรีน เพาเวอร์ (MGP) นอกจากนี้ ภายในเดือนก.ย.นี้ จะมีการ COD โรงไฟฟ้าชีวมวลทุ่งสัง กรีน (TSG) กำลังการผลิต 10 เมกะวัตต์

ผลลัพธ์คือ สิ้นปี 2559 บริษัทมีโครงการที่ COD ทั้งสิ้น 40 เมกะวัตต์ตามเป้าหมายที่วางไว้ ก็จะส่งผลให้รายได้ปีนี้เติบโตกว่า 200% จากปี 2558 ที่มีรายได้ประมาณ 322 ล้านบาท

รายได้ที่โตขนาดนี้ กำไรจะเท่าไหร่ (แม้จะบอกไม่ได้ เพราะผิดกติกา) ก็คาดเดาไม่ยากว่าจะเพิ่มขึ้นมากหรือน้อย

สำหรับโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างรอรับรู้รายได้ในอนาคต ในขณะนี้มีจำนวน 30 เมกะวัตต์ จาก 3 แห่ง ได้แก่ โรงไฟฟ้าชีวมวลทุ่งสัง กรีน (TSG), โรงไฟฟ้าชีวมวลพัทลุง กรีน เพาเวอร์ (PGP) และ โรงไฟฟ้าชีวมวลสตูล กรีน เพาเวอร์ (SGP) …. ทั้งหมดอยู่ในภาคใต้ตอนล่าง

ส่วนที่เหลือ มีสัญญาขายไฟแล้ว แต่ถือว่าเป็นโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา รวมจำนวน 82 เมกะวัตต์ ได้แก่ โรงไฟฟ้าชีวมวล ปัตตานี กรีน (PTG), โรงไฟฟ้า ทีพีซี เพาเวอร์ 1 (TPCH 1), โรงไฟฟ้า ทีพีซี เพาเวอร์ 2 (TPCH 2), โรงไฟฟ้า ทีพีซี เพาเวอร์ 5 (TPCH 5) และโรงไฟฟ้า สยาม พาวเวอร์ (SP)

เรียกว่าที่ยังไม่ได้ทำนั้นใหญ่กว่าที่ทำไปแล้ว และกำลังทำเยอะ…. ยิ่งทำ ยิ่งชำนาญ และใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ

ยัง… แค่นี้ยังไม่เพียงพอ เดินหน้าแล้ว ย่อมไม่มีถอย

TPCH มีแผนวาดฝันระยะยาว ที่จะเพิ่มกำลังการผลิตโรงไฟฟ้าชีวมวลให้ได้ 200 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ 50  เมกะวัตต์  ภายในปี 2563

วาดฝันดังกล่าว ไม่เลื่อนลอยอีก เพราะเชิดศักดิ์บอกว่า ช่วงต้นปี 2560 จะมีการเปิดประมูลโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลอีก 400 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าพลังงานขยะอีก 100 เมกะวัตต์ ทำให้ผู้บริหารมองเห็นโอกาสสำคัญที่จะเพิ่มกำลังการผลิต โดยยังคงจะเข้าไปประมูลในพื้นที่ภาคใต้เป็นหลัก รวมถึงยังอยู่ระหว่างเจรจาเพื่อลงทุนโรงไฟฟ้าชีวมวลในประเทศ อีก 2-3 แห่ง ซึ่งจะสรุปความชัดเจนได้ภายในปีนี้

การที่ TPCH เน้นภาคใต้มากเป็นพิเศษ เพราะว่านอกจากเป็นพื้นที่ซึ่ง “ถนัดกว่าปกติ” แล้ว ยังเป็นเพราะพื้นที่ดังกล่าวเหมาะกับการผลิตไฟฟ้าจากชีวมวล ไม่มีโซลาร์ฟาร์มมาแย่งความสนใจแต่อย่างใด

วิสัยทัศน์ที่เน้นรายละเอียดในประเทศยังถือว่าเรื่องเล็ก เพราะมุมมองของ TPCH เริ่มข้ามพรมแดนไปที่เพื่อนบ้านมากขึ้น โดยมีการเตรียมความพร้อมลงนามบันทึกข้อตกลงความเข้าใจเบื้องต้น (MOU) กับสปป.ลาว เพื่อศึกษาการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ กำลังการผลิต 80 เมกะวัตต์ ภายในเดือนต.ค.นี้ โดยหลังจากเซ็น MOU สำเร็จจะใช้เวลาศึกษาทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) 1-2 ปี และคาดจะ COD ได้ภายในระยะเวลา 4-5 ปี

ทั้งหมดนี้ยังไม่รวมโครงการค้างท่ออย่าง กรณีที่บริษัทเป็นหนึ่งในบริษัทที่ผ่านการคัดเลือกจากคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ให้เป็นผู้ดำเนินการลงทุนโรงไฟฟ้าชีวมวลจำนวน 3 โครงการ กำลังการผลิตรวม 26.10 เมกะวัตต์ สำหรับพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (จ.ปัตตานี, จ.ยะลา, จ.นราธิวาส) และ 4 อำเภอในจังหวัดสงขลา (อ.จะนะ, อ.เทพา, อ.สะบ้าย้อย, อ.นาทวี) อีกต่างหาก

ความมั่นใจของเชิดศักดิ์ จึงไม่ใช่ความมั่นใจสไตล์ สมรักษ์ คำสิงห์แน่นอน

“อิ อิ อิ”

หากย้อนกลับไปดูตัวเลขงบการเงินของ TPCH จะพบว่า ในแง่รายได้ ถือว่าจิ๊บจ๊อยมาก เพราะครึ่งแรกปีนี้ มีรายได้แค่ 291.31  ล้านบาท แต่กำไรไม่ธรรมดาเพราะมากถึง 81.46 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิมากถึง 27% ระดับหัวแถวของบริษัทจดทะเบียนทีเดียว

ที่สำคัญบริหารเงินสดได้ดี มีหนี้สินน้อยกว่าส่วนผู้ถือหุ้น เพียงแต่อาจจะมีจุดตำหนิว่าพี/อีที่ระดับ 56.6 เท่า นั้นสูงเกินมาตรฐาน เพราะราคาวิ่งเร็วกว่ากำไรอย่างช่วยไม่ได้ แต่ถ้ามองจากพัฒนาการแล้ว ราคาหุ้นที่ระดับ 17 บาทเศษยามนี้ เคยมีค่าพี/อีเมื่อ 9 เดือนก่อนมากถึง 401 เท่า ก็ถือว่าราคาไม่วิ่งเลยเมื่อเทียบกับกำไร…. ด้วยซ้ำ

ความมั่นใจว่าจะมีรายได้-กำไรนิวไฮชนิด ดีซ้ำซากอีกหลายไตรมาส อาจจะดูน่าเบื่อ สำหรับคนอื่น หรือนักวิเคราะห์…. แต่ไม่น่าเบื่อแน่สำหรับนักลงทุนที่ถือหุ้น TPCH

รวมทั้งคนถือหุ้นบริษัทแม่อย่าง TPOLY ด้วย เพราะมีลูกกตัญญู ที่ให้ไข่เป็นทองคำทุกไตรมาส

หุ้นอย่างนี้ เขาเรียกว่า….. นิวไฮ จนชิน มากกว่า

ทราบแล้วเปลี่ยน!!!!!!!

Back to top button