BEM:สีน้ำเงินส่วนขยายไม่ล่าช้าอีกต่อไปเป็นโอกาสซื้อหุ้นรอบใหม่เป้า 8.20 บาท

BEM ผลเบื้องต้นในการประชุมของคณะกรรมการในการให้บริษัทมาบริหารรถไฟฟ้าสีน้ำเงินส่วนขยาย คือขยายเวลารถไฟฟ้าสายปัจจุบันเป็นปี 2592 จากเดิมเป็น 2573 หรือขยายเวลาเพิ่มอีกถึง 19 ปี รวมทั้งเงื่อนไขต่างๆในการบริหารรถไฟฟ้าสีน้ำเงินส่วนขยาย ซึ่งผลตอบแทนจะเป็น Net Cost PPP นั่นคือ BEM จะได้ประโยชน์และผูกความเสี่ยงแปรไปตามจำนวนผู้โดยสาร หรือมีการได้รับส่วนแบ่งรายได้จากรายได้การให้บริการโดยสารนั่นเอง นั่นคือจะมีการเจรจากับ BEM ในสัปดาห์นี้สำหรับเรื่องนี้ กรอบเวลาการเจรจาจะต้องแล้วเสร็จภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันเริ่มเจรจาทั้งนี้ประมาณการของเราได้ครอบคลุมเรื่องการขยายเวลาสัมปทานข้างต้นแล้ว ดังนั้นจึงไม่มีผลกับราคาพื้นฐานในปัจจุบัน แต่มีข้อดีคือ มีความชัดเจนในเรื่องที่ BEM จะสามารถเริ่มดำเนินการเกี่ยวกับบริหารรถไฟฟ้าสีน้ำเงินส่วนขยายโดยไม่มีความล่าช้าอีกต่อไปแนะซื้อ


บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(19 ก.ย.) ว่า บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ผลเบื้องต้นในการประชุมของคณะกรรมการในการให้บริษัทมาบริหารรถไฟฟ้าสีน้ำเงินส่วนขยาย คือขยายเวลารถไฟฟ้าสายปัจจุบันเป็นปี 2592 จากเดิมเป็น 2573 หรือขยายเวลาเพิ่มอีกถึง 19 ปี รวมทั้งเงื่อนไขต่างๆในการบริหารรถไฟฟ้าสีน้ำเงินส่วนขยาย

ซึ่งผลตอบแทนจะเป็น Net Cost PPP นั่นคือ BEM จะได้ประโยชน์และผูกความเสี่ยงแปรไปตามจำนวนผู้โดยสาร หรือมีการได้รับส่วนแบ่งรายได้จากรายได้การให้บริการโดยสารนั่นเอง นั่นคือจะมีการเจรจากับ BEM ในสัปดาห์นี้สำหรับเรื่องนี้ กรอบเวลาการเจรจาจะต้องแล้วเสร็จภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันเริ่มเจรจา

ทั้งนี้ประมาณการของเราได้ครอบคลุมเรื่องการขยายเวลาสัมปทานข้างต้นแล้ว ดังนั้นจึงไม่มีผลกับราคาพื้นฐานในปัจจุบัน แต่มีข้อดีคือ มีความชัดเจนในเรื่องที่ BEM จะสามารถเริ่มดำเนินการเกี่ยวกับบริหารรถไฟฟ้าสีน้ำเงินส่วนขยายโดยไม่มีความล่าช้าอีกต่อไป

สำหรับเรื่องผู้โดยสาร (ridership) รถไฟฟ้าสายสีม่วง ขณะนี้ได้ปรับตัวดีขึ้น 10% มาเป็น 22,000 เที่ยวคนต่อวัน หลังจากมีการลดราคาตั๋วโดยสารมาตั้งแต่ 1 ก.ย.59 ในอัตรา 50% แต่ไม่รวมค่าแรกเข้า 14 บาท นั่นคือ ราคาค่าโดยสารสูงสุดปรับลดจาก 42 บาท เป็น 29 บาท แม้อัตราการเพิ่มผู้โดยสารได้ต่ำกว่าเป้าที่ 30% แต่คาดว่าในระยะกลาง-ยาว จะทยอยปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะรอยต่อ 1 สถานีที่มีปัญหาคือ เตาปูนไปบางซื่อ ก็คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณครึ่งแรกปี 60 และทำให้การเดินทางสะดวกขึ้น

ปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น ซื้อ จากเดิม ถือ ด้วยราคาพื้นฐาน 8.20 บาท ซึ่งประเมินด้วยวิธี DCF หลังจากราคาหุ้นได้ปรับตัวลงมาจนน่าสนใจ จุดเด่นของ BEM คือ อัตราการเติบโตของกำไรที่ก้าวกระโดดคือปีนี้และปีหน้าในอัตรา 62%/40% เทียบเดียวกันของปีก่อน แรงผลักดันมาจากผลพวงจากการเริ่มให้บริการเดินรถไฟฟ้าสายสีม่วง เปิดให้บริการทางด่วนศรีรัชสายใหม่ วงแหวนรอบนอก และในระยะยาวก็จะมีรายได้จากการบริหารเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินที่คาดว่าจะเริ่มได้ในปี 2563

Back to top button