ดัชนี 1,500 จุดพลวัต 2016
วันนี้เป็นอีกครั้งหนึ่งที่โอกาสลุ้นดัชนีตลาดหุ้นไทยแตะ 1,500 จุด จะกลับมาให้เห็นอีกครั้ง หลังจากที่ร่วงลงไปเกือบหลุด 1,410 จุดเมื่อวันจันทร์สัปดาห์ก่อนหน้า
วิษณุ โชลิตกุล
วันนี้เป็นอีกครั้งหนึ่งที่โอกาสลุ้นดัชนีตลาดหุ้นไทยแตะ 1,500 จุด จะกลับมาให้เห็นอีกครั้ง หลังจากที่ร่วงลงไปเกือบหลุด 1,410 จุดเมื่อวันจันทร์สัปดาห์ก่อนหน้า
การแกว่งตัวกลับจากขาลงกะทันหันเป็นขาขึ้นต่อเนื่องนานถึง 5 วันทำการ (ซึ่งถือว่าผิดปกติอย่างมาก) ภายในเวลาไม่ถึง 2 สัปดาห์ นอกจากสะท้อนความรวดเร้วแล้ว ยังมีนัยอีกว่า แรงเหวี่ยงของโมเมนตัมของดัชนีตลาดหุ้นไทยนั้น ยังมีทิศทางโน้มไปทางขาขึ้นที่ชัดเจนมากกว่าขาลง
การแกว่งตัวเมื่อเช้าวานนี้ในตอนเปิดตลาด และในตอนบ่ายได้มีแรงวื้อกลับเข้ามา ทำให้ดัชนีบวกต่อมากถึง 13.66 จุด แต่ขาขึ้นดังกล่าวมีรายละเอียดน่าสนใจหลายประการที่ต้องกล่าวถึงเพื่อความไม่ประมาทจนเกินไป ว่ายังมีเงื่อนไขเชิงลบปรากฏให้เห็นอยู่ พียงแต่ถูกกลบด้วยแรงซื้อที่ฉาบหน้าเท่านั้นเอง
การที่ต่างชาติขายสุทธิอย่างหนักในทั้งในตลาดหุ้นหลัก (ขายสุทธิ 3,441 ล้านบาท) และขายล่วงหน้าในตลาดอนุพันธ์ (ชอร์ต 1.2 หมื่นสัญญา) บ่งบอกว่าต่างชาติก็ไม่ได้กระทำตามที่นักวิเคราะห์พยายามประโคมความมั่นใจสุดขีดว่า ต่างชาติยังคงเข้ามาทำแครี่ เทรด ในตลาดหุ้นไทยต่อไปอีกยาวนานหลายเดือน แม้เฟดฯจะยังขึ้นดอกเบี้ย เพราะผลตอบแทนของหุ้นไทยยังสูงกว่าประเทศอื่น เสมอไป
นอกจากนั้น เมื่อวานนี้ หากหักมูลค่าซื้อขายของหุ้น JAS และ JAS-W3 มากถึง 1.9 หมื่นล้านบาท แล้ว จะพบว่ามูลค่าซื้อขายในตลาดหุ้นไทยในหุ้นทั้งหมดของตลาด จะมีเพียงแค่ 4.7 หมื่นล้านบาทนั้น ไม่ได้มากมายอะไร แต่กลับหดตัวเสียด้วยซ้ำ
ที่สำคัญหุ้นที่โดดเด่นเมื่อวานนี้ นอกจาก JAS แล้วก็เป็นหุ้นในกลุ่มสื่อสารอื่นที่ฉกฉวยโอกาสจากข่าวของ JAS ทำการดันราคาขึ้นสูงชั่วคราว ไม่ว่าจะเป็น TRUE หรือ ADVANC หรือ DTAC ทั้งที่ไม่ได้มีเรื่องใหม่ที่เปลี่ยนแปลงพื้นฐานของกิจการแต่อย่างใด
ความเปราะบางของดัชนีตลาดหุ้นไทยยามนี้ที่ดัชนีใกล้จะถึงแนวต้าน 1,500 จึงมีความหมายที่ไม่ธรรมดา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเงียบเชียบของเกมตัวเลขที่เฟดฯจะตัดสินใจลงมติครั้งสำคัญของปีนี้ว่า จะตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเมื่อสิ้นสุดการประชุมในเช้าวันศุกร์ของไทย ตามด้วยมติของการประชุมธนาคารกลางของญี่ปุ่น ทั้งสองกรณีล้วนมีผลให้ตลาดหุ้นผันผวนได้ง่ายมาก
นักวิเคราะห์ “โลกสวย” หลายสำนักในตลาดหุ้นไทยที่มั่นใจเกินเหตุว่า เฟดฯไม่มีทางจะขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ มีอิทธิพลต่อแรงซื้อในตลาดหุ้นไทยในระยะสั้นอย่างมากพอสมควร เพราะพวกเขาสามารถขายความฝันที่สวยหรูว่า ตลาดหุ้นไทยจะยังเป็นขาขึ้นอีกนาน ตราบใดที่ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยในตลาดเงินของไทยยังเปิดช่องให้กองทุนต่างชาติเข้ามาทำแครี่ เทรด ต่อไปได้อีกหลายเดือน
มุมมองเช่นนี้ ลืมไปว่า ปัจจัยบวกของเศรษฐกิจสหรัฐฯที่เอื้อต่อการขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย เพื่อป้องกันฟองสบู่ในสหรัฐฯจากการที่อัตราดอกเบี้ยต่ำเกิน ยังเป็นปัจจัยบวกที่จะทำให้สายเหยี่ยวของเฟดฯสามารถกำหนดโมเมนตัมในการประชุมได้
ขณะที่นักวิเคราะห์ไทยบางส่วน ก็ยังคาดหวังว่าธนาคารญี่ปุ่น จะเพิ่มการผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติม ไม่ว่าจะลดดอกเบี้ยนโยบายให้ติดลบมากขึ้น หรือเพิ่มวงเงินคิวอี แม้นโยบายการเงินด้วยรูปแบบเดิมข้างต้น อาจไม่ส่งผลบวกมากนักต่อตลาดหุ้น อาจจะมีผลให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวขึ้นต่อไปทดสอบแนวต้าน 1,500 จุด
นอกจากนั้น ยังมีความเชื่อเพิ่มเติมอีกว่า แรงซื้อกลับของนักลงทุนสถาบัน ที่เริ่มทยอยเปิด ทริกเกอร์ฟันด์ กองใหม่ จะมีผลพยุงหรือประคองตลาดไม่ให้ร่วงลงไปอีก จากแรงวื้อในหุ้นบลูชิพสำคัญที่มีผลต่อดชันีตลาด
ส่วนราคาน้ำมันดิบนั้น ข่าวดีเมื่อค่ำวานนี้ที่มาจากกลุ่มโอเปกอาจจะทำให้ตลาดน้ำมันทั่วโลกได้เริงร่าและพยุงตลาดหุ้นได้อีก โดยนายนิโคลัส มาดูโร ประธานาธิบดีเวเนซุเอลา กล่าวว่า โอเปกและประเทศนอกกลุ่มโอเปก กำลังใกล้ที่จะบรรลุข้อตกลงเพื่อรักษาเสถียรภาพในตลาดน้ำมัน โดยคาดว่าจะมีการประกาศข้อตกลงภายในเดือนนี้ สอดรับกับคำกล่าวของนายฮัสซัน โรฮานี ประธานาธิบดีอิหร่าน ที่ระบุว่า อิหร่านสนับสนุนการดำเนินการที่จะรักษาเสถียรภาพของตลาดน้ำมันโลก และผลักดันราคาขึ้น ในการประชุมกันในวันที่ 26-28 ก.ย.นี้ ซึ่งเป็นการประชุมนอกรอบการประชุมพลังงานระหว่างประเทศ (IEF) ที่แอลจีเรีย โดยที่ประชุมจะหารือการตรึงกำลังการผลิต เพื่อรักษาเสถียรภาพของราคาน้ำมัน
มุมมองนักวิเคราะห์นั้น เป็นสิ่งที่วอเรน บัฟเฟต เคยเตือนนักลงทุนมานักต่อนักแล้วว่า เมื่อใดก็ตามที่นักวิเคราะห์พูดไปในทิศทางเดียวกันถึงภาวะกระทิงในอนาคตอันใกล้ อาจจะต้องถึงเวลาขายกันไว้เพื่อความปลอดภัย
วันนี้ อาจจะเป็นช่วงเวลาพิสูจน์อีกครั้งว่า 1,500 จุดที่นักวิเคราะห์ไทยสาย “โลกสวย” พากันมั่นใจว่าแนวต้านนี้จะถูกทะลวงผ่านได้ง่ายดายเพราะฟันด์โฟลว์ต่างชาติ จะเป็นไปตามนั้นหรือไม่