JAS ปริศนา….เกมราคาแฉทุกวัน ทันเกมหุ้น

นายพิชญ์ โพธารามิก ผู้ถือหุ้นใหญ่ ซีอีโอ และกรรมการผู้จัดการ บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ  JAS  น่าจะนอนกอดตำราของ อัลเฟรด แรพพาพอร์ท เรื่องของมูลค่าผู้ถือหุ้นแทนหมอนข้าง  พฤติกรรมวิศวกรรมการเงินส่วนใหญ่ จึงมุ่งไปที่จุดนี้เป็นสำคัญ

ล่าสุด การทำคำเสนอซื้อของเสี่ยพิชญ์ ก็ทำให้มูลค่าผู้ถือหุ้นของ JAS กระฉูดอีกครั้ง

ก่อนเปิดตลาด วานนี้ JAS ได้เผยแพร่มติคณะกรรมการบริษัทเช้าวันที่ 19 กันยายน 59  รับทราบการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของ JAS  โดยนายพิชญ์ โพธารามิก ซึ่งมีธนาคารไทยพาณิชย์ เป็นผู้จัดเตรียมทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ และเป็นผู้สนับสนุนทางการเงินสำหรับการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของบริษัท ภายในวงเงินไม่เกิน 42,500 ล้านบาท

สำหรับราคาทำคำเสนอซื้ออยู่ที่ 7.25 บาทต่อหุ้นสามัญ  และ 3.68 บาท ต่อใบสำคัญแสดงสิทธิ JAS-W3  โดยคาดว่าจะสามารถยื่นคำเสนอซื้ออย่างเป็นทางการ ในวันที่ 28 กันยายน 2559

ก่อนหน้าที่จะทำคำเสนอซื้อ เสี่ยพิชญ์ ถือครองหุ้น JAS ในมืออยู่แล้ว จำนวน 1,844,046,870 หุ้น และ JAS มีหุ้นซื้อคืนอยู่จำนวน 1,200,000,000 หุ้น โดยเหลือจำนวนหุ้นที่จะเสนอซื้อ 4,091,732,612 หุ้น

นอกจากนี้ ผู้ทำคำเสนอซื้อมีใบสำคัญแสดงสิทธิ JAS-W3 จำนวน 553,944,543 หน่วย โดยเหลือจำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิ JAS-W3 ที่จะเสนอซื้อจำนวน 2,733,604,634 หน่วย รวมมูลค่าที่เสนอซื้อทั้งหมด 39,724,726,490 บาท 

ตามประสาผู้ช่ำชอง…คณะกรรมการบริษัทรู้ดีว่า ข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลสำคัญซึ่งอาจมีผลกระทบต่อการตัดสินใจของนักลงทุน จึงเสนอให้ตลาดฯ หยุดการซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัท เป็นระยะเวลา 1 ชั่วโมง

บังเอิญตลาดไม่ได้คิดเหมือนกัน มองว่า ข้อเสนอของ JAS นั้น อำพรางข้อมูล เพราะ…ไม่ได้เปิดเผยว่า บริษัทจะยังคงเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนหรือไม่

ผลลัพธ์คือ ตลาดฯสั่งการให้หุ้น JAS หยุดการซื้อขายชั่วคราว หรือ H ในช่วงเช้า จนกว่าจะชี้แจงให้ชัดเจน

เวลา 11.45 น. หุ้น JAS กลับมาซื้อขายตามเดิม หลังจาก JAS ยืนยันกับตลาดฯว่าไม่มีแผนออกจากตลาดฯ

เมื่อกลับมาเทรดได้ ราคาหุ้น JAS ถูกแรงซื้อดันราคาไปที่ราคาที่เสี่ยพิชญ์ขอทำเทนเดอร์ ทั้งหุ้นแม่ ที่ 7.25 บาท  และ วอร์แรนต์ ที่ราคา 3.68 บาท เกือบตลอดทั้งวัน

มูลค่าซื้อขายทั้งวัน มากถึง  สำหรับหุ้นแม่ JAS ที่ระดับ 16,358.68 ล้านบาท และวอร์แรนต์ JAS-W3 ที่ระดับ 2,907.01 พันล้านบาท รวมแล้วมากถึง 19,268.69 ล้านบาท …คิดเป็นสัดส่วน 31.78% ของทั้งตลาดวานนี้  

การทำคำเสนอซื้อครั้งนี้ เสี่ยพิชญ์ไม่ได้ควักเงินส่วนตัวจากกระเป๋าเลย แต่ใช้เงินกู้เครดิตไลน์จากธนาคารไทยพาณิชย์ในฐานะผู้ให้การสนับสุนนเต็มตัว..เป็นเครดิตไลน์ที่มากที่สุดอีกครั้งสำหรับบุคคลเดียว

ที่สำคัญ นี่คือการประกาศ “สร้างดาวคนละดวง” ที่ถือเป็นการตัดบัวไม่เหลือเยื่อใย ระหว่าง JAS กับ ธนาคารกรุงเทพ ที่เกื้อหนุนกันยาวนาน….อย่างเป็นทางการ

จุดเด่นของคำเสนอซื้อนี้ ทำให้เสี่ยพิชญ์รอดพ้นคำครหาว่า ทำการล้างผลาญเงินกำไรสะสมของบริษัทอย่างไร้ค่า แทนที่จะนำไปก่อเกิดประโยชน์สร้างรายได้และกำไร ..หรือเอาไปใช้หนี้ที่มีมากถึง กว่า 4 เท่าของส่วนผู้ถือหุ้น

ไม่มีเงิน แต่แบงก์ยินดีปล่อยกู้…ไม่หนักหัวใครอยู่แล้ว…ไช่ม้ายยยยยยย

ส่วนปริศนาที่ยังไม่ได้เฉลย มีคนตั้งเอาไว้ 3 ประเด็นที่สำคัญคือ 1) เสี่ยพิชย์ต้องการกระชับอำนาจบริหาร 2) เสี่ยพิชญ์จะรวบหุ้นที่กระจัดกระจายไปขายต่อให้คนอื่นๆ ในราคาที่รู้กันล่วงหน้าไว้แล้ว ถึงกล้าเสนอซื้อที่ราคาสูงกว่าตลาดมา 3) เสี่ยพิชญ์จะทิ้งกิจการไปทำอย่างอื่น

ทั้งสามประเด็นข้างต้น เป็นไปได้ทั้งสิ้น แต่….ในระยะสั้นนี้ ค่อนข้างรางเลือน เพราะเสี่ยพิชญ์ยังไม่ออกมาแจ้งแถลงไขถึงเหตุจูงใจที่แท้จริง

ตั้งแต่ต้นปีนี้ JAS ให้ของขวัญผ่านวิศวกรรมการเงินแก่ผู้ถือหุ้นไปแล้ว 3 ครั้ง คือ เงินปันผลจากการดำเนินงานสิ้นงวดปี 2558 ไปแล้วหุ้นละ 0.30 บาท มีปันผลพิเศษระหว่างกาลจากกำไรสะสมสิ้นไตรมาสแรกอีกหุ้นละ 0.15 บาท และยังมีการซื้อหุ้นคืนจากผู้ถือหุ้นอีก 5.00 บาท…รวมแล้ว 5.45 บาท

ล่าสุดการทำเทนเดอร์ ไม่ว่าเสี่ยพิชญ์จะได้จ่ายเงินหรือไม่…ก็ไม่จำเป็นแล้วเพราะผู้ถือหุ้นของ JAS สามารถขนเอามาขายโดยไม่ต้องรอเทนเดอร์ในราคา 7.25 บาทอยู่แล้ว…ยกเว้นหุ้นที่ JAS ถือไว้ 16% จากการรับซื้อคืน ที่ยังขายไม่ได้ จนกว่าจะถึงกลางเดือน ธันวาคม ปีนี้

ราคาตลาดระดับนี้…เผลอๆ เสี่ยพิชญ์อาจจะไม่ต้องจ่ายเงินสักบาทเดียวเพื่อซื้อหุ้นเข้าพอร์ตส่วนตัว…หากไม่นับค่าดอกเบี้ยหรือค่าธรรมเนียมจากเครดิตไลน์ที่ธนาคารไทยพาณิชย์เปิดเอาไว้ …ซึ่งไม่ได้มากมายอะไรเลย

การทำอย่างนี้ เท่ากับยกระดับราคาหุ้น JAS จากราคาปิด 6.65 บาทเมื่อวันศุกร์..อย่างชอบธรรม…โดยที่ตลาดฯไฟเขียวโล่งตลอด…ไม่ถูกข้อหา “สร้างราคา”…ให้ผิดกติกา

ถือเป็นความสามารถพิเศษ ห้ามลอกเลียน….

“อิ อิ อิ”