TCAP เสน่ห์เหลือล้น 9 โบรกฯดังเชียร์ซื้อสนั่น!ชูเป้าสูงเกิน 50 บ.ชี้ผลงานครึ่งปีหลังโตกระฉูด

TCAP เสน่ห์เหลือล้น 9 โบรกฯเชียร์ซื้อสนั่น!! ชูเป้าสูงเกิน 50 บ. ชี้ผลงานครึ่งปีหลังโตกระฉูด เหตุตั้งสำรองฯลดลง รวมทั้งการรุกปล่อยสินเชื่อกลุ่มรถยนต์ใหม่หนุน


ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นยืนเหนือระดับ 1,500 จุด อีกครั้ง หลังขานรับผลประชุมเฟดที่ออกมาให้คงอัตราดอกเบี้ยเป็นไปตามที่ตลาดคาด ทำให้ช่วงสั้นสภาพคล่องในระบบมีมากขึ้น เม็ดเงินจึงไหลเข้าตลาดหุ้น ดังนั้นการลงทุนช่วงนี้เลยขอโฟกัสไปที่หุ้นงบฯไตรมาส 3/59 ที่คาดว่าจะออกมาดีกว่าไตรมาส 3/58 เพราะปีที่แล้วฐานต่ำ

บรรยากาศดังกล่าวทำให้ “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” มองว่าหุ้น บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TCAP เป็นหุ้นที่น่าสนใจ เนื่องจากธุรกิจมีความหลากหลายและมีแนวโน้มเติบโตโดดเด่น  เนื่องจาก TCAP เป็นบริษัทแม่ของกลุ่มธุรกิจทางการเงิน ซึ่งในกลุ่มธนชาตแบ่งประเภทการประกอบธุรกิจออกเป็น 2 กลุ่ม คือ 1) ธุรกิจทางการเงิน ซึ่งประกอบด้วย ธุรกิจธนาคารพาณิชย์ ธุรกิจบริหารสินทรัพย์ ธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกิจประกัน ธุรกิจให้เช่าซื้อ และธุรกิจลีสซิ่ง 2) ธุรกิจสนับสนุน ซึ่งประกอบด้วย ธุรกิจโบรกเกอร์ ธุรกิจบริการ และธุรกิจการพัฒนาฝึกอบรมมีความน่าสนใจอย่างมาก

อีกทั้งช่วงนี้ราคาหุ้นได้ขยับขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยวานนี้ (22 ก.ย.) ราคาหุ้นปิดที่ระดับ 41.75 บาท ทำนิวไฮในรอบ 3 ปี 3 เดือน และดูเหมือนว่าราคาหุ้นจะปรับตัวขึ้นได้อีกเพราะ 9 โบรกเกอร์ชั้นนำต่างประสานเสียงแนะซื้อด้วยราคาเป้าหมายสูงถึง 52.50 บาท พร้อมอัพไซด์เกือบ 26%

ขณะเดียวกันหุ้นรายนี้มีค่า P/E เพียง 8.53 เท่า (ณ วันที่ 21 ก.ย.) ซึ่งต่ำกว่ากลุ่มอยู่ซึ่งที่ระดับ 11.14 เท่า นอกจากนี้ค่า P/BV ยังอยู่ที่ระดับ 0.85 เท่า ที่สำคัญแนวโน้มธุรกิจครึ่งปีหลังจะโตโดดเด่นกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากมีการตั้งสำรองฯลดลง รวมทั้งการรุกปล่อยสินเชื่อกลุ่มรถยนต์ใหม่ ตรงนี้สะท้อนให้เห็นว่า TCAP เป็นหุ้นที่มีเสน่ห์เหลือล้น และคู่ควรในการเก็บเข้าพอร์ตช่วงเวลานี้อย่างชัดเจน

 

โบรกเกอร์     คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น)
เคทีบี (ประเทศไทย)   ซื้อ 52.50
โนมูระ พัฒนสิน         ซื้อ 50.00
ฟินันเซีย ไซรัส           ซื้อ 48.00
ไทยพาณิชย์              ซื้อ 48.00
แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์     ซื้อ 46.00
ฟิลลิป (ประเทศไทย)  ซื้อ 45.00
กสิกรไทย                  ซื้อ 45.00
ทิสโก้                        ซื้อ 44.00
แอพเพิล เวลธ์            ซื้อ 44.00

 

นายอดิสรณ์ มุ่งพาลชล ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังของ TCAP จะดีขึ้น จากค่าใช้จ่ายในการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญลดลง หลังจากที่ในช่วงครึ่งปีแรกบริษัทได้ตั้งสำรองพิเศษ และการเร่งลดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) เพื่อเพิ่มอัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverage ratio) ให้ได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ที่ 125% ซึ่งเป็นระดับที่เพียงพอที่จะรองรับความเสี่ยงได้

โดยยังคงการคาดการณ์กำไรสุทธิของบริษัทในปี 59 อยู่ที่ 5.9 พันล้านบาท หรือเติบโต 8.8% จากปีก่อน และปี 60 คาดว่าจะมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 6.6 พันล้านบาท หรือเติบโต 11.3% จากปีนี้ ซึ่งปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากค่าใช้จ่ายในการตั้งสำรองฯที่ลดลง ขณะที่การปล่อยสินเชื่อของบริษัทยังคงได้รับผลกระทบจากยอดขายรถยนต์ใหม่ในประเทศที่ยังไม่ฟื้นตัว แต่ในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทหันไปให้สินเชื่อประเภทอื่นเพื่อชดเชยสินเชื่อรถยนต์ใหม่ คือ การเน้นปล่อยสินเชื่อรถยนต์มือสองที่เริ่มมีการฟื้นตัวขึ้น ซึ่งอาจจะช่วยให้สินเชื่อของบริษัทในปีนี้หดตัวลงเพียงเล็กน้อย

 

นางสาวสุนันทา วสะภิญโญกุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส เปิดเผยว่า แนวโน้มกำไรของ TCAP ในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากครึ่งปีแรกราว 8-10% จากการตั้งสำรองค่าเผื้อหนี้สงสัยจะสูญที่จะลดลงและกลับสู่ระดับปกติที่ 0.65-0.7% ของสินเชื่อรวม ซึ่งการที่ตั้งสำรองฯลดลงนั้นเป็นผลมาจากการที่ Coverage ratio ของบริษัทสามารถทำได้ตามเป้าหมายแล้วที่ 125% พร้อมทั้งคาดว่ากำไรสุทธิของบริษัทในไตรมาส 3/59 คาดว่าจะอยู่ที่ 1.5 พันล้านบาท เติบโต 2.3% จากไตรมาส 2/59 และเติบโต 10% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

อย่างไรก็ตาม ได้ปรับประมาณการกำไรสุทธิในปีนี้ลดลง 7.6% มาอยู่ที่ 5.8 พันล้านบาท แต่ยังเติบโต 7.9% จากปีก่อน เพราะค่าใช้จ่ายจากการลงทุนระบบเทคโนโลยีและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังมีโอกาสที่จะเพิ่มขึ้นจากครึ่งปีแรก ส่งผลให้บริษัทจะมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น ขณะที่รายได้จากค่าธรรมเนียมจะทำได้แค่ทรงตัวจากปีก่อน จากเดิมที่คาดว่าจะเติบโต 5% จากปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากการปล่อยสินเชื่อของบริษัทที่จะติดลบ 3% ในปีนี้ จากเดิมที่คาดว่าขยายตัวได้ 1% เนื่องจากยังไม่เห็นการฟื้นตัวของยอดขายรถยนต์ใหม่

 

นักวิเคราะห์บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุว่า บริษัทได้ปรับประมาณการกำไรของ TCAP ในปี 59-60 เพิ่มขึ้นจากเดิม 7% และ 9% มาที่ระดับ 6.14 พันล้านบาท และ 6.59 พันล้านบาทตามลำดับ จากค่าใช้จ่ายในการตั้งสำรองฯที่ลดลงในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ โดยส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการตั้งสำรองในปีนี้จะลดลงเหลือ 6 พันล้านบาท จากเดิมที่ 6.5 พันล้านบาท และในปีหน้าคาดว่าจะลดลงเหลือ 4.5 พันล้านบาท จากเดิมที่ 5.5 พันล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจาก Coverage ratio ที่อยู่ในระดับเป้าหมาย 125% จากการตั้งสำรองพิเศษในช่วงครึ่งปีแรก และแนวโน้ม NPL ที่ปรับตัวลดลงมาต่อเนื่องถึง 8 ไตรมาสติดต่อกัน

สำหรับการขยายตัวของสินเชื่อของบริษัทนั้นยังคงมีความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับยอดขายรถยนต์ในประเทศที่มีแนวโน้มหดตัวต่อเนื่อง และยังไม่เห็นสัญญาณการฟื้นตัวขึ้นอย่างชัดเจน ทำให้คาดการณ์การว่าสินเชื่อในปี 59 จะทรงตัว และในปี 60 คาดว่าจะเห็นการขยายตัวของสินเชื่อเพียง1%

 

TCAP20160923

กราฟประกอบข่าว Aspen : ราคาปิด ณ วันที่ 22 ก.ย.59

Back to top button