PRIN แจ่ม

PRIN จะมีความสามารถรักษาผลกำไรสุทธิให้กลับมาเติบโตอู้ฟู่ดังในอดีต อย่างช่วงปี 2555 โดยบริษัททำกำไรสุทธิจำนวน 354.24 ล้านบาท รวมถึงในปี 2556 บริษัททำกำไรสุทธิจำนวน 191.80 ล้านบาท


—คุณค่าบริษัท—

 

เชื่อว่าผลการดำเนินงานของ บริษัท ปริญสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ PRIN จะมีความสามารถรักษาผลกำไรสุทธิให้กลับมาเติบโตอู้ฟู่ดังในอดีต อย่างช่วงปี 2555 โดยบริษัททำกำไรสุทธิจำนวน 354.24 ล้านบาท รวมถึงในปี 2556 บริษัททำกำไรสุทธิจำนวน 191.80 ล้านบาท

ขณะที่ในปี 2557 บริษัททำกำไรสุทธิจำนวน 74.50 ล้านบาท และในปี 2558 บริษัททำกำไรสุทธิจำนวน 66.40 ล้านบาท สำหรับในปี 2557-2558 แม้ว่าบริษัทจะมีการทำกำไรลดลงพอสมควร แต่ข้อดี คือ บริษัทยังรักษากำไรสุทธิได้อยู่กับในช่วงภาวะเกิดวิกฤตทางการเมือง

กระทั้งมาถึงในช่วงปี 2559 ทุกอย่างดีขึ้น ทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้นไปในทิศทางบวก ส่งผลให้บริษัททำผลงานได้ดีขึ้นจากการขายโครงการบ้านและคอนโดเพิ่มมากขึ้น  ซึ่งดูได้จากผลการดำเนินงานไตรมาส 2 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2559 ซึ่งเป็นช่วงที่บริษัทกลับมาฟูเฟื่องอีกครั้ง สามารถมีรายได้รวมขยับขึ้นมาอยู่ที่ 885.76 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 559.02 ล้านบาท ส่งให้บริษัทพลิกมีกำไรมาอยู่ที่ 73.95 ล้านบาท หรือ 0.06 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุน 38.69 ล้านบาท หรือ 0.03 บาทต่อหุ้น

ส่วนผลการดำเนินงานงวดหกเดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2559 บริษัทมีรายได้รวมขยับขึ้นมาอยู่ที่ 1,518.98 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 1,154.73 ล้านบาท ล้วนมาจากรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้น ส่งผลให้บริษัทพลิกมีกำไรมาอยู่ที่ 117.40 ล้านบาท หรือ 0.10 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุน 37.87 ล้านบาท หรือ 0.03 บาทต่อหุ้น  ซึ่งเห็นถึงความสามารถในการทำกำไรอย่างชัดเจน

สิ่งสำคัญ ผู้บริหารระบุอีกว่า แนวโน้มผลประกอบการในช่วงครึ่งหลังของปี 2559 จะมีการเติบโตต่อเนื่อง โดยได้รับอานิสงส์จากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่ทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งในช่วงที่เหลือของปีนี้เตรียมเปิดใหม่ 4 โครงการ มูลค่า 2,450 ล้านบาท ประกอบด้วย ทาวน์เฮาส์ 2 โครงการ คือ โครงการซิตี้เซนส์ พระราม 2 (ท่าข้าม) มูลค่า 1,000 ล้านบาท และโครงการซิตี้เซนส์ รังสิต มูลค่า 260 ล้านบาท

ส่วนอีก 2 โครงการ เป็นคอนโดมิเนียม คือ โครงการตลาดพลู มูลค่า 190 ล้านบาท และรัตนาธิเบศร์ มูลค่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งมีกรรมสิทธิ์ที่ดินพร้อมหมดแล้ว สามารถพัฒนาโครงการได้ทันที และมีจุดขายตั้งอยู่ที่บนทำเลที่มีศักยภาพ ทั้งนี้ มั่นใจว่ารายได้รวมในปี 2559 จะทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้อยู่ที่ 2,900 ล้านบาท ซึ่งคาดว่า 90% จะเป็นรายได้จากโครงการที่เปิดขายแล้วในปัจจุบัน

นอกจากนี้ ในระหว่างวันที่ 24-25 ก.ย.59 นี้ บริษัทฯเตรียมจัดงาน “เปิดแบบบ้านใหม่ C-SHAPE” ที่โครงการปริญญ์ สาทร-ราชพฤกษ์ บ้านเดี่ยวแนวคิดใหม่ บนทำเลศักยภาพ ใกล้รถไฟฟ้ามากที่สุดบนถนนราชพฤกษ์เพียง 1.2 กิโลเมตร จากสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส (BTS) สถานีบางหว้า หลังจากได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จากบ้าน L-SHAPE ในเฟสแรก

สำหรับโครงการปริญญ์ สาทร-ราชพฤกษ์ เป็นโครงการบ้านเดี่ยวต้นแบบของปริญสิริ ในเฟสแรกมีแบบบ้าน L-SHAPE เป็นแบบบ้าน Hilight ของโครงการ ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า และถูกพัฒนาต่อเนื่องในเฟส 2 ที่จะเปิดขายระหว่างวันที่ 24-25 ก.ย. นี้ พร้อมกับเปิดตัวแบบบ้านใหม่ C-SHAPE ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น รองรับกลุ่มลูกค้าครอบครัวใหญ่ ย่านฝั่งธน สำหรับราคาเริ่มต้นของโครงการ อยู่ที่ 12-26 ล้านบาท

ในขณะที่นักวิเคราะห์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ยังแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 1.82 บาท

 

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

1.น.ส.สิริลักษณ์ โกวิทจินดาชัย 282,646,556 หุ้น 23.17%

2.บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 90,760,337 หุ้น 7.44%

3.น.ส.สิริพันธ์ นนทสูติ 57,601,700 หุ้น 4.72%

4.น.ส.นิภา อภิรัตนรุ่งเรือง 52,558,750 หุ้น 4.31%

5.นายปริญญา โกวิทจินดาชัย 50,395,000 หุ้น 4.13%

 

รายชื่อกรรมการ

1.นาย วรภัทร โตธนะเกษม ประธานกรรมการ

2.น.ส. สิริลักษณ์ โกวิทจินดาชัย ประธานคณะกรรมการบริหาร

3.น.ส. สิริลักษณ์ โกวิทจินดาชัย กรรมการ

4.นาย อุเทน คงสุนทรกิจกุล กรรมการผู้จัดการ

5.นาย ขวัญชาย มงคลกิจทวีผล กรรมการ

Back to top button