ชู 17 บจ.เด็ด SET ยังขาดปัจจัยหนุนหุ้นค้าปลีกเด่นสุด รับการบริโภคเร่งตัว
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยยังคงผันผวนเนื่องจากขาดปัจจัยใหม่หนุน ขณะที่นักลงทุนบางส่วนชะลอการลงทุนเพื่อรอผลประชุมโอเปค รวมถึงการแถลงของเฟด การลงทุนยังเน้นกลุ่มที่ผลประกอบการไตรมาส 3/59 ออกมาดี รวมถึงกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากกรณีที่ ครม.อนุมัติมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้การบริโภคเร่งตัว
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.15 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 34.61 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลง โดยได้รับปัจจัยถ่วงจากตลาดหุ้นญี่ปุ่นที่ร่วงลง เนื่องจากการแข็งค่าของเงินเยนส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มผลประกอบการของบริษัทส่งออกญี่ปุ่น
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยยังคงผันผวนเนื่องจากขาดปัจจัยใหม่หนุน ขณะที่นักลงทุนบางส่วนชะลอการลงทุนเพื่อรอผลประชุมโอเปค รวมถึงการแถลงของเฟด การลงทุนยังเน้นกลุ่มที่ผลประกอบการไตรมาส 3/59 ออกมาดี รวมถึงกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากกรณีที่ ครม.อนุมัติมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้การบริโภคเร่งตัว
หุ้นเด่นเลือก THAI-SINGER-TNP-CPALL-BJC-KTC-THANI-INTUCH-TPCH-EA-BEAUTY-TACC-TKN-JMT-TWPC-SMPC และ TPIPL
บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (28 ก.ย.) แม้ Dow Jones (+0.74%) หลัง 1) ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ก.ย.สหรัฐฯ ดีกว่าคาดที่ 104.1 (คาด 98.8) และ 2) ผลการดีเบตครั้งแรกระหว่างระหว่างฮิลลาลี คลินตัน และโดนัลด์ ทรัมป์วานนี้ ดูเหมือนว่าฮิลลาลี ทำได้ดีกว่าและ Wall Street ชอบแนวทางของฮิลลาลีมากกว่า (ในทางสถิติการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 7 ครั้งที่ผ่านมาไม่มีหลักฐานการเกิด Pre-election rally อย่างมีนัยสำคัญ) และ 3) โอกาสการทำ Window Dressing สิ้นไตรมาส 3 ของนักลงทุนสถานบัน
อย่างไรก็ตาม ด้วย Valuation ในเชิง PE ที่สูงกว่า 16 เท่า (ค่าเฉลี่ยช่วง 2009-2016 ที่ 13.2 เท่า) ทำให้ยังประเมิน Upside ระยะสั้นจำกัดที่ 1,500-1,520 จุดเท่านั้น ขณะที่ “จุดจำกัดขาดทุน” หรือ Trailing Stop ที่สำคัญอยู่ที่ 1,486 จุด
กลยุทธ์หลักยังแนะนำแค่ “Trading” โดยกำหนด Trailing Stop ที่ 1,486 จุด ต่อไป ขณะที่ แนะนำ “ซื้อ” 1) การบริโภคเร่งตัว, กำไรไตรมาส 3/59 เด่น อย่าง CPALL BJC (ปรับน้ำหนักลงทุนกลุ่มค้าปลีกเป็น Overweight ให้ CPALL และ BJC เป็น Top Pick) 2) ได้ประโยชน์ดอกเบี้ยต่ำยาว ปันผลสูง: KTC, THANI และ INTUCH 3) กำไรเติบโตเด่นปี 2016-17 : TPCH และ EA
บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (28 ก.ย.) คาด SET เคลื่อนไหวผันผวนในกรอบจำกัดเนื่องจากตลาดยังขาดปัจจัยบวกใหม่หนุนนำและเชื่อว่านักลงทุนจะชะลอการลงทุนเพื่อรอฟังผลประชุมของกลุ่มโอเปคอย่างเป็นทางการในช่วงบ่ายของวันนี้ รวมถึงการแถลงของนางเยลเลนประธานเฟดต่อที่ประชุมสภาคองเกรสในช่วงเย็นของวันนี้
หุ้นกลุ่มพลังงานอาจจะถูกกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ลดลงแต่คาดว่าจะลดลงต่อจากนี้ไม่มากเนื่องจากราคาน้ำมันดิบได้ลดลงสะท้อนผลประชุมไปแล้ว กลุ่มธนาคารจะเริ่มเข้าสู่ช่วงของการ Preview ผลประกอบการไตรมาส 3/59 คาดกลุ่มธนาคารขนาดกลาง (TISCO TCAP) น่าจะมีทิศทางผลการดำเนินงานที่ดีกว่าหากเทียบกับกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่
ส่วนกลุ่มที่ได้ผลบวกจากประชุมครม.วานนี้ คือกลุ่มรับเหมาและวัสดุก่อสร้าง กลุ่มธุรกิจรากหญ้า (SINGER) ยังเน้นให้เข้าซื้อในกลุ่มที่แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 3/59 จะออกมาดีและมีปัจจัยบวกเฉพาะตัวอาทิ กลุ่ม อาหาร, โรงพาบาล กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบยังอยู่ในระดับต่ำอาทิ ธุรกิจการบิน และหุ้นรายตัวที่แนวโน้มผลประกอบการดี อาทิ BEAUTY, TACC, TKN, JMT, TWPC, SMPC และ TPIPL (ได้สิทธิ์ Pre-emtive ซื้อหุ้น IPO ของหุ้น TPIPP)
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Selective Buy หุ้นที่แนวโน้มไตรมาส 3/59 เติบโตดี /และมีปัจจัยบวกเฉพาะตัว
หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น : THAI (เป้า 32) มีข่าวดี FAA ปรับมาตรฐานการบินของไทยเป็น Category 1, SINGER รับผลบวกรัฐบาลแจกเงินช่วยเหลือเกษตรกร
บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (28 ก.ย.) ว่า วานนี้ ครม.ได้อนุมัติมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรในการเพิ่มรายได้และลดหนี้ ซึ่งคาดส่งผลให้กำลังซื้อเกษตรกรดีขึ้นในช่วงท้ายปี กลยุทธ์การลงทุน ยังวาง Filter แนวรับสำคัญที่ 1,480 จุด หากยืนไม่ได้ดัชนีมีโอกาสปรับฐานลง 10-20 จุด แนะนำเก็งกำไรหุ้นกลุ่มค้าปลีกที่คาดจะได้รับประโยชน์มาตรการกระตุ้นกำลังซื้อเกษตรกร เช่น CPALL, TNP และ BJC