“นายกอู้” มั่นใจ พ.ร.บ.ใหม่ดีงาม เชื่ออีกไม่นานทุกคนก็ชิน

"นายกอู้" มั่นใจ พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฉบับใหม่ ส่งผลดีแก่รายย่อย เชื่ออีกไม่นานทุกคนก็ชิน


นางภัทธีรา ดิลกรุ่งธีระภพ นายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย เปิดเผยผ่านรายการ ข่าวหุ้นเจาะตลาด ออนเรดิโอ ทาง FM 98.5 MHz สถานีข่าวจริง สปริงเรดิโอ ช่วงเวลา 9.30-11.00 น. ว่า เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (20 ก.ย.) ได้เข้าไปพูดคุยกับสำนักงาน ก.ล.ต. เกี่ยวกับ พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฉบับใหม่ โดยได้ข้อสรุปดังนี้

วัตถุประสงค์หลักที่ออก พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฉบับใหม่ คือความเท่าเทียมกันในด้านข้อมูล และอยากเห็นตัวเลขข้อมูลนั้นมีมูล ซึ่งทางการกังวลว่าข้อมูลที่เผยแพร่ออกไปนั้นจะไม่มีที่มา จึงพยายามที่จะทำให้มีมาตรฐานที่ดีขึ้น แต่ในแง่การทำงานบางครั้งไม่ชัดเจน เพราะว่านักวิเคราะห์อาชีพก็คือนักวิเคราะห์ ฉะนั้นในบางเรื่องต้องยอมรับว่ามันคือการวิเคราะห์ ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องที่คิดขึ้นมาตามพื้นฐานที่มีอยู่ แต่ก็ต้องประมาณการในเรื่องของอนาคต ซึ่งบางครั้งอาจจะตรงหรือไม่ตรง จึงทำให้เกิดความกังวลขึ้น

“โดยสิ่งที่ทางการอยากเห็นคือการมีพื้นฐาน อย่างเช่น ข้อมูลที่เอามาใช้ประกอบในการวิเคราะห์ ต้องมีที่มาที่ไป หรือมีแหล่งที่มา เพราะฉะนั้นโดยทั่วไปอาจจะต้องมีการพิสูจน์ว่าข้อมูลที่ได้มานั้นได้มาอย่างไร ซึ่งก็จะไปเกี่ยวเนื่องกับบริษัทจดทะเบียน ว่าถ้านักวิเคราะห์ได้ข้อมูลมาก็ต้องได้มาจากบริษัทจดทะเบียน ซึ่งเป็นเรื่องยากของบริษัทจดทะเบียนที่จะต้องทำให้เป็นมาตรฐาน” นางภัทธีรา กล่าว

ในขณะเดียวกันก็มีคนให้ความคิดเห็นว่า “นักวิเคราะห์ก็จะมีความแตกต่าง และทำงานในเชิงลึกมากขึ้นเพราะไม่ใช่แค่ทำหน้าที่แค่ข้อมูลที่ผู้บริหารให้เอามาใส่ในบทวิเคราะห์ แต่นักวิเคราะห์ต้องทำหน้าที่วิเคราะห์อย่างแท้จริง ส่วนในเชิงลบคือ ถ้าเขาพลาดไปพูดในสิ่งที่ยังไม่ได้เปิดเผยก็น่าลำบากใจ และในขณะเดียวกันคนที่รับข้อมูลมาก็จะโดนด้วย เพราะไปได้ข้อมูลภายในมา แล้วถ้านำไปเผยแพร่ก็จะมีความผิดเหมือนกัน” นางภัทธีรา กล่าว

ซึ่งการ Company visit ส่วนใหญ่ผู้บริหารจะต้องพูดถึงการประกอบกิจการของบริษัท โดยในอนาคตผู้บริหารอาจจะต้องระมัดระวังในการเผยข้อมูลมากขึ้น โดยข้อมูลจะต้องเป็นในเชิงทั่วไปมากกว่าเชิงลึก ซึ่งตรงนี้นักวิเคราะห์จะต้องกลับมาวิเคราะห์เอาเองว่าในข้อมูลเชิงทั่วไปนั้นจะทำให้บริษัทเติบโตในแนวไหน

โดยข้อดีคือนักลงทุนรายย่อยอาจจะได้ข้อมูลที่เป็นจริงมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันนักวิเคราห์ก็ต้องระมัดระวังในการทำวิเคราะห์ซึ่งจะต้องเอ่ยถึงแหล่งที่มาของข้อมูลด้วย

ทั้งนี้นักลงทุนทั่วไปจะได้ข้อมูลที่มีคุณภาพมากขึ้น เพราะพ.ร.บ.ฉบับใหม่ เป็นการบังคับให้บริษัทจดทะเบียนมีวินัยในการเปิดเผยข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ และป้องกันการเหลื่อมล้ำในการให้ข้อมูลกับนักลงทุนบางกลุ่ม

 

 

 

 

 

 

 

Back to top button