SET บ่ายยืนลบ ไร้ปัจจัยใหม่ชู 5 หุ้น ลุ้นกำไร H2 โตแกร่ง

SET บ่ายแกว่งตัว ไร้ปัจจัยใหม่หนุน พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,480-1,498 จุด ชู 5 หุ้น ลุ้นกำไร H2 โตแกร่ง นำโดย HANA, KCE, SVI, BEAUTY และ KTC


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงานตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ภาคเช้า (30 ก.ย.) ปรับตัวลงไม่มากเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดภูมิภาคที่ส่วนใหญ่จะติดลบราว 0.4-1.3% คาดว่าจะเจอแรง take profit เนื่องจากยังมีปัจจัยจากความไม่แน่นอนอยู่ ทั้งเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด-การเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ส่งผลให้นักลงทุนระมัดระวังการลงทุนเพิ่มขึ้น ขณะที่วอลุ่มเทรดก็กลับมาน้อยลงอีก บ่ายนี้ตลาดฯอาจจะซึมลง พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,480-1,498 จุด

 

นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.กสิกรไทย เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงไม่มาก เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่จะติดลบราว 0.4-1.3% คาดว่าจะมาจากแรง take profit หลังจากที่เมื่อวานนี้ได้ปรับตัวขึ้นไปแล้ว

ทั้งนี้ ตลาดฯยังมีปัจจัยจากความไม่แน่นอนอยู่ ทั้งความกังวลเรื่องของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และเรื่องการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯด้วย ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนระมัดระวังในการลงทุนเพิ่มขึ้น อีกทั้งวอลุ่มเทรดของตลาดหุ้นไทยวันนี้ดูจะกลับมาน้อยลงอีก แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ ตลาดฯอาจจะซึมตัวลง พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,480-1,498 จุด         

บล.ธนชาตระบุในบทวิเคราะห์ (30 ก.ย.) ว่าSET ภาคเช้าแข็งแรงกว่าที่คาด แม้ตลาดหุ้นทั่วโลกจะปรับตัวลงก็ตาม  กลุ่มพลังงานและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์แข็งแรงกว่าตลาด จากการที่ราคาน้ำมัน Brent ยังคงยืนเหนือ 49 USD/bbl และค่าเงินบาทที่เริ่มกลับมาอ่อนค่าลง อย่างไรก็ดี เรายังคงมุมมองว่า SET จะมีโอกาส “พักฐาน” ต่อได้ ในระยะ 1-3 เดือนข้างหน้า แนะนำแบ่งพอร์ตบางส่วนเพื่อใช้ “Trading” แต่ยังไม่เพิ่มน้ำหนักในพอร์ตหลัก

ในขณะเดียวกัน แนะนำ “Trading” กลุ่มหุ้นที่มีธีมเฉพาะ เช่น 1) หุ้นกลุ่ม อิเล็กทรอนิกส์ ที่ได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทอ่อน อย่าง HANA (ปันผลสูง กว่า 6%, คาดกำไรครึ่งปีหลังปีนี้จะดี) KCE (กำไรทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง) และ SVI (คาดกำไรจะฟื้นตัวในครึ่งปีหลังปีนี้) 2) กลุ่มหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการบริโภคฟื้นตัว และคาดงบครึ่งปีหลังปีนี้จะเติบโตต่อเนื่อง เช่น BEAUTY KTC

 

สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า  

PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,490.85 ล้านบาท ปิดที่ 343.00 บาท เพิ่มขึ้น  1.00 บาท

BCPG มูลค่าการซื้อขาย 1,012.20 ล้านบาท ปิดที่  11.70 บาท เพิ่มขึ้น  0.10 บาท

BDMS มูลค่าการซื้อขาย 1,011.14 ล้านบาท ปิดที่  21.90 บาท เพิ่มขึ้น  0.30 บาท

PTTEP มูลค่าการซื้อขาย   504.27 ล้านบาท ปิดที่  82.00 บาท เพิ่มขึ้น  0.25 บาท

BANPU มูลค่าการซื้อขาย   461.39 ล้านบาท ปิดที่  15.60 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

               

 

Back to top button