นั่งเทียนเขียนข่าวให้เม่าอ่าน…
นั่งเทียนเขียนข่าวให้เม่าอ่าน...
–ตามกระแสโลก–
โดย บูรพา สงวนวงศ์
สถานการณ์วันนี้ ดูเหมือนผู้มีส่วนเกี่ยวข้องหลายคนจะเห็นดีเออออกับ พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ ฉบับใหม่ เป็นอย่างมาก
แต่ไม่รู้ที่แสดงออกมานั้น เป็นเพราะกลัวถูกเพ่งเล็ง? หรือเชื่อว่ากฎหมายใหม่นี้ เป็นคุณมากกว่าโทษจริงๆ?
หลายคนมองว่า ต่อจากนี้นักวิเคราะห์คงพบความยากลำบากในการออกรีเซิร์ช ส่วนสื่อก็คงไม่รู้จะเขียนอะไร
ไม่ต้องห่วงครับ ผมพบวิธีเขียนแล้ว!! และผมจะเขียนเช่นนี้ครับ…
ผลจากการจุดเทียนแล้วเพ่งดูน้ำในบาตร พบแหล่งข่าวระดับเตี้ยรูปร่างสูง เปิดเผยว่า บริษัท ก. จำกัด (มหาชน) หรือ ก. กำลังอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการเจรจาเข้าซื้อหุ้นทั้งหมดของ บริษัท ข. จำกัด (มหาชน) หรือ ข. โดยจุดประสงค์หลักของการซื้อกิจการในครั้งนี้ เนื่องจากต้องการนำธุรกิจของ บริษัท ข. มาผนึกกำลังกับธุรกิจเดิมเพื่อเพิ่มศักยภาพในการผลิตให้สามารถออกผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายมากขึ้นได้ อีกทั้งการซื้อกิจการในครั้งนี้จะส่งผลให้ บริษัท ก. ได้รับส่วนแบ่งทางการตลาดทั้งหมดของ บริษัท ข. ซึ่งถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเป็นอย่างมากเมื่อเทียบกับมูลค่าเงินลงทุน
อย่างไรก็ตาม เนื่องจาก พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ฉบับแก้ไขปรับปรุงใหม่มีผลบังคับใช้ จึงยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่า บริษัท ก. และ บริษัท ข. คือหุ้นอะไร ทั้งนี้ นักลงทุนสามารถคาดเดาเอาเองได้ โดยใช้วิธีย้อนกลับไปหาหุ้นที่ราคาปรับตัวขึ้นมา 65% และ 60% ตามลำดับ สำหรับช่วงระยะเวลา 5 วันทำการที่ผ่านมา อีกทั้ง 2 บริษัทนี้อยู่ในกลุ่มธุรกิจเดียวกัน ตัวหนึ่งเป็นหุ้นพิมพ์นิยม มีสภาพคล่องสูงอยู่แล้ว ขณะที่อีกตัวเพิ่งมีปริมาณการซื้อ-ขายสูงเกิดขึ้นมาในช่วงระยะเวลาดังกล่าว ดังนั้นด้วยวิธีนี้ นักลงทุนคงพอหาคำตอบได้โดยสังเขป ซึ่งจะยากหรือง่ายขึ้นอยู่กับความสามารถของนักลงทุนแต่ละราย
ทั้งนี้ เพื่อความครบถ้วนสมบูรณ์ และเป็นไปตามกฏเกณฑ์ นักลงทุนควรรอให้ทั้ง 2 บริษัททำการเปิดเผยข้อมูลต่อตลาดหลักทรัพย์ฯอย่างเป็นทางการเสียก่อน ซึ่งตอนนั้น ความคลุมเครือทั้งหลายจะหายไป และนักลงทุนจะได้รับข้อมูลที่มีมาตรฐานสูงม็ากมาก อีกทั้งจะได้รับทราบอย่างชัดเจนว่า คือหุ้นอะไร อย่างไรก็ตาม กองบรรณาธิการคาดการณ์ว่า ราคาหุ้นคงปรับตัวขึ้นอีกอย่างน้อย 20-30% จนถึงวันนั้น ซึ่งถือเป็นโอกาสดีสำหรับนักลงทุนรายย่อยชาวไทย หรือที่มักเรียกกันว่า แมงเม่า เนื่องจากกำลังจะได้สัมผัสความหนาวเย็นบนยอดดอย ด้วยการเข้าไปรับหุ้นของขาใหญ่ กองทุน หรือผู้ใดที่มีสายตรงถึงผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนได้
เบื้องต้นคาดว่า บริษัททั้ง 2 แห่งจะสามารถเปิดเผยข้อมูลต่อตลาดหลักทรัพย์ฯได้ภายในสัปดาห์หน้า หลังการเจรจาจบสิ้นลง ซึ่งนักลงทุนสามารถติดตามรายละเอียดได้จากกระดานข่าวของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยท่านสามารถเดินทางไปได้ด้วยตนเอง หรือเพื่อความสะดวก ท่านสามารถเปิดดูข้อมูลได้ทาง www.set.or.th
อนึ่ง การนั่งเทียน คือ วิธีทำนายอย่างหนึ่ง โดยผู้ทำนายจะทำการจุดเทียนติดไว้ที่ขอบปากบาตรเป็นต้น จากนั้นจะเป็นการนั่งเพ่งดูน้ำในบาตร แล้วจึงทำนายไปตามลักษณะของรูปที่ปรากฏในน้ำนั้น
นี่เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งของวิธีการเขียน ภายใต้ พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ ฉบับใหม่นี้
ซึ่งผมเชื่อว่า วิธีนี้แหล่งข่าวคงไม่ได้รับความเดือดร้อน นักลงทุนเองก็ยังพอมีโอกาสได้ข้อมูลแบบเลาๆ เพื่อได้เกาะขบวนตั้งแต่เนิ่นๆ
เขียนแบบนี้ นักลงทุนรายย่อยที่รักของผมทุกท่านว่าอย่างไรบ้าง ดีไหม?
ที่แน่ๆ หลายท่านเคยพูดว่า สื่อชอบนั่งเทียนเขียน คราวนี้แหละ…ของจริง! ห้าห้าห้า
ครับ…ผมเพี้ยนไปเพราะ พรบ. ใหม่ฉบับนี้ ยังไงต้องขออภัยด้วย!!