ดันออกของ?โมนิก้าและทีมงาน

*วันนี้ “โมนิก้า” ค่อนข้างดีใจที่เห็นดัชนีทะยานขึ้นมาปิดที่ 1,509.78 จุด บวกไป 18.84 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.34 หมื่นล้านบาท เพราะแสดงให้เห็นว่า นักลงทุนรายย่อยสามารถปรับอารมณ์ให้เข้ากับสถานการณ์ได้แล้ว ซึ่งเป็นจังหวะของการเข้าทำเร็ว เพื่อเพิ่มผลตอบแทนได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย จึงขอปรบมือดังๆ ให้กับความเก่งกาจของมวลสมาชิก “ข่าวหุ้น” อีกสักครั้งพะยะค่ะ


*วันนี้ “โมนิก้า” ค่อนข้างดีใจที่เห็นดัชนีทะยานขึ้นมาปิดที่ 1,509.78 จุด บวกไป 18.84 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.34 หมื่นล้านบาท เพราะแสดงให้เห็นว่า นักลงทุนรายย่อยสามารถปรับอารมณ์ให้เข้ากับสถานการณ์ได้แล้ว ซึ่งเป็นจังหวะของการเข้าทำเร็ว เพื่อเพิ่มผลตอบแทนได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย จึงขอปรบมือดังๆ ให้กับความเก่งกาจของมวลสมาชิก “ข่าวหุ้น” อีกสักครั้งพะยะค่ะ

*เนื่องจากของมันเห็นเต็มลูกตาแบ๊วๆ ว่า กองทุนตัวแสบเข้ามาไล่เก็บหุ้น 3 พันล้านบาท ตามติดด้วยปอบผีฟ้าที่ทุ่มเงินซื้อหุ้น 1.81 พันล้านบาท ขณะที่ฝรั่งตาน้ำข้าวรินของออกมาขาย 490 ล้านบาท ส่วนแมงเม่าก็ฉวยโอกาสขายหุ้นทำกำไร 4.32 พันล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นเกมหุ้นที่ผลัดกันชิงความได้เปรียบ ซึ่งยังไม่มีใครรู้ผลอย่างเป็นทางการว่า ใครเป็นผู้ชนะเจ้าค่ะ

*สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นมาจากลูกไม้ตื้นๆ ที่นำมาใช้ในคราวนี้ กับคราวก่อนหน้านี้ “โมนิก้า” มองไม่เห็นความแตกต่างที่เกิดขึ้นแม้แต่นิดเดียว จึงขอคิดเข้าข้างตัวเองสักนิดหนึ่งว่า “ขึ้นขาย ลงซื้อ” ยังเป็นแนวทางที่ดีสำหรับพวกแมงเม่า เพราะการขึ้นมายืนเหนือระดับ 1,500 จุดท่ามกลางความคลุมเครือของเรื่องราวต่างๆ มันเป็นจังหวะของการเล่นตามน้ำแค่สั้นๆ ไม่จำเป็นต้องทุ่มสุดตัวนะคะ

*เหมือนกับแรงซื้อที่ถาโถมเข้ามาในหุ้นกลุ่มแบงก์กันอย่างถ้วนหน้า “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องจังหวะเวลาของกองทุนในประเทศเข้ามาเก็บหุ้น หลังจากขายหุ้นทำตัวเลขปิดบัญชีไปเมื่อสัปดาห์ก่อน วันนี้ถึงต้องมาไล่ซื้อคืนอย่างหนักหน่วง ซึ่งเห็นได้จากราคาหุ้น KBANK กระชากขึ้นมาปิดที่ 195 บาท บวกไป 7 บาท หรือขึ้นไป 3.70% ด้วยมูลค่า 3.23 พันล้านบาท มันเป็นการตอกย้ำเกมหุ้นภายใต้อุ้งมือกองทุนตัวแสบอย่างชัดเจน…อิอิอิ

*อีกหนึ่งจิ๊กซอว์ที่ทำให้ “โมนิก้า” มั่นใจเรื่องกองทุนตัวแสบก็คือ การทะยานขึ้นของหุ้น KTB มันเป็นอะไรที่ยืนยันเหตุการณ์ดังกล่าวได้เป็นอย่างดี ยิ่งเห็นหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 18.40 บาท บวกไป 0.60 บาท หรือขึ้นไป 3.40% ด้วยมูลค่า 1.14 พันล้านบาท ซึ่งวันนี้ปรากฏผู้ซื้อสุทธิให้เห็นกันอย่างทนโท่แบบนี้ มันไม่สามารถตีความเป็นเรื่องอื่นได้จริงๆ นะจะบอกให้

*สวย…สวย…เก๋ ไม่แพ้เจ้าอื่นๆ “โมนิก้า” ขอยกให้เป็นน้อง BEM ซึ่งเป็นหุ้นขวัญใจที่เดี๊ยนเฝ้าติดตามทุกระยะ ตั้งแต่ในช่วงที่เทกตัวขึ้นแรงๆ จนถึงจังหวะโดนถล่มหนักๆ ก็ยังเม้าท์ถึงไม่ว่างเว้น ล่าสุดเด้งขึ้นมาปิดที่ 7.35 บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 5.70% ด้วยมูลค่า 750 ล้านบาท แถมเป็นการดีดตัวขึ้นแรงวันแรกอย่างเป็นทางการ เดี๊ยนก็ต้องมองเป้าแรกบริเวณ 8 บาท เพราะของมันเคยเห็นกันมาแล้ว แถมตำราเทคนิคก็ว่าไว้อย่างนั้น หรือใครจะเถียงว่า ไม่จริง!…ก็เชิญขี้ม้าสามศอก ไปฟ้องคนที่อยู่แถวถนนวิภาวดี ก็ได้นะจ๊ะ

*จบจากเรื่องซีเรียสๆ หันมาดูเรื่องเบาๆ เพื่อเพิ่มมุมความคิดให้กับตัวเองบ้างดีกว่า และคราวนี้ก็เป็นคิวของ SMPC หุ้นดีที่มีคิววิ่งเป็นรอบๆ แถมแต่ละรอบที่กระชากขึ้นมาก็เหมือนจะไม่ไปไกล เพราะโดนถล่มจนดูเหมือนจะไปไม่ไหว แต่พอหันหลังให้ ก็แอบขึ้นทุกที ล่าสุดหุ้นขึ้นมาปิดที่ 15.60 บาท บวกไป 1.20 บาท บวกไป 8.30% วอลุ่มหนาแน่นอีกตามเคย แถมเป็นการเทรดบน P/E 15 เท่า มีแก๊ปให้เล่นอีกบานตะไทพะยะค่ะ

*เม้าท์ถึงเรื่องนี้ก็ต้องย้อนกลับมาดูที่ FSMART หุ้นเล็กพริกขี้หนูชั้นเลิศที่ไม่สามารถมองข้ามไปได้ ล่าสุดบวกต่อเป็นวันที่ 2 ก่อนจะลงเอยที่ระดับ 16.80 บาท บวกไป 1.40 บาท หรือขึ้นไป 9% ซึ่งเป็นชนวนเหตุที่ทำให้เดี๊ยนต้องมองยอดเก่า 18 บาทเป็นที่ตั้ง เพราะของมันเห็นกันอย่างแจ่มแจ้งแดงแจ๋ว่า การเติบโตของปีหน้าจะเป็นไปอย่างก้าวกระโดด วันนี้ถึงต้องถามใจผู้เล่นมองเห็นตรงนี้เหมือนกันไหม?…หากเห็นก็อย่ารีรออีกเลยนะจ๊ะ

*เช่นเดียวกับในรายของ AJD วันนี้กลับมาผงาดบนกระดานหุ้น พร้อมกับกระชากขึ้นมาปิดที่ 1.90 บาท บวกไป 0.14 บาท หรือขึ้นไป 7.95% ด้วยมูลค่า 425 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นช็อตที่คล้ายกันกับเจ้าข้างต้น แรงซื้อถึงไหลบ่าเข้ามาเป็นจำนวนมาก อีกทั้งบรรยากาศวานนี้เต็มไปด้วยแสงสีเขียวๆ ทุกซอกทุกมุม จึงเป็นจังหวะของการไล่ราคาสุดเหวี่ยง จึงขอมองยอดเก่า 2.50 บาทเป็นที่ตั้งเช่นกัน แต่มีข้อแม้ว่า วันนี้ต้องผ่านขึ้นไปยืน 2 บาทให้ได้เสียก่อนเจ้าค่ะ

*อ้าว…เดี๊ยนเกือบลืมพูดถึง TRC ไปเสียแล้ว เพราะสิ่งที่เห็นในวันนี้จะเป็นบันไดให้หุ้นไต่เพดานสูงขึ้นไปเรื่อยๆ หลังจากหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 1.39 บาท บวกไป 0.09 บาท หรือขึ้นไป 6.90% ด้วยมูลค่า 320 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือว่า หุ้นมีลุ้นไปได้ไกลกว่านี้อย่างแน่นอน หลังมีความชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ วันนี้ถึงต้องตามเล่นเป็นช่วงๆ เพื่อความปลอดภัย เพราะบรรยากาศยังไม่เปิดโล่งเต็มที่นะซี

*ป.ล. วันนี้มีหลายเรื่องที่ “โมนิก้า” ต้องไปเผือกเป็นประจำ แต่สุดท้ายก็ต้องมาติดกับดักทางความคิดของหน่วยงานบางองค์กร ซึ่งทำให้ผู้คนที่อยู่ในตลาดหุ้นกลัวจนตัวสั่นงันงกกันเป็นแถบแบบนี้ มันเป็นเรื่องที่ชาวหุ้นก่นด่ากันลับหลังเยอะแยะไปหมด และยังทำให้บรรยากาศไม่ค่อยโสภาสถาพรสักเท่าไหร่นั้น มันกลายเป็นชนวนเหตุที่ทำให้น้องโมต้องออกหน้าแทนอยู่ร่ำไป จึงถึงเวลาที่ต้องหาทางออกรวมกันแล้วล่ะตัวเอง

Back to top button