ไปทีละช็อตโมนิก้าและทีมงาน
*นักเล่นหลายรายอาจรู้สึกอึดอัดใจอย่างแรงเมื่อพบว่า การทะยานขึ้นของหุ้นหลายตัวไม่เป็นไปอย่างที่คิดไว้ ส่งผลให้ตัวเองต้องติดดอยแบบไม่ทันตั้งตัวนั้น “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องที่แฟนคลับทุกคนรู้อยู่แล้วว่า กำลังจะเกิดอะไรขึ้น! พร้อมกับคิดเข้าข้างตัวเองตลอดเวลา รวมทั้งหลงลืมเรื่องระเบียบวินัยในการลงทุน ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นในเที่ยวนี้เลยทำให้ชีช้ำกะหล่ำแฉะไงล่ะค่ะ
*นักเล่นหลายรายอาจรู้สึกอึดอัดใจอย่างแรงเมื่อพบว่า การทะยานขึ้นของหุ้นหลายตัวไม่เป็นไปอย่างที่คิดไว้ ส่งผลให้ตัวเองต้องติดดอยแบบไม่ทันตั้งตัวนั้น “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องที่แฟนคลับทุกคนรู้อยู่แล้วว่า กำลังจะเกิดอะไรขึ้น! พร้อมกับคิดเข้าข้างตัวเองตลอดเวลา รวมทั้งหลงลืมเรื่องระเบียบวินัยในการลงทุน ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นในเที่ยวนี้เลยทำให้ชีช้ำกะหล่ำแฉะไงล่ะค่ะ
*ประเด็นที่ทำให้ “โมนิก้า” ต้องหยิบยกขึ้นมาเม้าท์กันแบบยาวๆ เที่ยวนี้กลายเป็นเหตุการณ์ในอนาคตที่นักเล่นต้องอ่านเกมไปทีละช็อต ซึ่งไล่ไปตั้งแต่ผลการดีเบตอีกหนึ่งยกของ ทรัมป์-ฮิลลารี ซึ่งก็คงรู้ผลเป็นที่แน่ชัดแล้วว่า ใครมีภาษีดีกว่ากัน ถัดจากนั้นในช่วงกลางสัปดาห์หน้าจะเป็นช่วงหุ้นแบงก์ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 และต่อเนื่องด้วยหุ้นกลุ่มอื่นๆ นะจ๊ะ
*ต่อจากนั้นจะเป็นจังหวะของการประชุมเฟดในวันที่ 4 พ.ย. และถัดไปจะเป็นช่วงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ในวันที่ 8 พ.ย. และในช่วงปลายเดือนจะมีการประชุมของกลุ่มโอเปก เพื่อสรุปเรื่องการลดกำลังการผลิตน้ำมันอย่างเป็นทางการ ซึ่งแต่ละเรื่องที่ “โมนิก้า” เล่าให้ฟังมาทั้งหมด ล้วนส่งผลกระทบโดยตรงกับการเคลื่อนตัวของดัชนีเป็นระลอกนะจะบอกให้
*ฉะนั้น การที่ดัชนียืนปิด 1,504.34 จุด ลบไป 9.52 จุด ด้วยมูลค่า 5.13 หมื่นล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่ทำให้รู้ว่า เหล่านักเล่นคงต้องไปกันทีละช็อต เพื่อความคล่องตัวในการลงทุน บวกกับฝรั่งตาน้ำข้าวเริ่มรินหุ้นออกมาขายเรื่อยๆ ย่อมเป็นแรงกดดันต่อการทะยานขึ้นของดัชนีอย่างแน่นอน ซึ่งเห็นได้จากหุ้นหลายตัวเกิดอาการเข่าอ่อนขึ้นมากะทันหันไงล่ะค่ะ
*ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนสุดในเที่ยวนี้ก็คือ BCPG อุตส่าห์ทะยานขึ้นไปยืนถึง 14.10 บาท สุดท้ายกลับอ่อนตัวลงมายืนอยู่ที่ 13.20 บาท ลบไป 0.20 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.89 พันล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นผลพวงจากฝรั่งตาน้ำข้าวเริ่มชิ่ง กองทุนตัวแสบเริ่มถอยฉาก หุ้นถึงไหลจากแดนบวกลงสู่แดนลบอย่างรวดเร็วแบบนี้ มันเหตุการณ์ที่สุดวิสัยจริงๆ นะคะ
*เช่นเดียวกับในรายของ CKP กำลังฟอร์มตัวเพื่อไต่ระดับขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 4 บาทอยู่แล้วเชียว! พอเปิดเทรดปุ๊บ กลับโดนเทขายปั๊บ มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเร็วกว่าที่คาดคิดไว้ก็จริง แต่ถ้าดูดีๆ จะเห็นว่า ทิศทางของหุ้นยังอยู่ในรูปขบวน side way up จึงต้องดูเหตุการณ์ในวันนี้ว่า มีแรงซื้อเข้ามาประคองหุ้นเยอะไหม? เพราะมันหมายความว่า ราคาปิดที่ 3.48 บาท ลบไป 0.26 บาท หรือลงไป 6.95% ด้วยมูลค่า 1.25 พันล้านบาท เป็นจุดของการสะสมของรอบใหม่นะซี
*เหตุการณ์ดังกล่าวคล้ายคลึงกับ IRPC พยายามยกตัวสูงขึ้นตลอดเวลา แต่บรรยากาศการลงทุนไม่เป็นใจ เลยทำได้ดีสุดแค่ปิดเสมอตัวที่ระดับ 5.05 บาท ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่หุ้นแกว่งตัวไปมาในกรอบ 4.80-5.20 บาท ไม่ต่ำกว่า 3-4 รอบด้วยกัน “โมนิก้า” ถึงพยายามบอกให้แฟนคลับ “ข่าวหุ้น” หัดรู้จักปรับตัวให้เข้ากับการลงทุนแบบสั้นๆ เพื่อความคล่องตัวในการลงทุนไงล่ะค่ะ
*เหมือนกับในรายของ TRC ทุกคนต่างเข้าใจถึงสตอรี่ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างดี และมองเห็นตัวเลขกำไรมหาศาลรออยู่เบื้องหน้า แต่สเต็ปการขึ้นของหุ้นยังเป็นลักษณะ “ขึ้นแล้วพัก” ซึ่งเป็นจังหวะของการเข้าทำสั้นๆ บวกกับหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 1.47 บาท บวกไป 0.08 บาท หรือขึ้นไป 5.80% ด้วยมูลค่า 325 ล้านบาท เดี๊ยนคิดว่า มันขึ้นอยู่กับนักเล่นมองเห็นเหมือนกับที่อีฉันมองเห็นอะป่าว…ววว
*ส่วนหุ้นที่กำลังฟอร์มตัวเพื่อไต่ระดับขึ้นไปอีก “โมนิก้า” ขอโฟกัสไปที่หุ้น BCH เพื่อเป็นทางเลือกให้กับนักเล่นรอบ เพราะของมันเห็นกันอยู่แล้วว่า ยอดเดิมอยู่แถว 13.50 บาท ขณะที่ราคาปิดล่าสุดอยู่ที่ 12.50 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 2.50% ด้วยมูลค่า 230 ล้านบาท มันเอื้อให้พวก “คิดเร็ว ทำเร็ว” กระโจนเข้าใส่เพื่อหาค่าขนมเล็กๆ น้อยๆ นะจะบอกให้
*เช่นเดียวกับในราย BIZ กระชากขึ้นมาปิดที่ 4.43 บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 10% ด้วยมูลค่า 270 ล้านบาท ได้รับอานิสงส์จากการขายเครื่องฉายรังสีให้กับ รพ.กรุงเทพฯ เป็นมูลค่ากว่า 165 ล้านบาท และหลังจากนี้จะมีการคอนเฟิร์มจากโรงพยาบาลอื่นๆ เข้ามาอย่างต่อเนื่อง “โมนิก้า” ถึงเชื่อว่า นี่เป็นเพียงก้าวย่างของการเติบโตของหุ้นตัวนี้ เพราะเทคโนโลยีทางการแพทย์เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่พะยะค่ะ
*เม้าท์ถึงการเปลี่ยนแปลงขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ต้องหันมามอง ATP30 เป็นระยะเหมือนกัน เพราะรายนี้มีโปรเจ็กต์ดีๆ ซ่อนไว้เยอะเลยทีเดียว แถมผู้บริหารรู้จักปล่อยของดีออกมาเป็นระลอก ราคาหุ้นเลยไม่รู้จักคำว่า “ลง” ล่าสุดหุ้นขึ้นมาปิดที่ 1.85 บาท บวกไป 0.03 บาท ด้วยมูลค่า 65 ล้านบาท เดี๊ยนถือเป็นทางเลือกสำหรับคนที่กำลังมองหาหุ้นที่ปลอดแรงเทขายกองทุน และอัพไซด์ยังเหลืออีกนะคะ