HTECH เพิ่มทุน 39.2 ล้านหุ้น ขาย PP เล็งย้ายเข้าเทรด SET หลังเพิ่มทุนเสร็จ
HTECH เตรียมออกหุ้นเพิ่มทุน 39.2 ล้านหุ้น ขาย PP หวังนำเงินใช้ขยายกำลังการผลิตแล้วเสร็จปลายปี 60 เล็งย้ายเข้าเทรด SET หลังเพิ่มทุนเสร็จ
บริษัท แฮลเซี่ยน เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ HTECH ระบุว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวานนี้ (10 ต.ค.) อนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนไม่เกิน 39.2 ล้านหุ้น เสนอขายให้กับนักลงทุนในวงจำกัด (PP) เพื่อนำเงินมาใช้ขยายกำลังการผลิตที่มีแผนจะใช้เงินในปี 60 จำนวน 190 ล้านบาท ลงทุนในอาคารเพื่อใช้เป็นโรงงานและสำนักงานรองรับความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้น
โดยก่อนการเพิ่มทุนดังกล่าว บริษัทจะลดทุนจดทะเบียนโดยยกเลิกหุ้นที่ยังไม่ได้จำหน่าย หลังจากนั้นให้เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 300 ล้านบาท จากเดิมที่ 260.81 ล้านบาท โดยออกหุ้นเพิ่มทุน 39.2 ล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 1 บาท เสนอขายให้แก่ PP ไม่เกิน 50 ราย
สำหรับวัตถุประสงค์ในการเพิ่มทุนครั้งนี้ บริษัทมีแผนจะนำเงินไปใช้ขยายกำลังการผลิต ในวงเงิน 190 ล้านบาทในช่วงปี 60 เนื่องจากปัจจุบันบริษัทมีกำลังการผลิตไม่เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า ทำให้เกิดการคงค้างของงานรอส่งมอบโดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าหลักในอุตสาหกรรมผู้ผลิตฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟ (HDD) และอุตสาหกรรมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ที่มีความต้องการใช้สินค้าเครื่องมือตัด (Cutting Tools) ประเภท high-end เพิ่มมากขึ้น
แต่เนื่องจากในปัจจุบันบริษัทมีเครื่องจักรที่สามารถผลิตสินค้าประเภท high-end ไม่เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า ประกอบกับการที่บริษัทขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนเครื่องบิน (Aerospace) ซึ่งมีความต้องการใช้ Cutting Tools ที่เป็น high-end อยู่แล้ว จึงเห็นว่าการขยายกำลังการผลิตในส่วนนี้จะทำให้บริษัทสามารถเพิ่มยอดขายและอัตราการทำกำไรได้อย่างยั่งยืน ดังนั้น บริษัทมีแผนลงทุนในอาคารเพื่อใช้เป็นโรงงานและสำนักงาน มูลค่าลงทุนประมาณ 90 ล้านบาท ซึ่งตั้งอยู่ในที่เดียวกับบริษัทในปัจจุบัน โดยเป็นอาคาร 3 ชั้น คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณกลางปี 60 และบริษัทมีแผนจะยื่นขอการส่งเสริมลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) โดยบริษัทได้เริ่มก่อสร้างแล้วตั้งแต่ปลายเดือนส.ค.ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ภายในปี 60 บริษัทยังมีแผนลงทุนในเครื่องจักรหลักที่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย มูลค่ารวมประมาณ 100 ล้านบาท หลังจากโรงงานใหม่สร้างเสร็จจะทยอยติดตั้งเครื่องจักรใหม่ ซึ่งคาดว่าภายในไตรมาส 4/60 จะสามารถเริ่มผลิตได้ โดยเน้นไลน์ผลิตสินค้า high-end คาดว่าหลังลงเครื่องจักรแล้วในช่วงปลายปี 60 จะสามารถเพิ่มยอดขายโดยรวมได้อีกประมาณ 20-25% จากรายได้เฉลี่ยของ 4 ไตรมาสล่าสุด (1 ก.ค.58-30 มิ.ย.59) เฉลี่ยไตรมาสละประมาณ 80 ล้านบาท
ขณะที่คาดว่าจะช่วยเพิ่มอัตรากำไรของบริษัทให้ดีขึ้น โดยคาดว่าจะดีกว่าอัตรากำไรสุทธิของบริษัทจากผลประกอบการไตรมาส 2/59 เนื่องจากความสามารถในการทำกำไรของสินค้าประเภท high-end จะสูงกว่าเมื่อเทียบกับสินค้าปัจจุบัน ทั้งนี้ บริษัทอาจจะพิจารณาสั่งซื้อเครื่องจักรเพิ่มเติม เพื่อรองรับการผลิตสินค้าปัจจุบันและสินค้าประเภท high-end ขึ้นอยู่กับปริมาณคำสั่งซื้อของลูกค้า โดยคาดว่าจะใช้เงินทุนจากกระแสเงินสด หรือจากเงินกู้ยืมของบริษัท
นอกจากนี้คณะกรรมการบริษัทอนุมัติแผนการย้ายหุ้นของบริษัท เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนใน SET โดยบริษัทจะยื่นแบบคำขอให้รับหุ้นเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หลังเสร็จสิ้นการเสนอขายหุ้นต่อ PP แล้ว และบริษัทมีคุณสมบัติครบถ้วนตามข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์ฯ