เจ็บที่ต้องรู้!โมนิก้าและทีมงาน

*ขอเรียนมิตรสหายแมงเม่าทั่วสารทิศ และแฟนคลับของหนังสือพิมพ์ “ข่าวหุ้น” ตามตรงว่า เดี๊ยนไม่อยากเข้าไปข้องเกี่ยวกับบางเรื่องที่ไม่สมควร เพราะไม่ต้องการเป็นพวกจอมเสี้ยม ซึ่งวันๆ เอาแต่เม้าท์เรื่องร้ายๆ จนทำให้ผู้คนที่ได้ยินข่าวเกิดอาการตื่นตระหนก จนเกิดอาการขวัญหนีดีฝ่อกันอย่างถ้วนหน้านั้น มันเป็นเรื่องราวที่ตามหลอกหลอนนักลงทุนจนถึงทุกวันนี้นะคะ

*สิ่งที่น่าแปลกใจสุดๆ ในเที่ยวนี้กลายเป็นบทสัมภาษณ์ของ “เจ๊เกศรา” ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ ดันออกมาแนะนำให้แมงเม่าหันไปลงทุนในกอง(โจร)ตัวแสบ “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องสักเท่าไหร่? เพราะต้นเรื่องที่ทำให้ทุกอย่างเดินมาถึงจุดนี้ มันมาจากแรงเทขายของกองทุนตัวแสบ ซึ่งทำให้ดัชนีรูดลงหนักตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา…จำได้ไหมเอ่ย!

*หากยังนึกกันไม่ออก “โมนิก้า” ขอให้ไปย้อนดูตัวเลขขายสุทธิที่มีออกมาสูงถึง 7.20 พันล้านบาท ส่วนปอบผีฟ้าทิ้งออกมา 630 ล้านบาท ถัดมาวันอังคารก็สาดหุ้นออกมาอีก 3.30 พันล้านบาท ส่วนปอบผีฟ้าทิ้งไปทั้งสิ้น 1 พันล้านบาท ขณะที่วันพุธทิ้งออกมาอีก 1.20 พันล้านบาท ส่วนปอบผีฟ้ากระหน่ำทิ้งไป 3 พันล้านบาท มันเป็นน้ำมือจากใครกันแน่…ดูให้เต็มสองลูกตาเจ้าค่ะ

*สำหรับสาเหตุที่ทำให้ “โมนิก้า” ต้องออกมาจวกแรงๆ เพราะการที่ผู้จัดการตลาดหุ้นดันชี้ช่องให้นักเล่นไปซื้อกองทุนแทน ซึ่งเหมือนเป็นการผลักไสให้นักเล่นไม่ต้องคิดอะไรเลย และยังเป็นหลักการลงทุนที่ผิดเพี้ยนไปจกที่เดี๊ยนเคยร่ำเรียนมาโดยตรง เพราะในช่วงเวลานี้ควรให้นักลงทุนหน้าใหม่ และหน้าเก่า เก็บเกี่ยวประสบการณ์จากพฤติกรรมของพวกนักลงทุนสถาบันอย่างเต็มที่นะคะ

*เนื่องจากคนในวงการรู้กันเป็นอย่างดีว่า ฉากหน้ากับฉากหลัง…มันเป็นคนละเรื่อง! หรือถ้าจะเปรียบเปรยง่ายๆ คือ เบื้องหน้าทำตัวเป็นแม่พระ ส่วนเบื้องหลังที่แท้จริงเป็นซาตาน ส่งผลให้ภาพพจน์ที่พูดออกมาอย่างสวยหรูเป็นเพียงวาทะกรรม ส่วนสิ่งที่แสดงออกมาให้เห็นกันทนโท่เป็นกำพืด “โมนิก้า” ถึงมีอาการควันออกหูทุกครั้งที่เห็นคนเหล่านี้ชอบ “พูดอย่าง ทำอย่าง” นะจ๊ะ

*ที่สำคัญคือ ไอ้เหตุผลเฮงซวยที่พูดกรอกหูเป็นประจำว่า ต้องขายหุ้นออกโดยอัตโนมัติ เพราะหุ้นร่วงลงมาถึงจุดที่ต้องขาย มันเป็นการอธิบายแบบหน้าด้านๆ เพราะตัวเลขทั้งหมดมันยืนยันไปในทางเดียวกันว่า คนที่ทำให้เป็นเช่นนั้นมาจากพวกกอง(โจร)ตัวแสบเป็นคนจุดประเด็น เพราะในช่วงต้นสัปดาห์ไม่มีปัจจัยใดที่เป็นตัวเร่งให้เทขายหุ้นอย่างเอาเป็นเอาตายนะจะบอกให้

*นั่นหมายความว่า การร่วงหล่นของดัชนีเกือบ 100 จุด ก่อนจะเด้งกลับขึ้นมาปิดที่ 1,406.18 จุด ลบไป 36.03 จุด ด้วยมูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของตลาดหุ้นไทยที่ระดับ 1.30 แสนล้านบาท มันเป็นภาพที่ฟ้องให้รู้ว่า อาการตื่นตระหนกยังมีอยู่ตลอดเวลา และพร้อมจะประทุขึ้นมาอีกครั้งทุกเมื่อ หากมีข้อมูลอะไรบางอย่างเข้าไปกระทบกระเทือนจิตวิทยาในการลงทุนพะยะค่ะ

*ผลพวงของเรื่องดังกล่าวดูได้จากหุ้น AOT รูดลงอย่างรวดเร็ว ก่อนจะมาปิดที่ 356 บาท ลบไป 24 บาท หรือลงไป 6.30% ด้วยมูลค่า 7.52 พันล้านบาท มันเป็นภาพสะท้อนอาการดังกล่าวได้ดีสุด และเมื่อดูจากองค์ประกอบหลายอย่างเข้าด้วยกัน จึงมีโอกาสที่หุ้นจะอ่อนตัวลงไปอีก ส่งผลให้สถานการณ์ตอนนี้เหมาะสำหรับคนที่มีเงินเย็น ซึ่งสามารถนอนกอดหุ้นได้นาน 3-6 เดือนเจ้าค่ะ

*ขนาดหุ้นกลุ่มแบงก์ที่หลายคนเม้าท์ว่าถูกแสนถูก หลังจากค่า P/E ลดลงอย่างฮวบฮาบ สุดท้ายยังมีแรงเทขายออกมาอีกเป็นระลอก “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องที่น่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง เพราะมันหมายความว่า แรงเทขายยังไม่สะเด็ดน้ำ และเมื่อดูจากช่วงลบลดลงแบบไม่เต็มใจ เท่ากับเป็นการซ้ำเติมให้หุ้นเหล่านี้อยู่ในสภาวะที่ย่ำแย่ลงไปอีกในเชิงเทคนิค วันนี้ถึงต้องคิดให้ดีๆ ก่อนจะซื้อนะคะ

*หุ้นอีกหนึ่งตัวที่น่าสนใจในยามนี้คงต้องโฟกัสไปที่หุ้นขายไก่ CPF มีแรงซื้อยัดเข้ามาในช่วงท้ายตลาด จนดันราคาหุ้นจากจุดต่ำสุดที่ระดับ 26.50 บาท ขึ้นมาปิดที่ 29 บาท ลบไป 1 บาท หรือลงไป 3% ด้วยมูลค่า 2.62 พันล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นจังหวะที่น่าสนใจก็จริง แต่เมื่อดูจากแรงเทขายที่พร้อมจะพรั่งพรูออกมาทุกเมื่อ ทางที่ดีรอช้อนซื้อเมื่ออ่อนตัวลงมา แล้วเอากำไรสั้นๆ ดีกว่าเจ้าค่ะ

*หลังจาก “โมนิก้า” เม้าท์ถึงเรื่องหนักๆ มากพอสมควร ก็ขอเปลี่ยนอารมณ์มาพูดถึงเรื่องเบาๆ สบายๆ สักเล็กน้อย เมื่อเดี๊ยนพบว่า “จารุพรรณ” ขึ้นมานั่งในตำแหน่งผู้ช่วยเลขาฯ จึงขอแสดงความยินดีกับน้องคนสวยสักเล็กน้อย เพราะรอมาตั้งแต่ที่เป็นสาวใหญ่ จนป่านนี้กลายเป็นสาวน้อยเสียแล้วแบบนี้ แสดงว่า ฝีไม้ลายมือคงไม่เบานะจะบอกให้