พาราสาวะถี อรชุน

ความจงรักภักดีของพสกนิกรใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท เป็นภาพที่เราสัมผัสไปได้ทั่วทุกหัวระแหงในเวลานี้ ไม่ใช่แค่การไว้อาลัยถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ เท่านั้น หากแต่คนจำนวนไม่น้อยได้เดินตามรอยคำพ่อสอนคือ พอเพียงและทำดี เห็นได้จากการแบ่งปันน้ำใจของคนไทยด้วยกัน ทั้งแจกเสื้อสีดำฟรีสำหรับผู้ที่ไม่มีทรัพย์ไม่มีปัจจัยในการที่จะซื้อมาใส่เพื่อไว้อาลัยถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ

การใช้ยานพาหนะที่ตนเองมีอยู่ไปช่วยรับ-ส่งผู้คนที่จะไปร่วมแสดงความอาลัยถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ฟรี รวมทั้งนำน้ำดื่ม อาหารและสิ่งของต่างๆ ไปแบ่งปันให้กับผู้ที่ไปร่วมแสดงความจงรักภักดี นี่คือสิ่งที่ย้ำกันอีกครั้งว่า เป็นภาพของความเป็นคนไทยโดยแท้ ซึ่งขาดหายไปในช่วงกว่า 10 ปีที่ผ่านมา ถามต่อว่าเราจะรักษาภาพเช่นนี้ต่อไปได้หรือไม่ คำตอบอยู่ที่คนและกลุ่มคนซึ่งสร้างปัญหาและก่อความขัดแย้งจนกลายเป็นภาพลักษณ์ติดลบของประเทศไทยทั้งหลายนั่นเอง

ไม่ต้องแปลกใจที่วันก่อนมีคำสั่งตามมาตรา 44 สั่งปลด หม่อมราชวงศ์สุขุมพันธุ์ บริพัตร พ้นจากเก้าอี้ผู้ว่าฯกทม.พร้อมรองผู้ว่าฯทั้งหมด เพราะระยะเวลาที่เหลือในการทำหน้าที่อีกแค่ไม่กี่เดือน มากไปกว่านั้น คนที่หัวหน้าคสช.แต่งตั้งให้ขึ้นมาทำหน้าที่ผู้ว่าฯกทม.คนใหม่ ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน พลเอกตำรวจเอกอัศวิน ขวัญเมือง อดีตรองผู้ว่าฯในทีมของคุณชายหมูนั่นเอง

หวยออกแบบนี้ ย่อมหนีไม่พ้นคำวิจารณ์ว่ามันจะเกิดประโยชน์อะไร และคงไม่ช่วยให้กระบวนการตรวจสอบความไม่ชอบมาพากลของคุณชายหมูและทีมงานได้รับการยอมรับได้ เพราะการที่ยังมีอดีตรองผู้ว่าฯทีมเดียวกันขึ้นมากุมอำนาจบริหารทั้งหมดของกทม. ย่อมคิดกันได้ว่า จะเอื้อประโยชน์ในการปกปิดข้อมูลและปกป้องพวกเดียวกันหรือไม่

หากผู้มีอำนาจจะใช้เหตุผลที่ว่า ต้องการคนที่เคยผ่านการบริหารงานกทม.มาแล้ว จึงต้องเป็นพลตำรวจเอกอัศวิน ปุจฉาเกิดขึ้นมาทันทีว่า แล้วอดีตรองผู้ว่าฯกทม.หรือผู้บริหารกทม.มีแค่คนเดียวนี้อย่างนั้นหรือ คนที่มีความรู้ความสามารถ มีต้นทุนและได้รับการยอมรับนับถือจากคนส่วนใหญ่ยังมีอีกไม่น้อย ทำไมถึงไม่เลือก หรือว่ามีอะไรที่ไม่ชอบพากลจนต้องใช้คนเดิมไปอุดรูเหม็นโฉ่เหล่านั้นหรือ

ในเมื่อเกลียดเสียงวิจารณ์และไม่ชอบให้ใครมาขุดคุ้ยในสิ่งที่ตัวเองได้ตัดสินใจไปแล้ว มันก็น่าจะทำอะไรให้ดูดีกว่านี้ เหมือนกับหลายกรณีที่ถูกร้องเรียนเรื่องทุจริต แล้วมีการแต่งตั้งผู้ใต้บังคับบัญชาไปสอบผู้บังคับบัญชา แทบจะไม่ต้องเดาผลลัพธ์ที่ออกมาว่าจะเป็นเช่นไร กรณีนี้ก็เช่นเดียวกัน น่าจะเป็นบทพิสูจน์อีกหนว่า แม้จะดูเป็นการตัดสินใจที่เด็ดขาดแต่ท่านผู้นำก็ยังออกลูกเกรงอกเกรงใจใครบางคนอยู่เหมือนกัน

ช่วงนี้มีข่าวลือที่สั่นคลอนกันไปทั้งโลก ว่าด้วยชนวนแห่งการจะเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 อันเกิดจากปรากฏการณ์ความเคลื่อนไหวของรัฐบาลและกองกำลังหมีขาวรัสเซีย จนล่าสุด วอชิงตันโพสต์สื่อฝั่งสหรัฐอเมริกา ต้องออกมาสยบข่าวดังว่า ด้วยการคลี่ปมความเคลื่อนไหวทั้งหลายอันเป็นเหตุให้เกิดความสงสัยของคนทั้งโลก

ประการแรก ข่าวลือที่ว่ามีโปสเตอร์ในย่านของกรุงมอสโกที่เรี่ยไรเงินผู้คนคนละ 500 รูเบิลหรือราว 250-300 บาท อ้างว่าเอาไว้สร้างหลุมหลบภัยระเบิดแห่งใหม่เพื่อเอาไว้หลบการโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์จาก ประเทศที่ไม่เป็นมิตรอันหมายถึงสหรัฐฯและดาวเทียมของมะกัน เรื่องนี้เป็นข่าวลวง สำนักงานข่าววอชิงตันโพสต์ประจำกรุงมอสโกระบุว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องโกหกที่อาจจะสร้างขึ้นมาเพื่อหลอกเอาเงิน

ข่าวลือเรื่องที่ว่าผู้ว่าการเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก อนุมัติแผนการเสริมเสบียงฉุกเฉิน ที่เพียงพอต่อช่วงเวลา 20 วันให้กับผู้อาศัย 5 ล้านคน วอชิงตันโพสต์ระบุว่าเรื่องนี้เป็นแค่การจัดฉากให้กลายเป็นข่าว มีนักวิจารณ์ในรัสเซียฉวยโอกาสเอาเรื่องนี้มาพูดแบบเดียวกับช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ในตอนที่กองทัพเยอรมนีล้อมเมืองในตอนนั้นที่ชื่อเลนินกราดเป็นเวลา 900 วัน

ประเด็นดังกล่าว อเล็กซานเดอร์ โกลทส์ นักวิเคราะห์ด้านการทหารจากสื่อของรัสเซียระบุว่า ขนาดของขนมปังที่ว่ามีจำนวนมากกว่าเสบียงในช่วงปิดล้อมเลนินกราดถึง 2 เท่า แต่วันที่พวกเขาประเมินไว้เป็นแค่ 20 วัน ดูจากอาวุธในยุคสมัยใหม่แล้วถ้าเกิดสงครามจริงคงไม่ต้องการไปมากกว่านี้ นี่คือข่าวที่สวนทางกับความเป็นจริงโดยสิ้นเชิง

ส่วนกรณีที่มีนักการเมืองชาตินิยมสุดโต่งในรัสเซียชื่อ วลาดิเมียร์ ชิรินอฟสกี เตือนว่าถ้าหากสหรัฐฯ เลือก ฮิลลารี คลินตัน เป็นประธานาธิบดีพวกเขาจะต้องเจอกับสงคราม วอชิงตันโพสต์ระบุในทำนองว่าชิรินอฟสกีเป็นคนที่ชอบพูดอะไรเกินจริง อย่างการให้สัญญาว่าจะผนวกเอารัฐอลาสกาเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียให้ได้หรือจับจอร์เจียเป็นทาสแล้วก็ได้ขึ้นหน้าหนึ่งในสื่อ

เมื่อหันไปพิจารณาจำนวนที่นั่งส.ส.ของพรรคที่นักการเมืองรายนี้สังกัดมีส.ส.เพียง 39 ที่นั่งจากจำนวนที่นั่งในสภาของรัสเซีย 450 ที่นั่ง วอชิงตันโพสต์ระบุว่าชิรินอฟสกีเป็นผู้ชื่นชมโดนัลด์ ทรัมป์ แต่ก็อยู่ห่างจากปุ่มกดสั่งยิงนิวเคลียร์มาก นักการเมืองประเภทนี้มีให้เห็นเป็นอย่างมากในประเทศสารขัณฑ์ บางคนเขาเรียกพวกดีแต่พูด

เรื่องรัฐบาลรัสเซียอนุมัติให้มีการแก้กฎหมายที่อนุญาตให้มีการรับสมัครทหารเพิ่มด้วยการให้ทหารกองหนุนและทหารผ่านศึกลงนามในสัญญา 6 เดือน แบบได้รับค่าจ้าง แต่วอชิงตันโพสต์ก็ระบุว่าเรื่องนี้ไม่น่าจะเกี่ยวกับว่าจะเกิดสงคราม โกลทส์กล่าวว่าข้อกำหนดดังกล่าวจะบังคับใช้เมื่ออยู่ในช่วงที่มีสภาพการณ์พิเศษเท่านั้น

แต่หนึ่งในสภาพการณ์พิเศษที่ระบุว่าเพื่อดำรงไว้หรือฟื้นคืนสันติภาพและความมั่นคง อาจจะถูกตีความให้หมายถึงการทำอะไรภายนอกประเทศรัสเซียได้ ในแง่นี้โกลทส์สรุปว่าก็มีความเป็นไปได้ที่รัสเซียกำลังพิจารณาว่าจะมีปฏิบัติการภาคพื้นดินขนาดใหญ่ในซีเรียหรือไม่ สุดท้ายคือการที่รัสเซียเคลื่อนย้ายขีปนาวุธที่สามารถติดหัวรบนิวเคลียร์ได้ไปที่คาลินินกราดใกล้กับกลุ่มรัฐบอลติก

ข่าวนี้ทำให้เกิดความหวาดกลัวในหมู่นักวิจารณ์บางคนว่า พวกเรากำลังจะเข้าใกล้สงครามนิวเคลียร์ อย่างไรก็ตาม พลตรีอีกอร์ โคนาเชนคอฟ โฆษกกลาโหมของรัสเซียก็บอกว่ามีขีปนาวุธลำหนึ่งจงใจแสดงให้ดาวเทียมสอดแนมของสหรัฐฯเห็น และการวางกำลังเช่นนี้เป็นส่วนหนึ่งของการซ้อมรบตามปกติ ทั้งหมดที่ว่ามาอาจสรุปได้ว่านี่คือปฏิบัติการข่าวสารทางทหารหรือไอโอในแบบฉบับรัสเซีย เพื่อการต่อรองอย่างหนึ่งอย่างใด แต่เป็นยุทธวิธีการต่อรองในแบบที่ไม่น่าพิศมัยเท่าใด