พาราสาวะถี อรชุน
วันนี้ยังคงมีพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลปัณรสมวาร (15 วัน) หรือ การทำบุญอุทิศถวายแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในวาระครบรอบวันสวรรคตครบ 15 วัน เพื่อแสดงความกตัญญูกตเวทิตา น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง โดยเวลา 10.30 น. พระสงฆ์ 10 รูป สวดถวายพระพร รับพระราชทานฉันเพล ประเคนผ้าไตรพระ 89 รูปเท่าพระชนมพรรษา และถวายผ้าสดับปกรณ์
วันนี้ยังคงมีพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลปัณรสมวาร (15 วัน) หรือ การทำบุญอุทิศถวายแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในวาระครบรอบวันสวรรคตครบ 15 วัน เพื่อแสดงความกตัญญูกตเวทิตา น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง โดยเวลา 10.30 น. พระสงฆ์ 10 รูป สวดถวายพระพร รับพระราชทานฉันเพล ประเคนผ้าไตรพระ 89 รูปเท่าพระชนมพรรษา และถวายผ้าสดับปกรณ์
ขณะที่ในวันพรุ่งนี้ (29 ตุลาคม) สำนักพระราชวังเปิดให้ประชาชนเข้าถวายสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เป็นวันแรก เบื้องต้นได้รับการยืนยันจาก สุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในฐานะเลขานุการ ศูนย์บัญชาการติดตามสถานการณ์หรือศตส.ว่า ยังไม่มีการกำหนดเวลาสิ้นสุดสำหรับการเปิดให้ประชาชนเข้าถวายสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
อย่างไรก็ตาม เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยทางศตส.ได้มีการประชุมวางแผนรับมือ คลื่นพสกนิกรผู้จงรักภักดีไว้อย่างเต็มที่ แม้สุวพันธุ์จะเตือนว่าไม่ควรเร่งรีบเข้ามาถวายสักการะฯกันในช่วงนี้ แต่จากการประเมินคาดว่า ระหว่างวันที่ 29-31 ตุลาคม ประชาชนจำนวนมากจะเดินทางเข้ามาภายในบริเวณมณฑลพิธี จึงจะปิดการจราจรตามถนนโดยรอบสนามหลวงโดยรอบพระบรมมหาราชวัง
ถนนที่จะทำการปิดการจราจร เช่น ตั้งแต่แยกหลานหลวง แยกอรุณอัมรินทร์ เริ่มปิดตั้งแต่เวลา 07.00 น. และตามแยกต่างๆ โดยรอบ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะมีการแจ้งรายละเอียดให้ทราบ รวมทั้งจะมีเจ้าหน้าที่ประจำจุดต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนผู้ที่จะเดินทางเข้าไปยังมณฑลพิธี นอกจากนี้ ยังได้มีการอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน โดยการเปิดให้รถขนส่งสาธารณะ รถเมล์ขสมก.เข้าไปในพื้นที่ใกล้บริเวณมณฑลพิธี
ส่วนการจัดอำนวยความสะดวกให้ประชาชนเข้าถวายสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จะเป็นการให้รับบัตรคิว และมีจุดพักคอย ซึ่งประเมินว่าจะอำนวยความสะดวกได้วันละ 10,000 คน ด้วยเหตุนี้ทางผู้ที่เกี่ยวข้องจึงขอร้องว่าประชาชนไม่ต้องรีบเร่งเข้ามาช่วงวันแรกๆ ขอให้ทยอยกันเข้ามา เพราะยังมีเวลา นอกจากนี้ ศตส.จะประเมินสถานการณ์เป็นรายวัน หากสามารถเพิ่มจำนวนได้มากขึ้นกว่าวันละ 10,000 คนก็จะเพิ่มให้
อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 1 พฤศจิกายน จะมีการเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชมพระบรมมหาราชวังได้ตามปกติ โดยทางตำรวจจราจรจะได้เตรียมแผนรองรับเรื่องการจราจรของรถทัวร์ประมาณ 200 คัน ซึ่งเป็นทัวร์ท่องเที่ยว โดยเฉพาะเส้นทางจากพระที่นั่งอนันตสมาคมถึงพระบรมมหาราชวัง โดยให้จอดรับนักท่องเที่ยวในจุดเดิมที่เคยปฏิบัติกันอยู่ แต่ตำรวจจราจรจะจัดการบริหารในส่วนนี้ไปตามสถานการณ์
ต้องยอมรับว่า งานพระราชพิธีพระบรมศพของพระมหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ไม่ใช่เฉพาะสถิตอยู่ในใจของคนไทยเท่านั้น หากแต่ยังมีคนต่างชาติอีกจำนวนไม่น้อยที่ได้แสดงความชื่นชมในพระบารมีของในหลวงของปวงชนชาวไทย ดังนั้น ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับงานพระราชพิธีจะต้องไม่ให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียชื่อเสียงของประเทศไทย
ในขณะที่คนจำนวนไม่น้อยยังไร้เรี่ยวแรงและจิตใจที่จะทำเรื่องใดๆ อันเป็นผลสืบเนื่องจากการสูญเสียครั้งสำคัญ แต่ในทางการเมืองเรื่องการตั้งพรรคกลับมีการขยับกันอย่างน่าสนใจ ล่าสุด เปิดตัวกันที่โคราชอย่างคึกคักภายในชื่อพรรคอธิปไตยปวงชนชาวไทย เป้าหมายไม่มีอะไรมากหรือแตกต่างจากพรรคประชาชนปฏิรูปของ ไพบูลย์ นิติตะวัน นั่นก็คือสนับสนุนให้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับมานั่งนายกฯอีกกระทอก
ไม่บอกก็รู้ ดูเจตนาและรายชื่อผู้ร่วมก่อตั้งและร่วมเปิดตัวก็พอจะเห็นเค้าลางบางประการ แต่เพื่อไม่ให้เกิดภาวะฟุ้งกระจายมากไปกว่านี้ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ จึงต้องรีบออกมาปฏิเสธ หลัง ประภาส โงกสูงเนิน ประธานสภาประชาชน 4 ภาค และ สมาน ศรีงาม เลขาธิการพรรคอธิปไตยปวงชนชาวไทยระบุว่า เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการตั้งพรรคดังว่า
โดยยืนยันไม่รู้จักกับทั้งสองคนและไม่ได้อยู่เบื้องหลังตามที่มีการกล่าวอ้าง ไม่เพียงเท่านั้นยังย้ำด้วยว่าตัวเองและบิ๊กตู่ไม่คิดจะเล่นการเมือง หวังว่ามันจะเป็นเช่นนั้นจริง เพราะที่ผ่านมาอดีตเผด็จการทหารหลายรายก็ปฏิเสธเสียงแข็งเช่นนี้ แต่สุดท้ายก็กลืนน้ำลายตัวเองด้วยเหตุผลเสียสัตย์เพื่อชาติ รายล่าสุดก็เป็น พลเอกสุจินดา คราประยูร ผู้ทำให้เกิดเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ 2535
แต่สิ่งที่น่าจับตามองมากกว่ากลับเป็นการเขียนกติกาในกฎหมายลูกของกรธ. ซึ่ง มีชัย ฤชุพันธุ์ กับชาวคณะกำลังสุมหัวกันอย่างขะมักเขม้น โดยเฉพาะในประเด็นที่เกี่ยวกับพรรคการเมือง จากที่เคยขึงขังตั้งต้นของการตั้งพรรคจะต้องมีสมาชิกไม่น้อยกว่า 5 พันคน แต่หนล่าสุดบอกว่าเอาแค่ 500 ก็พอ หายไปตั้งสิบเท่า มันน่าแปลกใจอยู่ไม่น้อย
กระนั้นก็ตาม มีคนบอกว่าไม่ต้องสงสัยในเจตนาของกรธ. นี่คือการเขียนกฎหมายพรรคการเมืองเพื่อให้พรรคเล็กลงหรือพูดให้ชัดมีความต้องการย่อยสลายพรรคขนาดใหญ่ โดยสร้างแรงจูงใจให้กับนักการเมืองที่มักมากอยากมีตำแหน่งแห่งหนในทางการเมือง จึงใช้วิธีการล่อให้ถอนตัวมาจากพรรคใหญ่ไปรวมกลุ่มตั้งพรรคกันเอง โดยมีตัวเลขของส.ว.แต่งตั้งมาเป็นแรงจูงใจ
งานนี้พรรคที่อยู่ในข่ายจะโดนหางเลขไปเต็มๆ หนีไม่พ้นเพื่อไทย แม้ล่าสุดจะมีข่าว 2 เจ๊แห่ง 2 ขั้วใหญ่ในพรรคคือ เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ และ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ บินไปหานายใหญ่ยังถิ่นพำนักดูไบ แต่ด้วยบุคลิกและการไม่ลงรอยของทั้งสองเจ๊ จึงมองไม่เห็นมรรคผลใดๆ ที่จะเกิดขึ้นจากการเดินทางไปดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ใช่ว่าจะมีแค่พรรคนายใหญ่เท่านั้นที่อาจจะเกิดการเปลี่ยนแปลง คู่แข่งสำคัญอย่างประชาธิปัตย์ก็ต้องปรับเปลี่ยนองคาพยพด้วยเหมือนกันหากต้องการกลับมาเป็นที่หนึ่งอีกครั้ง โดยผู้นำต้องไม่ใช่ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ขณะเดียวกันคนของ สุเทพ เทือกสุบรรณ ก็ไม่น่าจะมีที่ยืนในพรรคด้วยเหมือนกัน นั่นเท่ากับว่า สองพรรคการเมืองใหญ่ก็ต้องเดินไปสู่การปรับเปลี่ยน เพียงแต่ว่าจะเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้นหรือเกิดปัญหา อันนี้ต้องติดตามกันต่อไป