AP:ยอดขายไตรมาส 3/59 โตกระโดดแนะนำ”ซื้อ”ราคาเป้าหมาย 9.00 บาท
AP ยอดขายไตรมาส 3/59 เติบโตก้าวกระโดด 72% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนและ 34% เทียบไตรมาสก่อนหน้าเป็น 8.1 พันล้านบาท ผลจากการเปิดขายโครงการคอนโดภายใต้บริษัทร่วมทุน (JV) เป็น 4.2 พันล้านบาท (+208% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน, +10% เทียบไตรมาสก่อนหน้า)
บล.ดีบีเอสฯ ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (31 ต.ค.) ว่า บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ AP ยอดขายไตรมาส 3/59 เติบโตก้าวกระโดด 72% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนและ 34% เทียบไตรมาสก่อนหน้าเป็น 8.1 พันล้านบาท ผลจากการเปิดขายโครงการคอนโดภายใต้บริษัทร่วมทุน (JV) เป็น 4.2 พันล้านบาท (+208% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน, +10% เทียบไตรมาสก่อนหน้า)
โครงการที่ขายได้โดดเด่นคือ หมด (sold out) คือ Rhythm เอกมัย และอีก 3.9 พันล้านบาทมาจากแนวราบ ยอดขายสะสม 9M59 เป็น 19.1 พันล้านบาท (-14% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน) คิดเป็นสัดส่วน 62% จากเป้าขายทั้งปีที่ 31 พันล้านบาท แต่เราคาดว่าปีนี้จะจบปีด้วยยอดขายต่ำกว่าเป้า ได้ที่ 27-28 พันล้านบาท
คาดการณ์กำไร ไตรมาส 3/59 ออกมาอ่อนเป็น 456 ล้านบาท (-27% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน, -2% เทียบไตรมาสก่อนหน้า) ผลพวงจากรายได้ขายที่ 4.3 พันล้านบาท (-20% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน, 0% เทียบไตรมาสก่อนหน้า) ซึ่งการโอนคอนโดน้อยกว่า เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนและที่ทรงตัว เทียบไตรมาสก่อนหน้าเพราะไม่มีคอนโดที่สร้างเสร็จและเริ่มโอนได้ใน ไตรมาส 3/59 และอีกหนึ่งรายการที่กดดันกำไรคือ มีค่าใช้จ่ายขาย-บริหารที่สูง เนื่องจากมีการเปิดขายคอนโดใหม่และจัดงานขาย เฉลิมฉลองครบรอบ 25 ที่ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน
แต่กำไรจะไปสูงสุดในงวดไตรมาส 4/59ได้ประมาณ 1 พันล้านบาท เพราะมีคอนโดก่อสร้างเสร็จและพร้อมโอน สำหรับโครงการที่เป็นของ AP จำนวน 5 โครงการ ทำให้รายได้ออกมาสูง และมีคอนโดภายใต้บริษัทร่วมทุนอีก 2 โครงการที่พร้อมโอนอีก 2 โครงการ ยังผลให้กำไรตามส่วนได้เสียคาดว่าจะสูงเป็น 256 ล้านบาท เทียบกับ 3 ไตรมาสแรกปีนี้ที่เป็นผลขาดทุน 48-60 ล้านบาท
คงคำแนะนำ ซื้อ จัดลำดับให้ AP เป็นหนึ่งในหุ้น Top Pick กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ เพราะกำไรไตรมาส 4/59 คาดว่าจะออกมาดีมาก และกำไรปี 60 โตกระโดดถึง 33% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนส่วนความเสี่ยงคือ การโอนโครงการ Vetterio ซึ่งมีมูลค่าขาย 3.5 พันล้านบาท ให้ได้ตามสมมุติฐาน โดยตามสมมุติฐานเราให้โอนได้ 45% หรือ 1.6 พันล้านบาทในปี 60